เกษตรกรเมืองปราจีนบุรีร้องทุกข์ถึงนายกฯคนใหม่ช่วยยกเป็นวาระเร่งด่วนแก้ปัญหาช้างป่าลงเขาทำลายพืชไร่แทบทุกคืน


ปราจีนบุรี-ชาวบ้านวังอ้ายป่องร้องทุกข์ถึงนายกฯคนใหม่ "เศรษฐา หรือ ลุงนิด" ช่วยเรื่องช้างป่าอุทยานฯทับลานเร่งผลักดันคืนสู่ป่าเนื่องจากเดือนร้อนหนักจากบุกกินทำลายพืชผลทางการเกษตร ขณะหัวหน้าอุทยานฯเผยใช้โดรนติดกล้องเลนส์ซูม และ เลนส์ Thermal เป็นอุปกรณ์ตรวจการ ผลดำเนินการพบช้างป่าจำนวน 1 ตัว คือสีดอละมุด ที่เข้ามาหากินและหลบนอนอยู่ในพื้นที่ ได้ป่าไม้ทับลานกำชับ! ให้ชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังต่อไป เนื่องจากช้างป่าสีดอละมุด เป็นช้างที่มีพฤติกรรมไม่ยอมกลับเข้าไปในป่าลึก อาจเพราะกลัวช้างโขลงทำร้าย
เมื่อวันที่ 23 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรีรายงานว่า สืบเนื่องจาก กลางดึกคืนวันที่ 22 ส.ค.66 ชาวบ้านวังอ้ายป่อง ม.3 ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี พบโขลงช้างป่าจากอุทยานแห่งชาติทับลาน พากันยกโขลงลงมากัดกินพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้าน ซึ่งที่ผ่านมาฝูงช้างป่ามักจะแยกออกมาหากินพืชไร่ของชาวบ้านแทบทุกคืน สร้างความหวาดผวาให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าผู้ใหญ่บ้านและจิตอาสา และเจ้าหน้าที่อุทยานฯจะร่วมกันมาช่วยผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่ แต่ช้างป่าก็ยังคงวนเวียนมาหากินในพื้นที่อยู่ในพื้นที่ชาวบ้าน
ป้าสมควร ทองสัมฤทธิ์ หนึ่งในชาวบ้านวังอ้ายป่องกล่าวว่า ชาวบ้านต่างหวาดผวาช้างป่า ที่ลงจากเขามาหากินมันสำปะหลัง กล้วย แล้วอื่นๆ พี่ชาวบ้านปลูกไว้ สร้างความเสียหายอย่างมาก แล้วชาวบ้านต้องหวาดกลัวช้างป่าซึ่งออกมาหากินใกล้บ้าน ที่ผ่านมาช้างป่าเคยมาทางบ้านเรือนประชาชน กินข้าวเปลือก ข้าวสารฯ หลายต่อหลายครั้ง
ล่าสุดกลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมานี้ ช้างป่าตัวใหญ่มาหักต้นมะละกอที่ปลูกไว้ข้างครัว หักต้นมะละกอที่กำลังออกลูกทิ้ง ทางผู้ใหญ่บ้านและชุดเฝ้าระวังช้างป่า ได้มาช่วยกันผลักดันโดยจุดไฟและจุดประทัดผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่ หลังจากที่ช้างป่าตัวใหญ่ออกไปแล้ว ค่อนรุ่ง วันนี้ ( 23 ส.ค.) ตีหนึ่งกว่าๆ (01.00 น.) มีช้างป่ามาส่งเสียงร้องอยู่หลังบ้าน คาดว่าน่าจะเป็นช้างแม่ลูกมาส่งเสียงร้องนานกว่าครึ่งชั่วโมง จึงจุดประทับไล่ให้ออกไปจากหลังบ้าน
หลังจากตรวจสอบพบร่องรอยช้างถอนหัวมันสำปะหลัง ที่กำลังเจริญเติบโต เสียหายหลายจุด อยากฝากร้องทุกข์ชาวบ้าน ถึงนายกรัฐมนตรีนายเศรษฐา ทวิสิน นายกรัฐมนตรีคนใหม่เข้ามาแก้ไขปัญหาช้างป่า ไม่ให้ลงมากัดกินพืชผลการเกษตรของชาวบ้านอีกต่อไป หรือมีมาตรการเยียวยา ชดเชย พลิกเปลี่ยนวิกฤติแก้ไขปัญหาช้างป่าที่มีทั้งยกโขลง – แยกฝูงลงมาหากินในพื้นที่ประชาชนด้วยที่ส่งผลเสียหายทั้งทางพืชผลการเกษตร , บ้านเรือน ,ชีวิต – ทรัพย์สิน
ต่อมา เวลา 21.00 น. วันนี้ (23ส.ค.) นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน กล่าวว่า ได้รายงานผลการปฏิบัติงาน แจ้งต่อ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) โดยระบุ ว่า ... เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ NCAPS ได้ร่วมออกตรวจติดตามและผลักดันช้างป่า บริเวณป่าหลังสวนขนุน บ้านคลองตาหมื่นน้อย ตำบลทุ่งโพธิ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี หลังจากได้รับแจ้งจากเครือข่ายเฝ้าระวังช้างป่าในพื้นที่ว่า ตรวจพบร่องรอยช้างป่าเดินผ่านแนวตรวจการณ์มุ่งหน้าไปทางป่าขนุน
แต่ยังไม่พบรอยกลับเข้าป่า คณะเจ้าหน้าที่จึงได้จัดกำลังเข้าแกะรอยติดตามและผลักดันให้ออกจากพื้นที่ โดยใช้โดรนติดกล้องเลนส์ซูม และ เลนส์ Thermal เป็นอุปกรณ์ตรวจการ ผลดำเนินการพบช้างป่าจำนวน 1 ตัว (สีดอละมุด) เข้ามาหากินและหลบนอนอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
จึงได้ทำการผลักดันให้กลับเข้าป่าธรรมชาติเป็นที่เรียบร้อย ณ เวลา 18.30 น. ทั้งนี้ ก็ยังคงกำชับให้ชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังต่อไป เนื่องจากช้างป่าสีดอละมุด เป็นช้างที่มีพฤติกรรมไม่ยอมกลับเข้าไปในป่าลึก อาจเพราะกลัวช้างโขลงทำร้าย ทาง อุทยานแห่งชาติทับลานอยากสื่อสารแจ้งให้เห็นว่า พวกเราไม่เคยนิ่งดูดาย ยังคงส่งกำลังคนไปช่วย และคิดหาวิธีการใหม่ๆ มาช่วยชาวบ้านอยู่เสมอ นายประวัติศาสตร์
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม สำหรับปัญหาช้างป่า ที่ออกนอกเขตพื้นที่ป่าออกมาหากินพื้นที่ประชาชน ของปราจีนบุรีที่ประสบปัญหา ประกอบด้วย อ.นาดี เป็นช้างป่าจากอุทยานแห่งชาติทับลาน , พื้นที่ อ.กบินทร์บุรี ,อ.ศรีมหาโพธิ เป็นช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ข้ามฝั่งมาจาก จ.ฉะเชิงเทรา
โดย...มานิตย์ สนับบุญ/ ปราจีนบุรี