บิ๊กตู่แจง 2 ปีที่ผ่านมา ก.กลาโหมลดงบไปมาก สิ่งจำเป็นต้องซื้อก็ต้องซื้อ หากไม่ซื้อจะอยู่อย่างไร-ไม่สามารถรอให้ยุทโธปกรณ์หมดอายุถึงจัดหาได้ เพราะต้องใช้เวลา

2 มิ.ย. 2565  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวชี้แจงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการดูแลสวัสดิการของประชาชนเป็นอันดับแรก แต่ก็ต้องไม่ละเลยขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ซึ่งในการจัดสรรงบประมาณปี 66 รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณ สำหรับดูแลสวัสดิการให้กับเด็กตั้งแต่แรกเกิด เด็กในวัยเรียน ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส ซึ่งมีการเพิ่มงบประมาณให้ทุกปี ดังนั้นภายใต้งบประมาณที่จำกัด รัฐบาลตั้งใจ ที่จะดูแลประชาชนตามช่วงวัย และผู้ด้อยโอกาส เพื่อให้เข้าถึงสวัสดิการโดยตรง และสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน  

ส่วนงบประมาณด้านความมั่นคงนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กระทรวงกลาโหม ได้พยายามใช้งบประมาณอย่างจำกัด เพื่อให้เกิดความพร้อม รองรับกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตทุกรูปแบบ ซึ่งการจัดซื้อ จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ ก็เป็นไปตามการคาดการณ์ตามความจำเป็น ที่ต้องเตรียมแผนการล่วงหน้า เตรียมการฝึกซ้อม และการใช้งาน 

“2 ปีที่ผ่านมา ลดงบประมาณไปมาก แต่ขอให้เห็นใจว่าการดำเนินการต้องวางแผนล่วงหน้า เตรียมงบประมาณ ฝึก ใช้ ไม่สามารถรอให้ยุทโธปกรณ์หมดอายุถึงจัดหาได้ เพราะต้องใช้เวลา ไทยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากใคร ต้องพึ่งตนเอง ตั้งอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และสิ่งที่จำเป็นต้องซื้อ หากไม่ซื้อจะอยู่อย่างไร” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ส่วนงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับตำรวจตะเวนชายแดน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นงบประมาณที่มีความเหมาะสมกับภารกิจในการดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณชายแดน การบรรเทาภัยพิบัติ การปราบปรามอาชญากรรม การพัฒนาคุณภาพชีวิตรวมถึงโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาการศึกษาสำหรับเด็กนักเรียนในพื้นที่ทุรกันดาร ขอให้เข้าใจถึงคนทำงานปกป้องชายแดนว่าต้องเสี่ยงภัยทุกวัน

ด้านงบประมาณสิ่งก่อสร้างของการปฏิรูปตำรวจ ซึ่งมีจำนวนมากนั้น นายกฯกล่าวว่า สวัสดิการด้านที่อยู่อาศัยถือเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้จนท. ผู้ที่ปฏิบัติงาน ทั้งยังต้องเตรียมพร้อมปฏิบัติงาน 24 ชม. ที่พักอาศัยใกล้ที่ทำงานจะทำให้ทำงานได้ทันเวลา ไม่สร้างว่าเรื่องปราบปรามอาชญากรรม ดูแลทรัพย์สินประชาชน  แผนงานก่อสร้างต้องรองรับเพียงพอ ประมาณร้อยละ 70 แต่ขณะนี้สร้างไปเพียงร้อยละ 50 ที่ระบุว่ามีทุจริต มีเรื่องไม่ชอบ มีผลประโยชน์ ขอให้ไปสอบสวนเจ้าหน้าที่ กรรมการผู้รับผิดชอบชี้แจงได้

ยันรัฐบาลจัดสรรงบอย่างเหมาะสม หากมีทุจริต นำหลักฐานมาตรวจสอบ

สำนักข่าวไทย