ศรีสุวรรณ ร้อง สตง. ตรวจสอบ รฟท. ฮั้วประมูล เปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ วงเงินกว่า 33 ล้านบาท ชี้ไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน

05 ม.ค. 2565  ศรีสุวรรณ ร้อง สตง. ตรวจสอบ รฟท. ฮั้วประมูล เปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ วงเงินกว่า 33 ล้านบาท ชี้ไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน ต้องใช้วิธีเจาะจง ขณะ หมอวรงค์เชื่อมีการทุจริตโดยฝ่ายการเมืองอยู่เบื้องหลัง จี้รมว.คมนาคม แสดงสปิริต สั่งหยุดโครงการรอตรวจสอบ

ล่าสุด วันนี้ หลายฝ่ายเดินทางไปที่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ โดยนาย ศรีสุวรรณ จรรยา ประธานสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมาเข้ายื่นหนังสือร้องถึง นายณัฐวุฒิ จุ้ยสำราญ ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อให้ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างโครงการป้ายชื่อ "สถานีกลางกรุงเทพฯอภิวัฒน์" เนื่องจากจากการตรวจสอบพบ พบว่า พิรุธหลายอย่าง เช่น บัญชีคุรุภัณฑ์ ที่สำนักงบประมาณจัดทำไม่ได้เทียบเคียงกับดารจัดทำป้ายโดยตรง ไม่มีบันทึกการประชุมประเมินราคากลางที่แสดง ให้เห็นถึงการเปรียบเทียบราคาในการจัดทำป้ายของบริษัทต่างๆ ในลักษณะคล้ายกัน แต่กลับใช้วิธีการเจาะจงเลือกบริษัทที่รับผิดชอบโครงการนี้โดยไม่มีการเปิดประมูล ทั้งที่วิธีนี้ใช้เฉพาะกรณีที่เป็นเรื่องเหตุจำเป็นเร่งด่วน หรือที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง แต่การเปลี่ยนป้ายสถานีไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ที่จะต้องจะทำให้เราเสร็จภายในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 และที่สำคัญที่สุดบริษัทที่เข้ามาดำเนินการเปลี่ยนป้ายเป็นบริษัทที่เคยได้รับโครงการของรฟท. มาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 โครงการมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท จึงอาจเข้าข่ายการเอื้อประโยชน์ตามความผิด การเสนองานของรัฐหรือที่เรียกว่าการฮั้วประมูล ตามพ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ที่กำหนดให้มีการเปิดประมูลโดยทั่วไปก่อน แต่หากไม่มีผู้เสนอ จึงจะสามารถใช้วิธีการเจาะจงได้ แต่ในคำชี้แจงของรฟท. ดังนั้นส่วนตัวจึงมองว่า การจัดทำป้าย ใรราคาป้ายในราคาตัวอักษรละ 300,000 บาท สูงเกินไป

ขณะที่นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี เชื่อว่ามีการทุจริตก่อสร้างโครงการปรับปรุงป้ายชื่อ "สถานีกลางบางชื่อ" เป็น "สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์" เอื้อประโยชน์ให้กับเอกสาร เนื่องจากมีการใช้วิธีเฉพาะเจาะจงเลือกบริษัทเข้ามา ดำเนินโครงการในงบประมาณ 33,169,726  บาท ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน และการก่อสร้างไม่ได้มีอะไรซับซ้อน และราคากลางควรจะต่ำกว่านี้ จึงขอให้ สตง. จรวจสอบว่ามีฝ่ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องใช่หรือไม่ เพราะขณะนี้ในสังคมไทย มีการทุจริตคอรัปชั่นจำนวนมาก ทั้งกรณีอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมถึงคดีตู้ห่าว อีกทั้งขณะนี้ฝ่ายการเมืองกำลังหารายได้เพราะใกล้สู่การเลือกตั้ง ดังนั้นเพื่อความโปร่งใสตรวจสอบได้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบ ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบกำหนดวันเวลาให้ชัดเจน อย่าโยนภาระให้หน่วยงานอื่น

ทั้งนี้นายแพทย์วรงค์ ยังเสนอให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสั่งหยุดดำเนินโครงการเปลี่ยนป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อเพื่อรอการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เรียบร้อยก่อน และหากพบว่ามีการทุจริตจะต้องเปิดประมูลราคาไหมเพื่อให้เกิดความโปร่งใส.