เสี่ยเจ้าของเต็นท์รถโร่แจ้งความตำรวจศรีสะเกษถูกลูกน้องสาวแสบยักยอกรถขายเกลี้ยงเต็นท์


นายอิทธิมนต์ชัย ตยะพักตร์ เจ้าของเต้นท์รถรถมือสอง ชื่อว่า "คุ้มพยัคฆ์เทพ"ต.สำโรงพลัน อ. ไพรบึง จ ศรีสะเกษ เดินทางไปพบกับ พ.ต.ต .สง่า สมสุข นายร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรอำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ แจ้งความให้ดำเนินคดีกับ น.ส.จินห์จุฑา แก้วมา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97/162 หมู่ที่ 3 ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ยักยอกรถยนต์ไปขายโดยไม่ลงบัญชีและส่งเงินให้บริษัท เป็นจำนวน 66 คันในจำนวนรถทั้งหมดที่มีอยู่ 96 คันประกอบด้วยรถเก๋งเบนซ์ BMW toyota และรถกระบะ ขณะนี้เหลือเพียง 8 คัน เท่านั้นค่าเสียหายประมาณ 15 ล้านบาท
สำหรับเต็นท์แห่งนี้เดิมทีนั้นเป็นเต็นท์ของหลานเขย เป็นเจ้าของบริหารแล้วไม่เจริญรุ่งเรืองขาดทุนที่ดินและรถยนต์จะถูกยึดโดยธนาคารเพื่อขายทอดตลาด จึงมาอุ้มเอาไว้ลงทุนให้เอารถมาลงล็อตแรกจำนวน 100 กว่าคันปรากฏว่าระยะหลังพ่อของเขาเจ็บป่วยไปดูแลพ่อไม่สนใจกับการบริหารเต้นท์ไม่ค่อยได้มาทำงานเฝ้าเต็นท์บ้างหลบไปดูแลพ่อบ้างระยะหลังนี้ก็ออกหนีไปเลยไม่ได้มาบริหาร
ต่อมาจึงให้ น.ส จินห์จุฑา แก้วมา ชื่อเล่นว่า"แต้ว"ซึ่งเป็นลูกน้องอยู่กรุงเทพฯมาดูแลแทนด้วยที่ไม่เคยบริหารงานด้านนี้มาก่อนจึงไม่รุ่งเรืองรถรถแอบขายโดยไม่ลงบัญชีและไม่ส่งเงินให้บริษัท ก็ทยอยหายไปโดยไม่มีมีบัญชีการซื้อขาย
สำหรับนายอิทธิมนต์ชัย ไม่ค่อยจะมีเวลาลงมาดูแลเต็นท์ ประกอบกับไม่มีความชำนาญในการบริหารนี้มาก่อน นายอิทธิมนต์ชัยได้รู้ระแคะระคายในเรื่องรถหายไปจากเต็นท์จึงได้โทรศัพท์มาให้นายเกษศานต์ ศรีโพนทอง เพื่อนสนิทที่อยู่ในพื้นที่ให้มาสังเกตการณ์ดูแลภายในเต็นท์ปรากฏว่ารถร่อยหรอลงเหลือเพียงไม่กี่คันเท่านั้น นายอิทธิมนต์ชัย จึงเดินทางมาดูที่เต็นท์รถนอกจากเห็นว่ารถยนต์จะหายไปเกือบเกลี้ยงเต็นท์ยังพบว่าห้องทำงานนั้นรูปภาพของตนมี่ติดไว้ข้างฝา ถูกแลดลงกับพื้นหันหน้าเข้าฝา เมื่อเห็นดังนั้นจึงโกรธตะโวยลั่นด้วยความฉุนเฉียว นิกจากนี้เครื่องปั้มลม และรถยก หายไปด้วย
อิทธิมนต์ชัย ตยะพักตร์ เจ้าของเต้นท์รถรถมือสอง ชื่อว่า "คุ้มพยัคฆ์เทพ"
จากการสำรวจภายในเต็นท์ยังพบว่ารถสองแถวที่ซื้อไปถวายพระแล้วเครื่องเสียได้นำมาเปลี่ยนเครื่องใหม่ที่เต้นท์ปรากฏว่ารถนั้นหายไปสอบถามจากนายนิวัตร โทอึ้น อายุ42ปี คนล้างรถ บอกว่า นส.แต้ว ให้ขับรถคันนี้ไปส่งให้ทีสวนทุเรียนแห่งหนึ่ง บอกว่าจะเอาไปขายเพื่อเอาค่ารถไป กทม.
อย่างไรก็ตาม นายอิทธิมนต์ชัย เชื่อว่าในการนำรถออกไปจากเต็นท์จะต้องทำเป็นขบวนการหลายคนจึงจะสำเร็จได้จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนสอบสวนนำคนร้ายมาดำเนินคดีให้โดยด่วนด้วยก่อนที่รถจะถูกแยกย้ายถ่ายเทนำไปขายชายแดนกัมพูชาก็เป็นได้
เสนาะ วรรักษ์/รายงาน