ระดมค้นหาช้างถูกรถชนเจ็บเตลิดหนีเข้าป่าคาดไปไหนไม่ไกล


ปราจีนบุรี–คนบาดเจ็บจากกระบะชนช้างป่ายังนอน รพ.ขณะชุดติดตามเตรียมตามช้างเจ็บ-โขลงคาดยังไปไหนไม่ไกล เนื่องใกล้แนวถนนเป็นพื้นที่การเกษตรปลูกพืชไร่โดยเฉพาะไร่อ้อยเนื้อที่นับ 10,000 ไร่ และยังมีพืชไร่อื่น อาทิ มันสำปะหลัง ไร่ข้าวโพด ที่ล้วนเป็นแหล่งอาหารช้างเป็นอย่างดี ที่หาง่าย-รสชาติอร่อยมากกว่าในผืนป่าธรรมชาติ
เมื่อเวลา10.30 น.วันนี้ 7 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานความคืบหน้าจากกรณี เกิดอุบัติเหตุรถกระบะชนช้างป่าพังยับเยินมีผู้บาดเจ็บ 3 ราย ส่วนช้างหนีเตลิดเข้าป่าไป โดยเหตุการณ์นี้ พ.ต.ต.พิสนธ์ ผาสุก สารวัตร(สอบสวน) สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งเหตุ แล้วเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมหน่วยกู้ภัยสัจจะพุทธธรรมแห่งประเทศไทยที่เกิดเหตุบนถนนสาย 359 พนมสารคาม-สระแก้ว ก.ม.46 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พบรถกระบะโตโยต้า สีขาว ขนปลานิลสดมาเต็มคัน สภาพด้านหน้าพังยับเยิน พบผู้บาดเจ็บเป็น 3 ราย เป็นชาย 2 หญิง 1 หน่วยกู้ภัยรีบช่วยเหลือนำตัวส่งรพ.กบินทร์บุรี
สอบสวนทราบว่า รถกระบะเดินทางมาจากบ่อปลา อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี เพื่อนำปลาไปส่งขายที่บ้านแหลม จ.จันทบุรี มาถึงที่เกิดเหตุซึ่งถนนมืดได้พุ่งชนช้างป่าอย่างแรง คาดเป็นโขลงช้างป่า 4 ตัวจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนในผืนป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของไทยในเขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัด (จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.จันทบุรี,จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี) ที่ข้ามฝั่งจาก อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา มาหากินข้ามฝั่งไกลถึง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ตามรายละเอียดที่ได้นำเสนอแล้ว ก่อนหน้านี้ นั้น
ความคืบหน้าล่าสุด ทราบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยกลับบ้านได้แล้ว ยังเหลือแต่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บปานกลางยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี ส่วนรถกระบะของผู้เสียหายสภาพพังยับเยินทั้งคัน ถูกนำมาเก็บรักษาที่ สภ.กบินทร์บุรี
ต่อมาช่วงสาย ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุ เป็นถนน 4 ช่องการจราจร พบว่าบริเวณจุดที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางผ่านของช้างป่าสภาพเป็นคล้ายทางด่าน เป็นช่องทางเดินที่ชาวบ้านบอกช้างป่าจะข้ามฝั่งมาหากินไป –มาประจำจากฝั่ง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ข้ามมาหากินฝั่งของ ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีโดยเรียกจุดช่องทางช้างผ่านนี้ว่า “บ้านทนาย” เพราะอยู่ตรงข้ามกับบ้านพักของทนายความท่านหนึ่ง โดยใกล้แนวถนนเป็นพื้นที่การเกษตรปลูกพืชไร่โดยเฉพาะไร่อ้อยเนื้อที่นับ 10,000 ไร่ ของเสี่ยประกาย และย่านแถบนั้นยังปลูกพืชไร่อื่น อาทิ มันสำปะหลัง ไร่ข้าวโพด ที่ล้วนเป็นแหล่งอาหารช้างเป็นอย่างดี ที่หาง่าย-รสชาติอร่อยมากกว่าในผืนป่าธรรมชาติ
ที่ไร่อ้อยใกล้จุดทางช้างป่าผ่านที่เกิดอุบัติเหตุ พบร่องรอยโขลงช้างป่าจำนวนหลายตัว กัดกินต้นอ้อยของชาวบ้านที่ปลูกไว้กำลังให้ผลผลิต คาดว่าช้างป่ามีมากกว่า 2 ตัวอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งช้างป่ามักพากันข้ามมาหากินในพื้นที่อยู่บ่อย ๆ ครั้ง
พร้อมพบร่องรอยเศษซากรถกระบะบางส่วนตกกระจายในที่เกิดเหตุ จากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีใครรู้ว่าช้างป่าตัวที่ถูกรถกระบะชนนั้น ได้รับบาดเจ็บมากมากน้อยแค่ไหน และในบริเวณที่เกิดเหตุ ยังไม่มีป้ายแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่ยวดยานไป-มาได้ทราบ ให้ระวังช้างป่าให้ผู้สัญจรไป-มาระหว่างช้างข้ามถนน
พบ นายวุฒิพงษ์ น้ำทรัพย์ ชาวบ้านหมู่ที่ 6 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า เมื่อคืน(6ต.ค.)รู้ว่ามีการเกิดอุบัติเหตุขับรถชนช้างป่า ที่บริเวณริมถนนติดกับป่าอ้อย แต่ไม่ได้ออกมาดู หลังจากตื่นนอนรีบออกมาดูที่เกิดเหตุ พบว่ามีร่องรอยของช้างป่ากัดกินอ้อยของชาวบ้าน
จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาช้างป่าให้ดีกว่านี้ ที่ผ่านมาช้างป่าเคยทำร้ายชาวบ้าน ต.เขาไม้แก้ว จนเสียชีวิตมาแล้วครั้งหนึ่ง จากจุดที่ช้างถูกรถชนกับช้างทำร้ายคนเสียชีวิตอยู่ห่างกัน 2 กม.เท่านั้น
ด้านนายสุนทร คมคาย อาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่า ต.เขาไม้แก้ว กล่าวว่า ในวันนี้ทางชุดอาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่าฯร่วมกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน พร้อมกำลังและโดรนจะติดตามช้างป่าที่บาดเจ็บและโขลงที่คาดว่ายังไม่ออกไปไกลจากพื้นที่ต่อไป ความคืบหน้าจะได้ติดตามนำเสนอต่อไป
โดย...มานิตย์ สนับบุญ-ข่าว/ทองสุข สิงห์พิมพ์-ภาพ / ปราจีนบุรี