สายบุญเศร้าใจ! เงินทอดกฐินหายครึ่งแสน-ไวยาวัชกรกลัวผิดรอบคืนเงินวัด (มีคลิป)

สายบุญเศร้าใจ! เงินทอดกฐินหายครึ่งแสน-ไวยาวัชกรกลัวผิดรอบคืนเงินวัด (มีคลิป)





ad1

ปราจีนบุรี -ทุกข์ชาวบ้าน! เงินทอดกฐินหายครึ่งแสนไวยาวัชกรยักยอกเข้ากระเป๋าตัวเอง กลัวความผิดยอมคืนเงินให้วัด

เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2564 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรีได้รับร้องทุกข์จากชาวบ้าน   หมู่บ้านท่าข่อย ม.14 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 31ตค.ที่ผ่านมา   พากันไม่พอใจไวยาวัจชกรของวัดถือเงินทอดกฐินของวัดสามแสนกว่าบาทแต่พอนำเงินทอดกฐินกลับไปนับที่วัดบอกว่าเงินหายไปครึ่งแสน    จึงได้มีการรวมตัวกันออกมาที่วัดเพื่อให้ไวยาวัจชกรออกมาชี้แจงเงิน 50,000 บาทที่หายไป 

ล่าสุดวันนี้ทางวัดได้เรียกประชุมคณะกรรมการวัดและตัวแทนชาวบ้านเพื่อให้ไวยาวัจชกรได้ชี้แจงเรื่องเงินที่หายไปให้ทราบเพื่อสบายใจของทุกคน โดยมีพระศิระศักดิ์ ปัญญาสิริ พระลูกวัดซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาสวัดเป็นตัวแทนการชี้แจงเงินกฐิน

พระศิระศักดิ์ ปัญญาสิริ กล่าวว่า วันที่ 31ต.ค.ที่ผ่านมามีการจัดงานทอดกฐินประจำปี2564หลังจากเสร็จสิ้นงานกฐินแล้วทางวัดได้มอบหมายให้คณะกรรมการวัดและไวยาวัจชกรเป็นผู้ดูแลเงินทอดกฐินทั้งหมด  หลังจากที่ผ่านการนับของคณะกรรมการแล้วรวมยอดเงินทั้งหมดใส่พานไว้ มอบหมายให้คณะกรรมการวัดเป็นคนเก็บเงินกฐินแต่ไม่มีใครเก็บที่จะนำเงินไปฝากธนาคารในวันรุ่งขึ้น  เพราะว่าวันนั้นเย็นแล้ว เมื่อไม่มีใครเก็บจึงให้ รต.พรเทพ จันทราสิน์(ไวยาวัจชกร)เป็นผู้เก็บเงินจำนวนดังกล่าวไปไว้ที่บ้านก่อนแล้วนำไปเข้าบัญชีของวัด ซึ่งทางเจ้าอาวาสไม่ยุ่งเกี่ยวกับเงินโดยให้คณะกรรมการเป็นคนบริหารจัดการกันเอง

ไวยาวัจชกร กล่าวว่า เมื่อนำเงินกฐินไปที่บ้านแล้วให้ภรรยากับลูกสาวเป็นคนนับเงินลูกสาวบอกว่าเงินกฐินของวัดนับได้ 261,947 บาทจึงให้นับใหม่อีกครั้งหนึ่งนับเสร็จยอดเงิน 261,947 บาท  ได้รีบแจ้งให้กับพระศิระศักดิ์ทราบแล้วขณะที่ชาวบ้านเกิดความไม่ไว้วางใจไวยาวัจชกรที่นำเงินทอดกฐินของวัดไปไว้ที่บ้านและโทร.มาบอกทางวัดว่าเงินหายไป 50,000 บาท จึงอยากให้ไวยาวัจชกรออกมาชี้แจงเงินที่หายไป เงินที่หายไป   ถ้าไวยาวัจชกรไม่ได้เป็นคนเอาเงิน 50,000 บาทไปจริงทำไมไวยาวัจกรถึงจะยอมคืนเงินให้กับวัด 50,000 บาท 

หลังจากที่พระศิระศักดิ์และไวยาวัจกรวัดกล่าวยืนยันเงินหายจริงและยอมชดใช้เงิน50,000คืนวัด เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจของตนเองเป็นความสะเพร่า เพราะไม่นับเงินก่อน    หากไม่ยอมชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวคืนให้ตนกับครอบครัวก็จะตกเป็นจำเลยของชาวบ้าน   ถือว่าเป็นการทำบุญกับทางวัด สร้างความพอใจให้กับทุกคนจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน

นายชาญชัย คำดี ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ตามที่มีคนแจ้งว่าเงินทอดกฐินของวัดยอดทั้งหมด339,287บาทหายไป50,000ทราบว่ามีการแบ่งเงิน77,340บาทไปไว้เพื่อจะสร้างองค์พญานาควัดฯถ้าน้ำเงิน2ยอดมารวมกันจะได้เงิน339,287บาทตนได้ดูรายละเอียดจากไวยาวัจชกรที่เป็นคนจัดการยอดเงินวัดจ่ายค่าซองกฐิน ค่าถวายพระและ ค่าแรงทั่วไปอีกจำนวนหนึ่งเมื่อไวยาวัจชกรนำเงินมาคืนให้ทางวัด50,000บาทที่หายไปถือว่ามีความแสดงความรับผิดชอบ เป็นการสะเพร่าที่เป็นบทเรียนให้กับทุกคนเป็นอย่างดี เรื่องนี้ตนเองอยากให้ชาวบ้านเข้าใจกัน