“พ.ต.อ. ทวี” ยกทัพสถาบันการเงิน กยศ. เดินสายไกล่เกลี่ยหนี้ประชาชนชาวชัยภูมิ

“พ.ต.อ. ทวี” ยกทัพสถาบันการเงิน กยศ. เดินสายไกล่เกลี่ยหนี้ประชาชนชาวชัยภูมิ





ad1

“พ.ต.อ. ทวี” ขานรับแก้หนี้สินครัวเรือนวาระแห่งชาติ ยกทัพสถาบันการเงิน กยศ. เดินสายไกล่เกลี่ยหนี้ประชาชนชาวชัยภูมิ ณ โรงแรมสยามริเวอร์ รีสอร์ท ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ

 

เมื่อวันที่ 29 มิย.67 ณ โรงแรมสยามริเวอร์ รีสอร์ท ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบหมายให้ นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ครั้งที่ 21 ร่วมด้วย ตัวแทนสถาบันการเงิน-กยศ.

โดยมีนายธีรยุทธ แก้วสิงห์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ ผู้แทนกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นางสาวนภัสวรรณ สันติสุข ผู้ตรวจราชการกรมบังคับคดี ผู้แทนกรมบังคับคดี นายธงชัย โอฬารพัฒนะชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ และผู้บริหารส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิให้การต้อนรับ

นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า หนี้สินครัวเรือน ถือเป็นปัญหาใหญ่ ที่รัฐบาลถือเป็นวาระแห่งชาติ ที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ จากสถานการณ์ประเทศไทยที่กำลังเผชิญภาวะหนี้สินครัวเรือนที่สูงกว่าร้อยละ 90 ของ GDP ถือเป็นความเปราะบางของภาคประชาชนต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงเศรษฐกิจ เนื่องจากหนี้ที่สูง ย่อมส่งผลให้ครัวเรือนมีความสามารถในการใช้จ่ายและลงทุนต่ำ อีกทั้งหากลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ พร้อมกันจำนวนมาก อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงิน โดยนโยบายแรกที่รัฐบาลได้เร่งดำเนินการ คือ แก้ไขปัญหานี้สินทั้งในภาคเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน โดยรัฐบาลจะลดภาระพี่น้องเกษตรกรด้วยการพักหนี้เกษตรกร

ตามเงื่อนไขและคุณสมบัติที่เหมาะสม รวมถึงมาตรการช่วยเหลือประคองภาระหนี้สินและต้นทุนทางการเงิน สำหรับภาคประชาชนที่ครอบคลุมถึงผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ โควิด19 ให้ได้มีโอกาสในการฟื้นฟูและกลับมาดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง นอกจากนี้รัฐบาลจะมีมาตรการในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของกลุ่มอื่นๆ ภายใต้ปรัชญาที่จะไม่ขัดต่อวินัยทางการเงินและไม่ทำให้เกิดภาวะภัยทางจริยธรรม (Moral Hazard) ของผู้มีภาระหนี้สินในส่วนมิติของกระบวนการไกล่เกลี่ย คือ การสร้างความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ การสร้างความปรองดอง การสร้างสันติภาพบนความขัดแย้ง

การจัดงานในวันนี้ จึงถือเป็นงานที่สร้างความยุติธรรมตามความเป็นจริง ผมจึงอยากฝากข้อคิดเรื่องการไกล่เกลี่ยต้องไม่เอาเปรียบลูกหนี้ แต่สิ่งที่ต้องทำ คือ การสร้างความเป็นธรรม ความยุติธรรม และความพึงพอใจให้เกิดขึ้นกับทุกฝ่าย ลูกหนี้ต้องกลับคืนสู่สังคมด้วยความปกติ ด้วยการคืนศักดิ์ศรีให้ลูกหนี้ ในส่วนของการให้ความรู้ด้านกฎหมาย ถือเป็นการติดอาวุธให้กับประชาชนให้ได้รับความรู้ ไม่ต้องถูกเอาเปรียบ ไม่ถูกรังแก มีศักดิ์ศรี ตลอดจนสามารถสร้างสรรค์สังคมและเศรษฐกิจของประเทศให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

ด้านนายธีรยุทธ แก้วสิงห์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ กล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นที่ทราบกันว่า หนี้ครัวเรือน เป็นปัญหาเรื้อรังของสังคมและเศรษฐกิจไทยและถูกซ้ำเติมให้ทวีความรุนแรงขึ้นด้วยวิกฤตโควิด แม้ว่าขณะนี้รายได้ครัวเรือน มีแนวโน้มทยอยฟื้นตัวตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่ด้วยภาระหนี้ที่สูง ทำให้ประชาชนจำเป็นต้องนำรายได้ที่เพิ่มขึ้นไปชำระหนี้ที่มีอยู่เดิมก่อน ทำให้ไม่สามารถใช้จ่ายได้อย่างเต็มที่ ซึ่งหากไม่ได้รับการแก้ไข หนี้ครัวเรือน จะเป็นปัจจัยฉุดรั้งการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยได้ในอนาคต ทั้งนี้ กระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้ เป็นหนึ่งในหลักการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนได้อย่างยั่งยืน

โดยแนวทางการแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืนจะมี 3 หลักการ คือ ทำครบวงจร ทำให้ตรงจุด และทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ในฐานะหน่วยงานสนับสนุนให้เกิดการไกล่เกลี่ย ตาม พ.ร.บ.การไกล่เกลี่ยภาคประชาชน พ.ศ.2562 ผ่านการดำเนินงานของ ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน ที่มีอยู่ทั่วประเทศ โดยส่งเสริมให้มีการเจรจาหารือกับสถาบันการเงินเจ้าหนี้ ผ่านกระบวนการต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ประสบปัญหาหนี้สินต่างๆ สามารถหลุดพ้นจากวงจรการเป็นหนี้ได้ “ในงานมหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม ครั้งที่ 21 ในครั้งนี้

กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และกรมบังคับคดี พร้อมด้วยสถาบันการศึกษา กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา และสถาบันการเงินร่วมกันจัดขึ้น เพื่อให้ประชาชนที่ประสบปัญหาหนี้สิน ทั้งที่มีคดีก่อนฟ้อง และหลังศาลมีคำพิพากษา ตลอดจนผู้ประสบปัญหาหนี้สินต่างๆ ได้รู้สิทธิตามกฎหมาย เข้าถึงความยุติธรรม รวมถึงสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับการวางแผนและสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชน เพื่อเป็นเกราะป้องกันปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน

โดยภายในงาน ประกอบด้วย 3 กิจกรรม คือ 1) การเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมาย และการสร้างการตระหนักรู้ เกี่ยวกับการวางแผนและสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชน 2) การจัดนิทรรศการประชาสัมพันธ์ ให้คำปรึกษาทางกฎหมายหรือการเงิน3) การให้บริการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ซึ่งเชื่อมั่นมาตรการต่างๆของรัฐบาลจะช่วยให้ประชาชนหลุดพ้นจากวงจรการเป็นหนี้ได้อย่างยั่งยืน

โดย...มัฆวาน วรรณกุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาคชัยภูมิ