โจ๋ไทรน้อยสุดเถื่อน ยกพวกบุกถล่มบ้านอริปาระเบิดปิงปองดังสนั่น

สุดเถื่อน โจ๋ไทรน้อย ควงอาวุธ ยกพวกบุกถล่มบ้านอริ เบิ้ลรถดังสนั่น ปาระเบิดปิงปอง เหตุติดใจเคลียร์ไม่จบ หลังท้าทายกันในเฟซบุ๊ก

เมื่อวันที่ 21 ม.ค.67 นายวสันต์ รักทะเล กำนันตำบลไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุกลุ่มวัยรุ่นพร้อมอาวุธยกพวกบุกถล่มพังบ้านคู่กรณี พื้นที่ ม.1 ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว กระจกหน้าต่างบ้านที่ติดกับถนน ถูกทุบแตก 3 บาน ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบกลุ่มเด็กวัยรุ่นอายุ 14-16 ปี จำนวน 6 คน ถืออาวุธรวมกลุ่มกันก่อเหตุ

สอบถามนายบุญทิ้ง อายุ 64 ปี เจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหาย กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมามีวัยรุ่นขับขี่รถจักรยานยนต์มาที่บ้าน จากนั้นจึงเบิ้ลเครื่องรถใส่พร้อมกันหลายคัน คาดว่าคงเป็นกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีที่มีเรื่องกับกลุ่มหลานของตนที่ไปมีเรื่องกันข้างนอก ก่อนจะตามมาหาเรื่องต่อที่บ้าน

นายบุญทิ้ง กล่าวต่อว่า เมื่อมาไม่เจอตัวหลานก็เลยระบายใส่ด้วยการทุบกระจกบ้านจนได้รับความเสียหายไปหลายบาน หลังเกิดเหตุได้แจ้งความกับ สภ.ไทรน้อย เพราะเกรงว่าอาจจะถูกกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้กลับมาก่อเหตุซ้ำและรุนแรงกว่าเดิม

ด้านนายเอ วัย 15 ปี กล่าวว่า กลุ่มตนมีเรื่องทะเลาะด่ากันกับกลุ่มคู่กรณี แต่พูดคุยกันจบไปแล้ว แต่วันถัดมากลุ่มคู่กรณีอ้างว่ายังติดใจอยู่ ตนเลยบอกคู่กรณีไปว่า ให้มาตัวต่อตัวกัน จะได้จบๆเรื่องกันไป แต่ฝั่งคู่กรณีไม่ยอมจะยกพวกมา

นายเอ กล่าวต่อว่า จากนั้นกลุ่มคู่กรณีก็ยกพวกขี่รถจักรยานยนต์มาเบิ้ลรถใส่บ้านตนเมื่อคืนนี้ 2-3 รอบ ซึ่งในรอบที่ 3 หลังเบิ้ลรถเสร็จกลุ่มคู่กรณีก็ยกพวกเข้ามาฟันกระจกบ้านจนแตก รวมทั้งปาระเบิดปิงปองเข้ามาในบ้านด้วย แต่โชคดีไม่ระเบิด

นายวสันต์ รักทะเล กำนันตำบลไทรน้อย กล่าวว่า เหตุเกิดเวลาประมาณ 20.00 น. มีกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุเข้ามาเจอกับกลุ่มเด็กคู่กรณีแล้วออกไป จากนั้นได้ย้อนกลับเข้ามาเวลา 5 ทุ่มกว่า จากนั้นจึงทำลายทรัพย์สินและปาระเบิดปิงปองเข้าไปในบ้าน แต่ไม่ระเบิด

นายวสันต์ กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเหตุแล้วตั้งแต่เมื่อคืน รวมทั้งตรวจปัสสาวะของกลุ่มวัยรุ่นผู้เสียหาย แต่ไม่พบสารเสพติด ส่วนคู่กรณีอีกฝั่งกำลังติดตามตัวอยู่ ซึ่งทั้งสองกลุ่มมีปัญหาทะเลาะและท้าทายกันผ่านทางเฟซบุ๊กจนกระทั่งรวมกลุ่มกันมาก่อเหตุ

ด้านตำรวจได้สอบถามเยาวชนทั้ง 6 คน และเก็บข้อมูลทำประวัติไว้ก่อนที่จะให้แยกย้ายกันไป พร้อมกำชับไม่ให้มารวมกลุ่มกันอีก ขณะเดียวกันตำรวจชุดสืบสวนจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามเยาวชนที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป