ศรีสะเกษ ประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการจัดทำแผนพัฒนาเกษตรกรรมระดับจังหวัด

ศรีสะเกษ ประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการจัดทำแผนพัฒนาเกษตรกรรมระดับจังหวัด





ad1

ศรีสะเกษ ประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการจัดทำแผนพัฒนาเกษตรกรรมระดับจังหวัดพ.ศ 2567 -2570 ภายใต้การขับเคลื่อนแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรม ณ.ห้องประชุม 1 ห้องประชุมเกษตรกรกลุ่มผู้ใช้น้ำชลประทานโครงการชลประทานศรีสะเกษ ต.โพธิ์ อ.เมืองศรีสะเกษ

นางสาวปราณี จันทหอม รองประธานสภาเกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดการประชุมโครงการฯโดยมี นางสาวพิชามญชุ์ แซ่จึง หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดศรีสะเกษในนามคณะผู้จัดโครงการกล่าวรายงานตามพระราชบัญญัติสภาเกษตรกรแห่งชาติพ.ศ 2553 มาตรา 41 บัญญัติว่าสภาเกษตรกรแห่งชาติจะต้องจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรมเพื่อให้บรรลุตามเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในการสนับสนุนสิทธิและการมีส่วนร่วมของเกษตรกรเพิ่มศักยภาพและการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้นทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมตลอดจนการดำเนินงานให้เป็นไปเพื่อเกษตรกรด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง

รวมทั้งเชื่อมโยงกับแผนพัฒนาเกษตรกรรมระดับจังหวัดซึ่งกลไกตามมาตรา 33(4)ให้สภาเกษตรกรจังหวัดเสนอแผนพัฒนาเกษตรกรรมระดับจังหวัดต่อสภาเกษตรกรแห่งชาติเพื่อบูรณาการเป็นแผนแม่บทเสนอต่อคณะรัฐมนตรีตามมาตรา 11 โดยผ่านเวทีรับฟังความคิดเห็นทบทวนแผนพัฒนาเกษตรกรรมระดับจังหวัด โดยเปิดโอกาสให้เกษตรกรร่วมกันคิดวิเคราะห์หาทางออกแก้ไขปัญหาและกำหนดแนวทางตอบสนองความต้องการที่จะพัฒนาภาคเกษตรได้ด้วยตนเอง การดำเนินการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการมีวัตถุประสงค์ดังนี้

1 เพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อร่างแผนพัฒนาเกษตรกรรมระดับจังหวัดและร่วมแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรผู้แทนองค์กรเกษตรกรภาคีเครือข่ายภาคเกษตรกรรม 2 เพื่อบูรณาการขับเคลื่อนแผนพัฒนาเกษตรกรรมระดับจังหวัดไปสู่การปฏิบัติ ผู้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ประกอบด้วยเกษตรกรผู้แทนองค์กรเกษตรกรภาคีเครือข่ายภาคเกษตรกรรมสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องสถาบันการศึกษาจำนวนทั้งสิ้น 100 คน

ผลสัมฤทธิ์ที่คาดว่าจะได้รับได้รับทราบปัญหาแนวทางการดำเนินงานสู่การพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างมีส่วนร่วมในภาคการเกษตร 2 ได้แผนพัฒนาเกษตรกรรมระดับจังหวัดที่ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมฉบับสมบูรณ์ 3 ร่วมบูรณาการขับเคลื่อนแผนพัฒนาเกษตรกรรมระดับจังหวัดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม

เสนาะ วรรักษ/รายงาน