ร้องนักวิชาการม.ดังคืนเงินแก่ผู้ใช้แรงงานที่อยู่ในโครงการธนาคารแรงงาน

หนังสือขอความเป็นธรรม

เรียน    ดร.อรรถวิท อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต / ศูนย์ดารงธรรมจังหวัดปราจีนบุรี / ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111

เรื่อง    ขอความเป็นธรรมคืนเงินแก่ผู้ใช้แรงงานที่อยู่ในโครงการธนาคารแรงงานของ รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ และ น.ส.อรอนงค์ นิธิภาคย์ นักวิชาการที่เป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยรังสิต

ข้าพเจ้าขอสงวนชื่อ – นามสกุล เนื่องจากเป็นหนึ่งในสมาชิก ชมรมผู้ประกันตนที่เข้าร่วมในโครงการธนาคารแรงงาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนาร่องของโครงการเสริมสรางความเข้มแข็งขบวนการแรงงานเพื่อการคุ้มครองสุขภาพและสวัสดิการแรงงาน (สสร.) เมื่อปี 2551 - 2553 ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จานวน 47 ล้านบาท โดยมี รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ ในฐานะหัวหน้าโครงการ สสร.และ น.ส.อรอนงค์ นิธิภาคย์ นักวิชาการที่เป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยรังสิตในปัจจุบันเป็นอดีตผู้บริหารโครงการฯ ดังกล่าว ซึ่งก่อนจะเป็นโครงการธนาคารแรงงาน เกิดการรวมตัวของผู้ใช้แรงงานก่อตั้ง ชมรมผู้ประกันตน ที่มีนายสมศักดิ์ ทองงาม เป็นประธาน โดยมี รศ.ดร.ณรงค์ และ น.ส.อรอนงค์ เป็นที่ปรึกษาชมรมฯ และควบคุมการบริหารจัดการทางการเงินของทั้งชมรมผู้ประกันตนและโครงการธนาคารแรงงาน รวมถึงมีผู้ใช้แรงงานที่มีรายได้น้อยของแต่ละจังหวัดร่วมเป็นคณะกรรมการและสมาชิกจัดตั้งกลุ่มเรียนรู้ทั้งที่เป็นแรงงานในระบบและนอกระบบระดมเงินออมของสมาชิก รายชื่อคณะกรรมการและแกนนาแรงงานดูเพิ่มเติมจากเอกสารแนบท้าย 1

โครงการ สสร. ปิดตัวลงไปแล้วตั้งแต่ปี 2553 สถานะทางการเงินโครงการธนาคารแรงงาน ในวันที่  31 พฤษภาคม 2553 มีเงินฝาก 127,535 + 300,000 = 427,535 บาท รศ.ดร.ณรงค์ และ น.ส.อรอนงค์ อดีตผู้บริหารโครงการ สสร. ไม่ได้คืนเงินแก่สมาชิกชมรมผู้ประกันตน 

อนึ่ง โครงการธนาคารแรงงาน ได้สัญญากับสมาชิก ว่าหากฝากออมทรัพย์ได้ดอกเบี้ย ร้อยละ 1  ฝากลงทุน ไม่มีดอกเบี้ย แต่ได้เป็นปันผลหลังจากฝากครบ 1 ปี และ การปล่อยเงินกู้ กลุ่มออมทรัพย์ ที่นาเงินมาฝากสามารถกู้ได้เป็น 1.5 เท่าของเงินที่ฝากดอกเบี้ยร้อยละ 8 แต่ตลอดระยะเวลาเกือบ 13 ปี ทั้ง รศ.ดร.ณรงค์ และ น.ส.อรอนงค์ ไม่ได้ชี้แจงความคืบหน้าผลประโยชน์จากทั้ง "ดอกเบี้ย" และ "เงินประโยชน์สะสม" ของโครงการธนาคารแรงงานแก่สมาชิกแต่อย่างใด ดูเพิ่มเติมเอกสารแนบท้าย 2

มิหนาซ้ำ ทั้ง รศ.ดร.ณรงค์ และ น.ส.อรอนงค์ ได้นำเงินในโครงการธนาคารแงงาน ไปปล่อยกู้ให้กับนิติบุคคลแห่งหนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรี วงเงินกู้ยืมเงิน 7.2 แสนบาท อัตราดอกเบี้ย 4.5% ได้รับเงินผลประโยชน์จากดอกเบี้ย 6.8 หมื่นบาท ระยะสัญญาประมาณ 2 ปีกว่า  รวมถึง น.ส.อรอนงค์ เสนอตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง "บอร์ดประกันสังคม" ในนาม กลุ่มสมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย (สสรท.) ได้ประกาศหาเสียงว่า "หากได้เข้าไปเป็นบอร์ดฯ จะเลือก การลงทุนทางตรงกับผู้ประกันตน โดยเฉพาะเรื่องของธนาคารแรงงาน เพื่อให้ผู้ประกันตนเข้าถึงแหล่งทุนได้โดยตรง" ดูเพิ่มเติมเอกสารแนบท้าย 3

จนกระทั่งปัจจุบันโครงการธนาคารแงงาน พบว่ามีเงินสะสมอยู่กว่า 7 แสนบาท ล่าสุดหนึ่งในกรรมการชมรมผู้ประกันตน คือ นายสันติภาพ แสนจันทร์ ได้ไปติดตามทวงถามสถานะทางการเงิน พร้อมกับมีความประสงค์ถอนเงินออกจากโครงการ ธนาคารแรงงาน จากนั้นเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2566 น.ส.อรอนงค์ ยินดีคืนเงินให้ 64,802 บาท รวมกับผลประโยชน์จากทั้งดอกเบี้ย และเงินประโยชน์สะสม ตั้งแต่ปี 2553 - 2566 หรือเป็นเวลา 13 ปี หลักฐานการโอนเงินจาก น.ส.อรอนงค์ ให้กับ นายสันติภาพ แสนจันทร์ พร้อมกับหนังสือขอถอนเงินดูได้จากเอกสารแนบท้าย 4

อย่างไรก็ตาม ยังมีอดีตสมาชิก ชมรมผู้ประกันตน ที่ฝากเงินในโครงการ ธนาคารแรงงาน มีอีกจานวนมากที่มีความต้องการถอนเงินคืน แต่เนื่องจากเป็นเพียงผู้ใช้แรงงานที่มีรายได้น้อยทั่วไป ไม่ได้เป็นแกนนาผู้ใช้แรงงาน หรือ กรรมการชมรมผู้ประกันตนเหมือนนายสันติภาพ จึงเป็นที่มาของการส่งหนังสือร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรมแก่หน่วยงานของท่าน ให้ช่วยติดตามทวงถามเพื่อขอให้ รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ และ น.ส.อรอนงค์ นิธิภาคย์ นักวิชาการที่เป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยรังสิต เห็นใจผู้ใช้แรงงานทั่วไปที่มีรายได้น้อยด้วยการคืนเงินพร้อมดอกเบี้ย และ เงินประโยชน์สะสมกว่า 13 ปีคืนแก่ผู้ใช้แรงงานได้นาเงินของตัวเองที่อยู่ในโครงการธนาคารแรงงาน ได้นาไปดูแลเศรษฐกิจครอบครัวของตัวเอง จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาขอความเป็นธรรมจากท่าน

                                                                                                ขอแสดงความนับถือ

                                                                                    สมาชิกชมรมผู้ประกันตนท่านหนึ่ง