ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์นายทุนจีนรวบ 29 ผู้ต้องหา ช่วยเหยื่อสาว 2 ราย

ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์นายทุนจีนรวบ 29 ผู้ต้องหา ช่วยเหยื่อสาว 2 ราย





ad1

หญิงไทยที่ถูกขบวนการนรกหลอกผ่านโลกออนไลน์ไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน    อยากกลับบ้าน  “ ต้องโดนบังคับขืนใจ 25 ครั้ง เพื่อแลกกับอิสรภาพ  จึงสามารถกลับมายังประเทศไทยได้  ล่าสุด พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จัดชุดสืบสวนจนพบตัวการสำคัญคือ  “นายใหม่  29 ยอด(คงกระพัน)” ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีค้ามนุษย์ และเป็นถึงระดับคนสนิทของ “อาเหลียง” หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

 โดยนายใหม่มีภารกิจประจำการอยู่ที่เมืองไทย คอยเฟ้นหาคนตกงานเพื่อพาส่งออกไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่หากเหยื่อเป็นสาวหน้าตาดีบางรายก็ถูกส่งไปบำเรอกาม ล่าสุดยังวนเวียนรันวงการอยู่ในพื้นที่นครบาล จนสายข่าวพบว่ากำลังลวงเหยื่อสาว 2 รายถูกบังคับให้เสพยาเสพติดและกำลังจะส่งเหยื่อทั้งสองไปยังประเทศเพื่อนบ้าน Mission 24 ชั่วโมงจึงเกิดขึ้น จนท้ายสุด พล.ต.ต.ธีรเดชฯ สามารถจับกุมตัวได้ และช่วยเหลือหญิงสาวทั้งสองรายได้อย่างหวุดหวิด
           
วันที่ 14  มกราคม  2567 สืบนครบาล และชุด PCT5 ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นาย นภดล ฉายา ใหม่ 29 ยอด อายุ 36 ปี ภูมิลำเนา ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.1403/2566 ลงวันที่ 28 ธ.ค. 66 
           
โดยกล่าวว่า “ร่วมกันค้ามนุษย์โดยบังคับใช้แรงงาน , ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือยอมจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายผู้อื่น , หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น และร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” และ  "“มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต ,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และสามารถทำการตรวจยึด ดังนี้

    
1.ปืนแบลงค์กัน ยี่ห้อ sig sauer p365 (ปืนแปลง) ขนาด .380 acp จำนวน 1 กระบอก
      
2.กระสุนปืนขนาด .380 acp บรรจุภายในแมกกาซีนแบลงค์กันจำนวน 8 นัด , 7 นัด และ แมกกาซีนแบลงค์กัน (แมกกาซีนแปลง) จำนวน 2 อัน
     
3.ยาเสพติดประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) จำนวน 8 ซอง
    
4.อุปกรณ์ในการเสพ
           
พบประวัติเคยถูกจับกุมในข้อหา “วิ่งราวทรัพย์” เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 65 พื้นที่ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี
           
จับกุมตัวได้ที่ คอนโดชื่อดังย่านลาดพร้าววังหิน แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว จ.กรุงเทพฯ

 พฤติการณ์กล่าวคือ “ต้องโดนข่มขืน 25 คน  ถึงจะกลับบ้านได้” เสียงจากหญิงสาวผู้เสียหาย แจ้งกับ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ด้วยน้ำเสียงสั่นเคลือ หลังจากเธอถูกขบวนการค้ามนุษย์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงไปตกนรกอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านราว 1 เดือน ก่อนจะหนีกลับมายังประเทศไทยได้อย่างหวุดหวิด และเข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่นำมาสู่การสืบสวนสาวไส้ขบวนการนี้ โดยขบวนการนรกนี้เรียกได้ว่าเป็นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และขบวนการค้ามนุษย์อย่างครบวงจร โดยมีบอสใหญ่ชาวไต้หวันชื่อว่า “อาเหลียง” ผู้เป็นหัวหน้าขบวนการ ซึ่งมีออฟฟิศของแก๊งคอลเซ็นเตอร์กว่า 8 ตึก อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน และได้ส่งคนไทยที่เป็นคนสนิทคือ “นายใหม่” มาฝังตัวอยู่ในประเทศไทย ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายหาคน  โดยหาจากในกลุ่มหางานตาม Tiktok Facebook ก่อนแชทสนทนาไปเจรจาเพื่อเฟ้นหา ผู้ที่เหมาะสม  และจะไปรับและส่งพาข้ามประเทศไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของอาเหลียงในประเทศเพื่อนบ้าน  แต่ที่เลวร้ายคือ หากเป็นหญิงสาวที่หน้าตาดี จะถูกส่งไปเป็น “อย่างอื่น” ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นนรกบนดินอย่างแท้จริง ซึ่งเหยื่อรายล่าสุดเธอได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่าตนเองได้ถูกข่มขืนไปกว่า 25  ครั้ง จึงจะสามารถหนีกลับประเทศมาได้ และยังให้ข้อมูลอีกว่าปัจจุบัน นายใหม่ ยังคงหลบซ่อนตัวและวนเวียนอยู่ในพื้นที่ จ.กรุงเทพฯ คอยส่งคนออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านอยู่เช่นเดิม 

พล.ต.ต.ธีรเดชฯ สืบสวนจนทราบว่าคือ นายนภดล หรือใหม่ 29 ยอด ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับในคดีค้ามนุษย์ฯ และได้ข้อมูลจากสายข่าวรายงานว่าพบเห็น นายนภดลฯ พาหญิงสาวหน้าตาดีซึ่งน่าจะเป็นเหยื่อกว่า 2 ราย อยู่ละแวกลาดพร้าววังหินและมีการบังคับให้เธอทั้งสองเสพยาเสพติด ก่อนจะเตรียมส่งเหยื่อไปตกนรกที่ประเทศเพื่อนบ้าน สถานการณ์บีบคั้นด้วยเวลาหากปล่อยถึงรุ่งสางจะต้องมีเหยื่อหญิงสาวถูกส่งไปตกนรกอีก 2 ราย กลางดึกของวันที่ 13 ม.ค. 66 หลังได้ทราบการข่าว พล.ต.ต.ธีรเดชฯ ส่งชุดสืบมือพระกาฬลงพื้นที่โดยเร่งด่วน โดยมีโจทย์เดียวคือ “ต้องหาให้เจอก่อนเช้า” เรียกได้ว่าเป็น Mission Impossible 3 ชั่วโมงนรกของชุดสืบสวน กระทั่งสามารถจับกุม นายนภดลฯ และสามารถช่วยเหลือหญิงสาว 2 ราย ที่กำลังจะถูกส่งไปเป็นนางบำเรอกามในประเทศเพื่อนบ้าน รอดพ้นขุมนรกอย่างหวุดหวิด จากการตรวจค้นห้องพักของนายนภดลฯ พบ อาวุธปืนแบงค์กันแปลง (ไทยประดิษฐ์) สีดำ 1 กระบอก พร้อมกระสุน 30 นัด และ ยาไอซ์ จำนวน 8 ซอง
         
ในชั้นจับกุม นาย นภดลฯให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองจบการศึกษาระดับ ปวช. ใน จ.กรุงเทพฯ แต่มีพื้นเพเดิมเป็นคน จ.เชียงใหม่ โดยที่ชีวิตเริ่มหักเหเกิดจากที่ ราวๆปี 2560 ตนเองได้เห็นแฟนสาวมีเพศสัมพันธ์กับพ่อเลี้ยงของตนเอง จึงทำให้กลายเป็นคนสติแตกและพยายามผูกคอตาย แต่ก็รอดมาราวกับปาฎิหาร เพราะมีโจรมาขโมยมะม่วงที่ต้นไม้ที่ผูกคอพอดี หลังจากนั้นจึงเริ่มเดินสายเดินทางไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเวลากว่า 3 ปี ซึ่งเคยทำงานมาในแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาแล้วว่า 6 แห่ง ในพื้นที่ จ.สีหนุวิล , จ.ปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยเคยหลอกลวงมาหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นสายที่ 1 หลอกว่ามีพัสดุ หรือหลอกให้หลงรักแล้วให้เทรดบิตคอยน์ โดยตนเองทำมาหมดเกือบทุกอย่างแล้ว และมีครั้งหนึ่งที่ได้เงินมากที่สุดคือหลอกให้หญิงคนหนึ่งหลงรัก ซึ่งรอบนั้นหลอกได้เงินจำนวน 10,000,000 บาท ซึ่งท้ายสุดก็ได้ไปเจอกับอาเหลียง บอสใหญ่และได้รับมอบหมายหน้าที่ให้มาอยู่ในประเทศไทย คอยหาคนพาข้ามไปทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ โดยตนเองจะมีหน้าที่หาคนรวมไปถึงพาไปส่งที่บริเวณชายแดนปอยเปต และหลังจากนั้นบอสก็จะส่งคนมารับพาข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ได้ค่าจ้างจากบอสหัวละ 5,000 บาท ส่วนยาเสพติดในห้องนั้นตนเองมีไว้เพื่อขายให้กับชาวจีนที่มาเที่ยวในประเทศไทย ส่วนปืนนั้นมีไว้ป้องกันตัวเองเพราะกลัวอาเหลียงจะมาเอาชีวิตเพราะได้เบี้ยวงานในห้วงหลังๆที่ผ่านมา” หลังจับกุมตัว ได้นำตัว นายนภดลฯ ส่งตัวและนำของกลางที่ตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป