สหกรณ์กรณ์ฯยืนยัน ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร หากพบหลักฐานคนมีเอี่ยวทุกกรณี แจ้งตำรวจเอาผิดตามกฎหมาย

สหกรณ์กรณ์ฯยืนยัน ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร หากพบหลักฐานคนมีเอี่ยวทุกกรณี แจ้งตำรวจเอาผิดตามกฎหมาย





ad1

นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รอง ผวจ.ขอนแก่น  เรียกประชุมคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย  โดยมีนายณัฐพล แป้นนอก สหกรณ์จังหวัดขอนแก่น,  นายอำเภอเปือยน้อย ผกก.สภ.เปือยน้อยและนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเปือยน้อย เข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุม บริรักษ์ ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น

นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รอง ผวจ.ขอนแก่น   กล่าวว่า การดำเนินการในทุกขั้นตอน ขอให้ทุกฝ่ายทำอย่างรอบคอบ และรวบรวมหลักฐานเอาผิดกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกคน  และในการตรวจสอบหรือสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นให้ลงรายละเอียดกำกับด้วยว่า สามารถนำไปใช้ในขบวนการชั้นศาลได้  ซึ่งขณะนี้คณะทำงานที่ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีความคืบหน้าไปมาก แต่ในรายละเอียดบางเรื่อง ไม่สามารถเปิดเผยได้

ขณะที่นายณัฐพล แป้นนอก สหกรณ์จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จากการทำงานของคณะผู้ตรวจที่กำลังดำเนินการอยู่ขณะนี้พบความผิดปกติหลายอย่าง และให้เขาทำตามอำนาจหน้าที่ของเขาอย่างเต็มที่ ทางสหกรณ์จังหวัดเป็นพี่เลี้ยง หากติดขัดอะไรอย่างไรตรงไหนก็จะมีทางออกให้ ซึ่งการตรวจสอบก็ให้เวลาผู้ตรวจถึงวันที่ 21 มิ.ย.นี้ และถ้าเวลาไม่เพียงพอก็สามารถขยายได้

“ฝากถึงประชาชนกลุ่มที่เป็นหนี้โดยไม่รู้ตัว แต่ผ่านไปวันสองวัน สหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย ออกใบเสร็จรับเงินให้ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นหนี้แล้ว และคนที่ได้ใบเสร็จถูกลอบบี้และกดดันให้เอาใบเสร็จมาคืนนั้น การกระทำในลักษณะเช่นนี้ มันก็เข้าข่ายที่จะร่วมกับผู้กระทำผิด ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และต้องตรวจสอบให้ได้ว่าการกระทำแบบนี้มันเป็นการร่วมกับผู้กระทำผิดเราก็ต้องเอาผู้ที่กระทำแบบนี้มาลงโทษ ในส่วนของคนที่ได้ใบเสร็จแล้ว ไปถอนแจ้งความซึ่งเป็นอาญาแผ่นดินนั้น ขอบอกให้รู้ว่า ถ้าเป็นอาญาแผ่นดินไปแล้ว มันยอมความไม่ได้ เพราะความผิดมันเกิดไปแล้ว”

สหกรณ์จังหวัดขอนแก่น  กล่าวต่ออีกว่า  ในทุกประเด็น สหกรณ์ขอนแก่น ขอยืนยัน ว่า คณะผู้ตรวจของสหกรณ์ขอนแก่น ทำงานจริงจัง รวบรวมหลักฐานต่างๆ ถ้าโยงใยถึงใครที่อยู่เบื้องหลัง ก็จะรวบรวมหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าว  ซึ่งในเชิงลึกนั้น มีความเชื่อมโยงถึงบุคคลอื่นที่ไม่ใช่คณะกรรมการที่มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว   และในส่วนของหลักฐานต้องดูความชัดเจน เพราะคณะทำงาน ไม่เชื่อว่าการทำผิดที่เกิดขึ้นในสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อยนั้น ไม่ใช่คนทำผิดเพียงคนเดียว คณะทำงานจึงขอเวลาตรวจสอบ และการทำงานของคณะผู้ตรวจ หากครบ 15 วันยังไม่เพียงพอ ยังสรุปไม่ได้ต้องขยายเวลาออกไปอีก 15 วันนั้น ขอยืนยันว่า ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับทางสหกรณ์การเกษตรเปือยน้อย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนคณะกรรมการ 13 คน ก็ได้ข้อมูลในเชิงลึกที่เป็นประโยชน์มาก