หนุ่มใหญ่วัย 52 ร้องถูกทำร้ายร่างกายปางตาย คดีไม่คืบหน้า

หนุ่มใหญ่วัย 52 ร้องถูกทำร้ายร่างกายปางตาย คดีไม่คืบหน้า





Image
ad1

ลุงวัย 52 ร้องเพจสายไหมต้องรอด ถูกไม้ฟาดหน้าปางตาย จมูกหักกระดูกหน้าแตก คดีไม่คืบ หวั่นไม่ปลอดภัย วอนเปลี่ยนข้อหาเป็นพยายามฆ่า

นายชัยยุทธ พันธุ์แสง อายุ 52 ปี เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังจากถูกทำร้ายร่างกายสาหัสด้วยการใช้ไม้ฟาดที่ใบหน้าจนจมูกหักและกระดูกใบหน้าแตก ทำให้หายใจทางจมูกไม่ได้ มีเลือดไหลออกตลอดเวลา แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า จึงกังวลเรื่องความปลอดภัยและวอนขอความช่วยเหลือเร่งด่วน โดยวันนี้ได้นำเสื้อที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุและยาที่ได้รับจากแพทย์มาให้สื่อดูด้วย

น.ส.ภัทรพร พันธ์แสง ลูกสาวของนายชัยยุทธเล่าว่า เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.48 น. พ่อถูกทำร้ายร่างกายด้วยการตีศีรษะจนสลบ เหตุการณ์นี้ทำให้ทั้งพ่อ แม่ และหลาน ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันรู้สึกไม่ปลอดภัย อีกทั้งข้อหาที่ได้รับแจ้งความไว้เป็นเพียงข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งตนมองว่าโทษไม่หนัก จึงอยากให้เพจสายไหมต้องรอดช่วยเหลือในการประสานเจ้าหน้าที่เปลี่ยนจากข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นข้อหาพยายามฆ่า เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนและสะเทือนใจคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก เพราะมีเพียงเด็กกับคนแก่ที่อยู่ในบ้าน ถูกเรียกตัวออกไปทำร้ายทั้งที่พ่อแม่ไม่สามารถต่อสู้ได้

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากการทวงเงินเพียง 5,000 บาทที่ค้างกัน แล้วผู้ก่อเหตุไม่พอใจจึงเรียกพ่อออกไปพูดคุยเพื่อเคลียร์ปัญหา แต่กลับทำร้ายพ่อโดยที่พ่อไม่ทันตั้งตัว ลูกสาวรู้สึกแย่มากกับอาการบาดเจ็บของพ่อและคิดว่าถ้าพ่อโดนตีอีกครั้งอาจเสียชีวิตได้ โชคดีที่แม่เข้าไปช่วยไว้ได้ทัน แต่แม่ซึ่งเป็นผู้หญิงก็ยังถูกตีด้วย ทำให้รู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมากที่พ่อแม่โดนตีทั้งคู่ และกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

นายชัยยุทธ พันธ์แสง ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้น เกิดจากการที่ตนเดินทางไปทวงเงินจำนวน 5,000 บาทจากนายอาซี อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกัน โดยเงินจำนวนนี้เกี่ยวข้องกับการที่ทั้งสองต้องนำไปใช้ในการไถ่ถอนที่ดินจากโรงงานน้ำตาล ซึ่งก่อนหน้านี้เงินจำนวน 10,000 บาทได้สูญหายไประหว่างเดินทางไปไถ่ถอนที่ จึงตกลงกันว่าให้ช่วยกันออกคนละครึ่ง

ต่อมา นายชัยยุทธทราบว่านายอาซีเป็นผู้นำเงิน 10,000 บาทไป จึงเดินทางไปทวงเงินคืน 5,000 บาทที่ตนได้สำรองจ่ายไปก่อนหน้านั้น แต่กลับถูกนายอาซีเรียกออกมานอกบ้าน อ้างว่าจะพูดคุยเคลียร์กัน และทันทีที่ตนก้าวออกจากบ้าน กลับถูกฟาดด้วยท่อนไม้เข้าที่ใบหน้าอย่างแรงจนหมดสติ และไม่สามารถจำเหตุการณ์หลังจากนั้นได้อีก มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่อยู่บนรถกำลังถูกนำส่งโรงพยาบาล

อย่างไรก็ตาม เมื่อตนไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเบื้องต้น กลับไม่ได้รับการรับแจ้งความโดยตรง เจ้าหน้าที่เพียงลงบันทึกประจำวันไว้ และให้ไปพบแพทย์ก่อน จากนั้นจึงค่อยกลับมาแจ้งความใหม่ ทำให้ตนรู้สึกไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม และเกรงว่าจะถูกทำร้ายซ้ำ

ปัจจุบัน นายชัยยุทธได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้แก่ จมูกหัก กระดูกแก้มทั้งสองข้างแตก และมีรอยฟกช้ำตามร่างกายจากการถูกตี โดยเฉพาะที่บริเวณขา ส่งผลให้ต้องหายใจทางปาก และมีเลือดออกจากจมูกตลอดเวลา แพทย์ลงความเห็นในใบรับรองแพทย์ว่า กระดูกใบหน้าและจมูกหัก

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ นายอาซียังคงใช้ชีวิตตามปกติ ไม่แสดงความรับผิดชอบหรือเยียวยาใดๆ ทำให้ผู้เสียหายกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีที่เกิดขึ้น

นายเอกภพ กล่าวว่า จะประสานงานกับ สน.บางโพงพางโดยเร็ว เพื่อสอบสวนหาสาเหตุการทะเลาะวิวาท แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ไม่สมควรทำร้ายร่างกายกันเช่นนี้ และผลการตรวจจากใบรับรองแพทย์ก็ระบุว่าบาดเจ็บสาหัส

ส่วนจะถึงขั้นพยายามฆ่าหรือไม่นั้น ต้องดูแนวทางการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจและผลการตรวจอย่างละเอียดจากแพทย์นิติเวช เชื่อว่าไม่นานน่าจะนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้