ญาติหนุ่มซิ่งเบ๊นซ์มอบเงินปลงศพ 2 เหยื่อสาวพี่น้องดับ
จากกรณี ในช่วงเช้ามืด วันที่ 14 ธ.ค.66 นายนพรัตน์ ยืนยง อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 251 ม. 1 ต.เมืองงาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ขับรถเบนซ์ GL B 200 สีขาว ทะเบียน 1 ขผ 9644 กทม. ออกจากงานคอนเสิร์ตแอ๊ดคาราบาว ที่จัดขึ้นที่หน้าเทศบาลเมืองหนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ไปชนกับรถรถจักรยานยนต์ Honda สีดำ ทะเบียน กบล.131 ปราจีนบุรี ส่งผลให้น.ส.สุวรรณา ขุมเงิน อายุ 43 ปี และ น.ส.ประทานพร ขุมเงิน อายุ 37 ปี ทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน อยู่บ้านเลขที่ 14 ม. 10 ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เสียชีวิตคาที่ นั้น
เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดปราจีนบุรี ได้เดินทางไปที่ สภ.กบินทร์บุรี เพื่อตรวจหาร่องรอยและหลักฐานการเกิดอุบัติเหตุ จากรถเบนซ์ GLB 200 สีขาว ทะเบียน 1 ขผ 9644 กทม. จากการตรวจสอบพบว่า ภายในรถถุงลมนิรภัยทำงานทั้งหมด ส่วนสภาพรถพังเสียหาย และที่บริเวณประตูหน้าขวายังพบซากเศษเนื้อของผู้เสียชีวิตติดอยู่
ส่วนนายนพรัตน์ ยืนยง อายุ 46 ปี ทางแพทย์ได้อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว และได้เดินทางไปพบนักงานสอบสวน ที่ สภ.กบินทร์บุรี จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ในช่วงก่อนเกิดเหตุได้ไปร่วมงานคอนเสิร์ตแอ๊ด เมื่อเลิกงานไปขับรถไปส่งเพื่อนก่อนเดินทางกลับเข้ามาในตลาด จนเกิดหลับนัยทำให้เกิดเหตุ โดยที่ตนเองไม่ได้มีเจตนา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ขับรถโดยประมาทเป็นให้ผู้ต้องเสียชีวิต ส่วนผลการตจรวจปริมาณแอลกอฮอร์ต้องการผลจากทางแพทย์อีกครั้ง จากนั้น ทางญาติได้นำเงินสด จำนวน 2 แสนบาท มาประกันตัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จึงได้อนุญาตให้ประกันตัวออกไปเรียบร้อยแล้ว
กล้องหน้ารถของนายนพพรัตน์ ที่ติดหน้ารถเบนซ์ สามารถจับภาพได้ขณะที่นายนพพรัตน์ขับรถเข้าไปในตลาดโคกอุดม เมื่อถึงทางแยกซึ่งจะต้องเลี้ยวขวา แต่ปรากฏว่าที่เจ้าตัวบอกหลับใน ทำให้รถวิ่งสวนเลนส์ตรงไป เป็นช่วงที่ น.ส.สุวรรณา ขุมเงิน ผู้เสียชีวิต ที่ขับรถรับ น.ส.ประทานพร ขุมเงิน น้องสาวที่เลิกงานจากโรงงานเพื่อกลับบ้าน จึงถูกรถเบนซ์ชนจนทำให้น้องสาวที่นั่งซ้อนท้ายเสียชีวิตร่างขาด 2 ท่อน ส่วนพี่สาวก็เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ส่วนรถเบนซ์เสียหลักพุ่งเข้าชนกำแพงปูนของที่ทำการไปรษณีย์จนกำแพงทะลุ รถพลิกคว่ำล้อชี้ฟ้า
นายนพรัตน์ ยืนยง คนขับรถเบนซ์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อคืนผมไปงานที่คาราบาว จริงๆผมมาทำงานที่กบินทร์บุรี ที่นิคมอุตสาหกรรม พอดีมีงานที่คาราบาวก็เลยไปงานคาราบาว พอออกจากงานก็ไปส่งน้องที่รู้จักกัน เสร็จแล้วก็ด้วยความที่เหนื่อย ทั้งทำงานและไม่ได้นอน ตีรถมาจากกรุงเทพฯตั้งแต่ก่อนหน้านั้น ก็ไม่ได้นอนก็เลยหลับในก็เลยไปชนหรือทำให้เขาเสียชีวิต ตอนนี่ยังรู้สึกตกใจและช๊อคอยู่ ยังเสียใจและขอโทษไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ และพร้อมที่จะช่วยเหลือเยียวยาตามสมควร ผมต้องขอโทษจริง ๆ ผมเข้าใจว่าการสูญเสียบุคคลที่เป็นที่รัก 2 คนพร้อมกัน มันก็หนักอยู่ ผมก็ถามตำรวจเหมือนกันว่าถ้าผมตายไป มันจะจบเรื่องได้อย่างไร เขาก็บอกว่าค่อย ๆ เยียวยากันไป
ส่วนที่สำนักสงฆ์ ศูนย์ปฏิบัติธรรมโคกอุดม ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี ทางญาติของผู้เสียชีวิตได้เดินทางไปรับศพ น.ส.สุวรรณา ขุมเงิน อายุ 43 ปี และ น.ส.ประทานพร ขุมเงิน อายุ 37 ปี ทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน จากโรงพยาบาลกบินทร์บุรี ได้ตั้งบำเพ็ญกุศล โดยมีญาติและผู้เคารพนับถือร่วมพิธีรดน้ำศพเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติเป็นอย่างมากที่ผู้เสียชีวิตจากไปอย่างกะทันหันส่วนการบำเพ็ญกุศลจะตั้งสวดบำเพ็ญกุศล 3 คืน ทำการฌาปนกิจวันที่ 17 ธ.ค.66 เวลา 16.00 น.
ส่วนรายละเอียดก่อนเกิดเหตุนั้น นางสำลี ขุมเงิน มารดา ได้ข้อมูลว่า น้องสาวทำงานล่วงเวลา และพี่สาวมออกจากงานคอนเสิร์ตแล้วมารับน้องเพื่อกลับบ้านพร้อมกัน ขณะเดินทางกลับเกิดอุบัติเหตุ
ดังกล่าว
ช่วงค่ำของวันที่ 14 นายเอกชัย พฤทธธ์นัย ลูกพี่ลูกน้องและญาติพร้อมทนายความได้ไปมอบเงินค่าปลงศพให้กับทางญาติในเบื้องต้น ยอมรับว่าเป็นฝ่ายผิดและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากการพูดคุยทางญาติผู้เสียชีวิตให้อภัย และรู้สึกดีขอโทษและยอมรับผิด และจะมีการพูดคุยกันถึงรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ด้านคุณยายสำลี ขุมเงิน(ผู้แม่)กล่าวว่าท่านอยากรู้สึกดีใจและอโหสิกรรมให้ที่ทางญาติคู่กรณีเข้ามาพูดคุยด้วย
