ตร.บุกค้นแหล่งกบดานนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหด โพสต์ประจานลูกหนี้นับร้อย

ตร.บุกค้นแหล่งกบดานนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหด โพสต์ประจานลูกหนี้นับร้อย





ad1

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม 2 ผู้ต้องหา ดังนี้ ๑. น.ส.ณัฐจารี ฯ อายุ 42 ปี  ๒. นายธนะชัย ฯ อายุ 43 ปี โดยกล่าวหากระทำผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินและคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด”

สถานที่จับกุม ม.13 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566  พฤติการณ์ สืบเนื่องจากช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียหายจำนวนหลายรายได้เข้าร้องเรียนผ่านศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.) ว่ามีกลุ่มบุคคลใช้เฟซบุ๊กในการโฆษณาปล่อยเงินกู้ และโฆษณาชักชวนให้ร่วมลงทุนผ่อนทองคำและสินค้าแบรนด์เนม โดยมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยหากลูกหนี้รายใดผิดนัด หรือค้างชำระหนี้ กลุ่มเจ้าหนี้จะมีการโพสต์ประจานผ่านโซเชียลมีเดีย ในลักษณะด่าทอ ข่มขู่ และใช้ข้อความหยาบคาย ทำให้ลูกหนี้หลายรายได้รับความอับอาย และเกรงว่าอาจจะได้รับอันตรายต่อชีวิตได้

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.5 บกปอศ. จึงได้เร่งดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว 
 
จากการสืบสวนทราบว่าผู้กระทำผิดดังกล่าว คือ น.ส.ณัฐจารีฯ ซึ่งจะใช้เฟซบุ๊กของตนเองโฆษณาปล่อยเงินกู้และชักชวนให้ผู้อื่นมาร่วมลงทุนผ่อนทองคำและสินค้าแบรนด์เนม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายค้นบ้านพักของผู้ต้องหา

โดยในวันที่ 21 เมษายน 2566 เจ้าหน้าตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ได้นำหมายค้นขอ ศาลจังหวัดธัญบุรี เข้าตรวจค้นบ้านพักของ น.ส.ณัฐจารีฯ ที่บริเวณ ม.13 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จากการตรวจค้นพบ น.ส.ณัฐจารีฯ อาศัยอยู่ภายในบ้านพัก พร้อมกับนายธนะชัยฯ (สามีของ น.ส.ณัฐจารีฯ) โดยทั้งสองยอมรับว่าได้ร่วมกันปล่อยเงินกู้และชักชวนลงทุนผ่อนทองคำและสินค้าแบรนด์เนมจริง โดยอ้างว่าตนเองไม่ทราบว่าเป็นการคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 
 
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิด ได้แก่ เอกสารสัญญาการกู้ยืมเงิน จำนวน 188 ฉบับ, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 8 เครื่อง, คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จำนวน 1 เครื่อง และแท็ปแล็ต จำนวน 1 เครื่อง พร้อมกันนี้ยังได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


 
จากการตรวจสอบพบว่าผู้กระทำความผิดทั้ง 2 ราย มีการใช้สื่อโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางในการโฆษณาปล่อยเงินกู้และโฆษณาให้ร่วมลงทุน จึงทำให้ประชาชนโดยทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย โดยจากการสืบสวนพบว่ามีการคิดอัตราดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 304 ต่อปี ซึ่งเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งยังพบว่าในคดีนี้มีเงินหมุนเวียนสูงกว่า 10 ล้านบาท”