ส่งออกยางไทยเดี้ยงจีนยักษ์ใหญ่โลกออเดอร์หดเหตุยุโรปไม่ซื้อสินค้าจากแดนมังกร

“ยาง” ไม่เวิร์ค” จีนตลาดยักษ์ใหญ่ของโลกออเดอร์น้อย ปัจจัยลบจากกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (EU) สหรัฐอเมริกา แอนตี้สินค้าจีน ส่งออกได้เฉพาะกลุ่มประเทศอาฟริกาใต้ อเมริกาใต้ และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ทำให้จีนต้องหันหัวรบปรับกลยุทธใหม่ไปร่วมทุนกลุ่มประเทศอาเชียน,ไทย, เวียดนาม, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และสปป.ลาว

นายกัมปนาท วงศ์ชูวรรณ ผู้จัดการ กลุ่มเกษตรกรทำสวนธารน้ำทิพย์ สถาบันเกษตรกรแปรรูปยางส่งออกรายใหญ่ภาคใต้ เปิดเผยว่า ภาวะการค้ายาง และการส่งออกยังคงชะลอตัวมาก เพราะตลาดยางรายใหญ่ของโลกคือประเทศจีนที่ไทยส่งออกเป็นอันดับต้น ๆ มีออเดอร์ปริมาณน้อย และออเดอร์เท่าเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

สาเหตุว่าเพราะแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์แล้วไม่สามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ยางไปยังกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (EU) และสหรัฐอเมริกาได้ เพราะกลุ่มประเทศ EU และสหรัฐ มีการแอนตี้สินค้าไม่ซื้อสินค้าจีนจากปัจจัยทางการเมือง
“แต่จีนยังสามารถส่งออกได้ไปยังกลุ่มระบบเศรษฐกิจเครือข่ายOne Belt, One Road (OBOR) หรือยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหมใหม่ที่จีนนำ ทั้งนี้เพื่อพัฒนาความเชื่อมโยงด้านการคมนาคมและโลจิสติกส์ระหว่าง 60 ประเทศ เช่น ประเทศอาฟริกาใต้ กลุ่มประเทศอเมริกาใต้ และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และตอนนี้บางประเทศสามารถพูดภาษาจีนกันได้บ้างแล้ว”

นายกัมปนาท กล่าวอีกว่า จากการเดินทางไปประเทศจีนเพื่อพูดคุยกับทางธุรกิจการค้ากับนักลงทุนจีน โดยนักลงทุนต่างประสานเสียงไปในทิศทางเดียวกันว่าจะมีการปรับตัวปรับกลยุทธขยายการลงทุนร่วมทุนไปยังประเทศ โดยเฉพาะยังกลุ่มประเทศอาเชียน มีไทย สปป.ลาว เวียดนาม อินโดนีเซีย และประเทศมาเลเซีย และก่อนนั้นก็มีการลงทุนไปหลายประเทศแล้ว แม้กระทั่งไทย สปป.ลาว เวียดนาม เพื่อสามารถกระจายสินค้าได้ไปทั่วโลก

“โดยเฉพาะในส่วนของการลงทุนอุตสาหกรรมยางแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น ล้อยาง เป็นต้น ซึ่งจีนมีผลิตภัณฑ์ล้อยางเป็นจำนวนมาก และเฉพาะจีนเองตอนนี้ในประเทศจะเต็มไปด้วยรถทุกซอย และจีนยังมีกำลังซื้อที่ดีอยู่ ยกเว้นทางภาคอสังหาริมทรัพย์” นายกัมปนาท กล่าว

และว่า ทางไทย ก็ให้มีความพร้อมเกี่ยวกับเรื่องยาง เมื่อจีนได้ขยายเข้ามาลงทุนในส่วนเกี่ยวกับการแปรรูปอุตสาหกรรมยางเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น ล้อยางเป็นต้น ทั้งกลุ่มเกษตรกรยาง สหกรณ์ยาง ต้องเตรียมความสามารถแปรรูปยางเป็นผลิตภัณฑ์ไว้ตอบรับการแปรรูปเป็นของอุตสาหกรรมยางในอนาคต

นายกัมปนาท ยังกล่าวอีกว่า ส่วนสถานการณ์ผลผลิตยางมีผลผลิตปริมาณน้อยมากได้หดหายไปถึง 40-50 % จากปัจจัย เรื่องโรคยางใบร่วงระบาด ฝนตก แรงงานกรีดยางขาดแคลน ได้ส่งผลกระทบต่อโรงงานแปรรูปยางขาดวัตถุดิบ โรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปยางขนาดใหญ่ของบริษัทส่งยางระดับส่งออกตลาดโลก จำนวน 5 บริษัท ไม่มียางแปรูปเป็นผลิตภัณฑ์

และถึงแม้ยางจะขาดแคลนก็ตาม แต่ตลาดซื้อขายล่วงหน้าในตลาดโลก ก็มีราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,520 เหรียญสหรัฐ / ตัน ยางแทง STR 20 ส่วนยางรมควันอยู่ที่ 1,520 เหรียญสหรัฐ / ตัน จากเดิมที่ยางกำลังปรับตัวขึ้นมาถึง 1,600–1,700 เหรียญสหรัฐ / ตัน.

โดย...อัศวิน ภักฆวรรณ จังหวัดพัทลุง