คิดเหรอว่าแม่จำลูกไม่ได้!ลูกชาย-ลูกสะใภ้ปลอมเป็นโจรบุกปล้นแม่ สากทุบหัวปางตาย

คิดเหรอว่าแม่จำลูกไม่ได้!ลูกชาย-ลูกสะใภ้ปลอมเป็นโจรบุกปล้นแม่ สากทุบหัวปางตาย





ad1

ราชบุรี-ทรพี ลูกชายรวมมือกับลูกสะใภ้ ปลอมตัวเป็นโจร บุกปล้นแม่วัย 57 สากทุบหัวเจ็บปางตาย ด้านแม่ร่ำไห้ “คิดเหรอว่าแม่จะจำลูกไม่ได้” เพราะเสื้อผ้าที่ใส่มาปล้น แม่เป็นคนซื้อและซักให้เองกับมือ

"กัน จอมพลัง" พร้อมด้วย ทนายโรส และ เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ราชบุรี เดินทางไปยัง สภ.บ้านโป่ง เข้าพบกับ พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง เพื่อสอบถามความคืบหน้าคดี นายวรายุทธ คำใส อายุ 28 ปี ลูกชายแท้ ๆ และ น.ส.ละอองดาว จันทร์ยิด อายุ 28 ปี ลูกสะใภ้ ใช้สากกระเบือทุบหัว นางมณีรัตน์ คำใส อายุ 57 ปี ผู้เป็นแม่ ก่อนชิงทรัพย์สินภายในบ้านไป

กัน จอมพลัง กล่าวว่า นายธวัชชัย คำใส ลูกชายคนโต ได้แจ้งเรื่องร้องเรียนมาที่ตนว่า แม่ถูกลูกชายคนกลางร่วมกับเมียทำทีปลอมเป็นโจร จับแม่มัดมือมัดเท้าด้วยสายโทรศัพท์ แล้วเอาผ้าปิดตา ก่อนลงมือชิงเงินจำนวน 3,000 บาท และทองรูปพรรณเป็นสร้อยคอและแหวนน้ำหนักรวม 3 สลึง มูลค่าประมาณ 21,000 บาท จากนั้นได้ใช้สากกะเบือไม้ฟาดเข้าไปที่ศีรษะหวังให้สลบ แต่แม่ไม่สลบจึงฟาดซ้ำลงไปอีกหลายสิบครั้ง ขณะที่ลูกสะใภ้ยังจะใช้อาวุธมีดแทงซ้ำ แต่แม่ได้ร้องขอชีวิต ก่อนที่ทั้ง 2 จะหนีไป ทิ้งแม่ไว้ไม่เหลียวแล

หลังเกิดเหตุ นางมณีรัตน์ ได้พยายามกระเสือกกระสนเปิดประตูออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน กระทั่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบ้านโป่ง หลังจากฟื้นตื่นลืมตาขึ้นมา ก็เห็นหน้าลูกชายที่ก่อเหตุนั่งอยู่ข้างเตียง โดยลูกชายยังตีหน้าซื่อถามแม่ว่าใครทำร้าย ?

อย่างไรก็ตาม ต่อมา นายวรายุทธ เมื่อทราบว่าแม่แจ้งความจับตน ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ประเด็นคือ แม่กูแจ้งว่ากูเป็นคนทำ แบบนี้กูจะเรียกแม่ต่อดีป่าววะ” ทำให้ผู้เป็นแม่รู้สึกหวาดกลัวและเกรงว่าอาจจะถูกฆ่าปิดปาก

พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เร่งลงพื้นที่เก็บรวบรวมหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด ลายนิ้ว และ DNA จากนั้นได้สอบปาก นางมณีรัตน์ ซึ่งให้การยืนยันว่าลูกชายและลูกสะใภ้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวทั้ง 2 คน มาสอบปากคำและตรวจหาสารเสพติด พบว่าผลเป็นบวก แต่ทั้ง 2 คนยังให้การปฏิเสธทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากนั้น กัน จอมพลัง พร้อมญาติและเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางไปพูดคุยกับผู้ต้องหาทั้ง 2 แต่ปรากฏว่า เมื่อ นายธวัชชัย ลูกชายคนโตเดินทางมาถึง ได้รีบเดินปรี่เข้าไปในห้องปฏิบัติงานที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ถูกควบคุมตัวอยู่ โดยไม่มีใครได้ระวังตัว ก่อนง้างหมัดชกเข้าไปที่หน้าทั้ง 2 ทันที พร้อมตะโกนด่าทอน้องชายที่ทำร้ายแม่บังเกิดเกล้าได้ลงคอ

นายธวัชชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาน้องชายมักจะมาหาแม่ที่ทำงานและบ้าน เพื่อขอเงินใช้เป็นประจำ ด้วยความรักและเป็นห่วงลูกคนนี้มาก แม่ก็จะให้ทั้งเงินและซื้อข้าวของเครื่องใช้ให้อยู่ตลอด ขณะที่น้องชายก็จะเอาเงินไปซื้อเหล้าและสารเสพติด โดยระหว่าง 2 เดือนก่อนหน้านี้ น้องชายมักจะอาละวาดทำลายข้าวของที่บ้าน จนตนทนไม่ไหวจะเข้าแจ้งความให้ตำรวจมาจับ แต่แม่ก็ขอร้องไว้

กระทั่งสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อแม่เกือบจะต้องมาจบชีวิตลงด้วยฝีมือลูกชายและลูกสะใภ้ เพราะต้องการทรัพย์สินเพียงเล็กน้อย และสิ่งที่ทำให้แม่ต้องชอกช้ำใจมากที่สุดก็คือ ลูกชายสุดที่รักใช้เท้าเหยียบที่คอแม่ จับมือไพล่หลัง มัดมือมัดเท้า ใช้มือบีบคอ ระหว่างที่ถูกกระทำแม่ก็รู้อยู่เต็มอกว่า คนก่อเหตุเป็นลูกตัวเอง เพราะเสื้อผ้าที่ใส่มา แม่เป็นคนซื้อและซักให้เองกับมือ