ผู้ว่าปทุมฯพร้อมพุทธศาสนิกชน ร่วมเวียนเทียนวัดโบสถ์เนื่องในวันมาฆบูชา

ผู้ว่าปทุมฯพร้อมพุทธศาสนิกชน ร่วมเวียนเทียนวัดโบสถ์เนื่องในวันมาฆบูชา





ad1

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567ที่วัดโบสถ์ ตำบลบางกระบือ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานีนายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วย นางบุษบา บุญญลักษม์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดปทุมธานี นายคมสัน ญาณวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี  นางลัษมา ธารีเกษ วัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี  หัวหน้าส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดปทุมธานี ได้ร่วมกันประกอบกิจกรรมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือ วันมาฆบูชา ด้วยการเวียนเทียนรอบองค์พระพุทธโสธรองค์ใหญ่โดยมี พระราชเมธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ฝ่ายธรรมยุต กล่าวนำบูชา 

วันมาฆบูชา ถือว่าเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาฎิโมกข์ ซึ่งถือเป็นคำสอนที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ซึ่งได้แก่1. การไม่กระทำความชั่วทั้งปวง2. การกระทำความดีทั้งปวง 3. การทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว  ฉะนั้นเมื่อวันสำคัญเช่นนี้เวียนมาถึง พุทธศาสนิกชน จึงได้พร้อมใจทำบุญตักบาตรในช่วงเช้า และเวียนเทียนในช่วงภาคค่ำ

โดยบรรยากาศประชาชนได้พาครอบครัวมาร่วมเวียนเทียนรอบฐานพระพุทธโสธรจำลององค์ใหญ่ ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา รอบวัดมีทิวทัศน์ที่สวยงาม ทั้งนี้วัดโบสถ์ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2164 โดยชาวมอญที่อพยพมาจาก เมืองหงสาวดี เดิมเป็นวัดเก่าโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คือหลวงพ่อเหลือ ถือเป็นพระคู่บ้านคู่เมือง ของจังหวัดปทุมธานี

ขณะที่วัดสิงห์ อำเภอสามโคก พระครูฎีกาอรรถพล อนุจารี เจ้าอาวาสวัดสิงห์ เป็นประธานในพิธีเวียนเทียนในวันมาฆบูชาโดยมี พุทธศาสนิกชนพาครอบครัวร่วมพิธีเจริญพุทธมนต์และเวียนเทียนรอบอุโบสถเก่าแก่อายุ 355 ปี 3 รอบพร้อมร่วมจุดประทีป รอบอุโบสถถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในวันมาฆบูชา

วันมาฆบูชา เป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 เกิดเหตุการณ์ที่พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าจำนวน 1,250 รูปมาเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ โดยมิได้นัดหมายกัน ทั้งนี้พระสงฆ์ทั้งหมดเป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา6 และเป็นผู้ที่ได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้าในวันนี้พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดง “โอวาทปาฏิโมกข์” ในที่ประชุมสงฆ์เหล่านั้น ซึ่งเป็นทั้งหลักการอุดมการณ์ และวิธีการปฏิบัติ มีเนื้อหาโดยสรุปคือให้ละความชั่วทุกชนิด ทำความดี และทำจิตใจให้ผ่องใส

ทั้งนี้ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว ส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าวัดปฏิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชา เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้รำลึกถึงวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ คือ การเว้นจากการทำชั่วทั้งปวง ทำความดีให้ถึงพร้อมด้วย กาย วาจา ใจ และทำจิตใจให้หมดจดบริสุทธิ์ผ่องใส รวมทั้งร่วมกันสืบทอดหลักคำสอนพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ตลอดไป และสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม