ปลูกกาแฟแทรกสวนยางพาราอีกทางรอดชาวสวนภาคใต้ ตลาดต้องการสูง

ปลูกกาแฟแทรกสวนยางพาราอีกทางรอดชาวสวนภาคใต้ ตลาดต้องการสูง





Image
ad1

ส่งเสริมปลูกกาแฟทั่วประเทศเริ่มปลายปี 68-69  “ปลูกยางร่วมพืช” ปีละ 200,000 ไร่ทั่วประเทศ  ขาดแคลนมาก นำเข้าเกือบ 80,000 ตัน เงินกาแฟสะพัดกว่า 30,000 ล้านบาท / ปี  ปี 67 ต้น ๆ ราคากลางเคลื่อนไหวอยู่ที่ 120 – 130 บาท / กก. กลางปี 67 มีการเสนอราคาขาย 160-200 บาท / กก.เก็บเกี่ยวผลผลิตปี 67/68  เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน  คาดราคาพุ่ง 140 – 150 บาท / กก.  แล้งร้อนจัดผลผลิตหาย 40 – 50 % เริ่มแห่สั่งจองต้นพันธุ์กาแฟอื้อ ราคาบริษัทใหญ่ 3 ขนาด 8 บาท 10 บาท และ 15 บาท / ต้น ส่งผลต้นพันธุ์ขาดผลิตไม่ทัน

นายไพรวัลย์ ชูใหม่  อดีตนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการสำนักงานเกษตรจังหวัดพัทลุง  ที่ปรึกษาทำการการเกษตร ฯลฯ  เปิดเผยว่า ภาวะกาแฟในปี 2567 ราคาปรับตัวสูงขึ้น ต่างกับหลายปีที่ผ่านมาเคลื่อนไหวราคาอยู่ที่ 65-75 บาท / กก. โดยได้ทะยอยปรับตัวขึ้นในปี 2567 ราคาตั้งแต่ 120-130-140-150-160 บาท / กก. แต่จะเป็นส่วนเมล็ดขนาดจัมโบ้ 

“ประเด็นเนื่องจากดีมาน์ซัพพลาย ส่งผลให้กาแฟไม่พอตอบสนองความต้องการของตลาดผู้บริโภค สาเหตุสำคัญเนื่องจากทุเรียนมีการขยายตัวปลูกแล้วโค่นกาแฟออก แม้กระทั่งประเทศเวียดนาม ที่เป็นแหล่งกาแฟรายใหญ่ที่ส่งออกมายังประเทศไทย ก็ยังมีการโค่นปลูกทุเรียน” นายไพรวัลย์ กล่าว และว่า 

สำหรับ จ.พัทลุง ปลูกกาแฟเป็นรายขนาดย่อยทั้งสิ้น ขนาด 20 ต้นมี 100 ต้นมี เป็นการปลูกแซมร่วมพืชอื่น เช่น อ.ป่าบอน อ.ตะโหมด อ.กงหรา อ.ศรีบรรพต อ.ศรีนครินทร์ และ อ.ป่าพะยอม ในโซนเทือกเขาบรรทัดเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า และต่างเป็นกาแฟออร์แกนิกส์ ทั้งนี้ปลูกเพื่อการบริโภคและเปิดร้านกาแฟเป็นสำคัญ

แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการธุรกิจการเกษตร เปิดเผยว่า ภาวะกาแฟของไทยมีการขยายในการบริโภคมากขึ้น ทั้งกลุ่มวัยทำงาน ตามไลฟ์สไตล์ โดยมีเครื่องดื่มหลากหลาย ตามร้านสะดวกซื้อ กาแฟสำเร็จรูป กาแฟบรรจุขวดที่เติบโตขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และในขณะเดียวกันการขยายตัวเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวภายในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก 

“ได้ส่งผลกระทบต่อกาแฟเกิดการขาดแคลนส่งผลให้ราคาได้ปรับตัวขึ้นกว่า 100 บาท / กก. จนกระทั้งต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 100,000 ตัน / ปี”

ภาคเอกชนผู้ประกอบการกาแฟ จึงได้มีนโยบายไปยังกรมส่งเสริมการเกษตร การยางแห่งประเทศไทย (กยท.)  ให้มีนโยบายสนับสนุนส่งเสริมการปลูกกาแฟไป เช่น ปลูกกาแฟร่วมยาง และกาแฟร่วมพืชอื่น ๆ ตามโครงการปลูกยางร่วมพืชอื่น ๆ  เนื่องจากทาง กยท.แต่ละปีจะมีการโค่นยางปลูกทดแทนถึง 200,000 ไร่ / ปี จึงมีนโยบายส่งเสริมปลุกกาแฟร่วมพืชอื่น ๆ ทั่วประเทศ 200,000 ไร่ / ปี

และสำหรับทางภาคใต้ ทั้งตอนบนและตอนล่าง มีเป้าหมายจะส่งเสริมปลูกกาแฟร่วมยาง ประมาณ 20,000 ไร่ / ปี ซึ่งจะทำการเริ่มส่งเสริมอย่างจริงจังในปี 2568 – 2569 และตอนนี้มีบางจังหวัดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ปัตตานี ยะลา และ นราธิวาส  สามารถรวบรวมได้แล้วใน 2 อำเภอถึง 5,000 ไร่ แต่ถึงอย่างไรก็ได้มีการปลูกกันแล้วแต่เป็นไปอย่างประปราย ในปี 2567

“โครงการกาแฟถ้าได้ปลูกถึงปีละ 200,000 ไร่ ในระยะปี 2568 – 2567  หากได้ดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมายจะสามารถลดการนำเข้ากาแฟได้ประมาณ 60,000 ตัน / ปี”

แหล่งข่าว ยังกล่าวอีกว่าสำหรับในปี 2567 ราคากลาง ๆ เคลื่อนไหวอยู่ที่ 120 – 130 บาท / กก.  ปรับจากปีก่อนที่เคลื่อนไหวอยูที่ 70-80 บาท / กก. มีแนวโน้มว่าจะปรับตัว น่าจะเคลื่อนไหวในระดับ 140 – 150 บาท / กก. ในปี 2568

“กาแฟมีการขยายตัวเติบโตที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2562  มาจนถึงขณะนี้โดยในปี 2566  ไทยได้ผลผลิตภาพรวมประมาณ 16,575 ตัน เป็นกาแฟพันธุ์อาราบิก้ากว่า 48 % และพันธุ์โรบัสต้ากว่า 51 % ในปี 2566 ที่ผ่านมามีมูลค่าทางการตลาดประมาณ 34,000 ล้านบาท  ซึ่งกาแฟขยายตัวเติบโตเฉลี่ยแล้วกว่า 8 % ปี”

จากที่กาแฟไม่พอต่อการตลาด โดยในปี 2566 ไทยมีมูลค่าการนำเข้ากาแฟกว่า 338 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวประมาณ กว่า 12 % เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่นำเข้าประมาณกว่า 299 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้แบ่งการนำเข้า มีทั้งกาแฟดิบ กาแฟคั่ว กาแฟสำเร็จรูป ฯลฯ โดยกาแฟดิบกว่า 184 เหรียญสหรัฐ ประมาณกว่า 62,171 ตัน กาแฟคั่ว กว่า 27 ล้านเหรียญสหรัฐ ประมาณกว่า 1,647 ตัน และกาแฟสำเร็จรูป กว่า 126 ล้านเหรียญสหรัฐ ประมาณกว่า 15,947 ตัน

“การนำเข้ากาแฟจากต่างประเทศเกือบ 80,000 ตัน / ปี เช่น จากประเทศเวียดนาม เป็นอันดับต้นกว่า 60 % รองลงมาประเทศอินโดนีเซีย และ สปป.ลาว  นอกนั้นมีการนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย สวิสเซอร์แลนด์ และออสเตรเลีย”

ทางด้าน นายอิมรอน หมัดร่วม  เจ้าของกาแฟโรบัสต้าสะเดา ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา  เปิดเผยว่า ภาวะกาแฟในปี 2567 ราคาต้นปี ในส่วนของสารกาแฟธรรมดา เคลื่อนไหวที่ราคา 120 – 130 บาท / กก. แต่สำหรับกาแฟโรบัสต้าสะเดา เป็นกาแฟอินทรีย์ระบบแปรรูปหลายขั้น ขาย โดยจะเป็นการค้าส่งราคา 500 บาท / กก.

นายอิมรอน ยังกล่าวอีกว่า แต่มากาแฟในปี 2567 ราคาได้ปรับตัวสูงขึ้นมากโดยขณะนี้มีการเสนอขายกาแฟโรบัสต้าธรรมดาอยู่ที่ 160 บาท / กก. และบางรายเสนอขายราคากว่า 200 บาท / กก.แต่สำหรับกาแฟโรบัสต้าสะเดาซึ่งเป็นกาแฟพิเศษอินทรีย์แปรรูปหลายขั้นตอน บ่ม สี ฯลฯ ปรับตัวขึ้น 800 บาท / กก. โดยได้ปรับตัวสูงกว่าปี 2566 ที่ราคา 500 บาท / กก. 

นายอิมรอน กล่าวอีกว่า ได้ไร่กาแฟโรบัสต้าระบบอินทรีย์ จำนวน 12 ไร่ งที่ผ่านมาได้ผลผลิตกาแฟเชอรรี่ประมาณ 1,000 กก. หรือจำนวน 1 ตัน แต่มาในปี 2567 คาดการผลผลิตได้ 500 – 600 กก. ผลผลิตจะลดลงไปจากปี่ที่แล้วประมาณ 40 – 50 % โดยจะเริ่มเก็บเกี่ยวประมาณเดือนตุลาคม 2567 ไปจนถึงเดือนกุมพาพันธ์ 2568

“ปัจจัยสำคัญที่ผลผลิตลดลงมาก สาเหตุเกิดจากแล้งร้อนจัดลากยาวส่งผลให้ดอกทิ้งช่วง”

นายอิมรอน กล่าวอีกว่า สถานการณ์กาแฟปี 2567 มีการตื่นตัวปลูกกาแฟกันมากโดยมีการสั่งจองมายังตนปริมาณมาก แต่ไม่มีสินค้าที่จะให้ เพราะต้นพันธุ์กาแฟขาดแคลน จนต้องมีการสั่งจองล่วงในรอบหลายเดือน โดยแหล่งผลิตที่เพาะพันธุ์แห่งเดียว คือ จ.ชุมพร บางรายสั่งจองมากกว่า 2,000 – 3,000  ต้น และบางราย 10,000 ต้น และที่ปลูกกันมากในระยะนี้ คือ อ.สะบ้ายย้อย เป็นเป็นอันดับต้น ๆ รองลงมา อ.จะนะ อ.เทพา อ.สะเดา  แต่ที่สั่งจองกันมากระดับ 10,000 ต้น คือ จ.กระบี่ จ.พังงา เป็นต้น

“ปีนี้ราคาต้นพันธุ์กาแฟมี 3 ขนาด ขนาดแรกมีราคา  8 บาท มีขนาด 10 บาท และขนาดเสียบยอด ราคา 15 บาท / ต้น พันธ์กาแฟขนาดเสียบยอดประมาณ 2 ปีกว่าก็จะให้ผลผลิต ซึ่งกาแฟกลุ่มนี้เป็นของบริษัทกาแฟรายใหญ่ของประเทศ ส่วนต้นพันธุ์กาแฟนอกจากกลุ่มนี้ น่าราคาจะปรับตัวสูงกว่า ตอนนี้มีความต้องการปลูกกันมาก แต่ไม่มีต้นพันธุ์กาแฟ” นายอิมรอน กล่าว.