ปีนี้เกษตรกร4จว.อีสานใต้ป่วยโรคฉี่หนูพุ่ง81รายตาบแล้ว2 โคราชมากที่สุด


นครราชสีมา-ปีนี้ 4 จว.อีสานล่าง ป่วยโรคไข้ฉี่หนูแล้ว 81 ราย ตาย 2 ราย โคราชป่วยมากสุด ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร-รับจ้าง ห่วง ฝนชะเชื้อจากปัสสาวะสัตว์ไหลลงแอ่งน้ำขัง-ดินโคลน ย้ำ ปชช.ป้องกันและหลีกเลี่ยงลุยน้ำย่ำโคลนนาน
วันนี้ (11 สิงหาคม 2567) นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวว่า ช่วงนี้ประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีน้ำท่วมขัง หากเดินลุยน้ำย่ำโคลนด้วยเท้าเปล่า อาจทำให้เชื้อโรคไข้ฉี่หนูปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกายได้ ซึ่งสถานการณ์โรคไข้ฉี่หนูในเขตสุขภาพที่ 9 ล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 – 5 สิงหาคม 2567 พบผู้ป่วย 81 ราย และเสียชีวิต 2 ราย เมื่อแยกเป็นรายจังหวัด พบว่า จ.นครราชสีมา มีผู้ป่วยมากสุด 29 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย รองลงมาคือ จ.บุรีรัมย์ มีผู้ป่วย 21 ราย , จ.ชัยภูมิ มีผู้ป่วย 16 ราย และ จ.สุรินทร์ มีผู้ป่วย 15 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทั้งนี้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกร รับจ้างทั่วไป ปลูกพืชผักและเลี้ยงสัตว์ ส่วนกลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ กลุ่มอายุ 55-64 ปี รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป และ 45-64 ปี ตามลำดับ
ซึ่งผู้ป่วยเป็นโรคไข้ฉี่หนู เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เลปโตสไปรา ที่ปนออกมากับปัสสาวะของสัตว์นำโรค เช่น หนู สุกร โค กระบือ เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน น้ำฝนจะชะล้างเชื้อจากปัสสาวะของสัตว์ที่ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม ไหลลงสู่แหล่งน้ำหรือแอ่งน้ำขัง ดินโคลนที่ชื้นแฉะ เชื้อนี้สามารถไชเข้าทางผิวหนังที่อ่อนนุ่ม มีบาดแผล หรือผ่านทางเยื่อบุตา จมูก และปาก หากลงแช่น้ำ ลุยน้ำ ย่ำดินโคลนโดยไม่สวมอุปกรณ์ป้องกัน ซึ่งหลังจากติดเชื้อประมาณ 1-2 สัปดาห์ ผู้ป่วยจะเริ่มมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตัว ปวดกล้ามเนื้อโดยเฉพาะที่น่องหรือโคนขา ต่อมาอาจมีตาแดง ตัวเหลือง ตาเหลือง ปัสสาวะออกน้อย และหากไม่ได้รับการรักษาหรือเข้ารับการรักษาล่าช้า จะมีอาการไอเป็นเลือด และเสียชีวิตในที่สุด ดังนั้น ขอให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว และแจ้งประวัติการเดินลุยน้ำหรือย่ำโคลนให้แพทย์ทราบ เพื่อจะได้ตรวจวินิจฉัยและทำการรักษาได้รวดเร็ว
แต่หากมีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมหรือต้องลุยน้ำ ย่ำโคลน หรือแช่น้ำที่ท่วมขังนานๆ โดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรสวมรองเท้าบูทและถุงมือยางเมื่อต้องทำความสะอาดบ้านเรือนหลังน้ำท่วม หรือสัมผัสน้ำที่ท่วมขัง ดินที่ชื้นแฉะ และหลังจากลุยน้ำ ย่ำโคลน หรือแช่น้ำท่วมขังแล้ว ให้รีบทำความสะอาดร่างกายด้วยสบู่และน้ำสะอาดทันที โดยหากหลังลุยน้ำย่ำโคลนหรือแช่น้ำท่วมขัง 1-2 สัปดาห์แล้วมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตัว หรือปวดกล้ามเนื้อ ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด และแจ้งประวัติเสี่ยงให้แพทย์ทราบ เพื่อการตรวจรักษาที่รวดเร็วซึ่งช่วยลดอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422