แม่โวยรพ.แจ้งมั่วลูกสาวม.4ตั้งครรภ์ทำให้เด็กเกิดความอับอายไม่กล้าออกจากบ้าน

แม่โวยรพ.แจ้งมั่วลูกสาวม.4ตั้งครรภ์ทำให้เด็กเกิดความอับอายไม่กล้าออกจากบ้าน





ad1

อุทัยธานี - แม่เด็กม.4 งง ลูกไม่เคยไปตรวจครรภ์ ไปฝากท้อง จู่ๆ ทางเจ้าหน้าที่รพ.แจ้งไลน์กลุ่ม อสม.219 คน ว่าเด็กท้องตั้งครรภ์ได้ 5 สัปดาห์ ทำเอาเด็กอับอายไม่กล้าออกจากบ้าน ชาวบ้านซุบซิบนินทาว่าเรียกลูกไม่ดี ทางด้านแม่ออกมาเรียกร้องสิทธิ์จากเจ้าหน้าที่รพ.ที่แจ้งรายชื่อผิดคน

เมื่อเวลา 17.00.น.ของวันที่ 22 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากแม่เด็ก ชื่อนางจารุวรรณ ไกรลำ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 175 หมู่ 8 ต.บ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ว่าลูกสาวของตนเองชื่อนางสาวเอ (นามสมมุติ)อายุ 15 ปี ศึกษาอยู่ชั้นม.4 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.อุทัยธานี ได้รับความเสียหายอับอายจากการที่มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใน อำเภอหนึ่ง จ.อุทัยธานี ได้ส่งรายชื่อมาในไลน์กลุ่มอสม.ที่มีอสม.คอยดูแลเรื่องสุขภาพชาวบ้านที่ตำบลบ้านไร่พร้อมมีสมาชิกอสม.ที่อยู่ในไลน์กลุ่มประมาณ 219 คน โดยวันที่ 12- 13 ม.ค.66 ได้มีเจ้าหน้าที่รพ.ดังกล่าวที่ตัวแม่เองได้อ้างว่าชื่อนก ไลน์เข้ามาในกลุ่มอสม.ตำบลบ้านไร่ และแจ้งชื่อลูกสาวมาโดยมีทั้งชื่อและนามสกุล และบ้านเลขที่ชัดเจน ว่าลูกสาวของตนเองนั้นได้ตั้งครรภ์ได้ 5 สัปดาห์ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้นั้น ไม่เป็นความจริง ทั้งๆที่ลูกสาวของตนเองนั้นเป็นเด็กวัยเรียน

 และไม่เคยไปไปฝากครรภ์หรือฝากท้องที่รพ.ดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ทำไมถึงมีรายชื่อว่าลูกสาวตนเองนั้นตั้งท้องได้  ครั้งนั้นตัวแม่เองก็ตกใจมาก ว่าทำไมลูกสาวตนเองทำไมทำอย่างนี้ จึงได้ไปสอบถามลูกสาวของตนเองถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น จนกระทั่งลูกสาวบอกว่าไม่ใช้ตนเองอย่างแน่นอน พร้อมกับลูกสาวและตัวแม่เอง ได้พาลูกสาวไปตรวจครรภ์ที่รพ.ดังกล่าวอีกครั้ง ในวันที่ 15 ม.ค.66 เวลา ประมาณหกโมงเย็นกว่าๆ โดยผลตรวจก็ออกมาว่าเป็นค่าปกติอย่างเห็นได้ชัดเจนว่าตนเองไม่ได้ตั้งท้องแต่อย่างใด แต่ทำไมเจ้าหน้าที่รพ.ดังกล่าว ถึงแจ้งว่าลูกสาวตนเองตั้งท้องได้ 5 สัปดาห์ ซึ่งไม่เป็นความจริง และทำให้ลูกสาวเสียหายอย่างมาก และอับอาย ไม่กล้าที่จะออกจากนอกบ้าน พร้อมกับทางโรงเรียนของลูกสาวก็ทราบเรื่องดังกล่าว ว่าลูกสาวตนเองท้อง โดยไม่มีใครอยากจะเชื่อกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ต่อมาทางแม่เองได้สอบถามไปกับเจ้าหน้าที่อีกครั้งว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่ทางรพ.ก็ยังยืนยันย้ำว่ามีหลักฐานที่แน่ชัด จนล่าสุดตัวแม่เองก็มาทราบข่าวจากญาติของแม่เองที่เป็นอสม.อยู่ที่ตำบลบ้านไร่ ได้แจ้งว่า ทางเจ้าหน้าที่รพ.ดังกล่าวได้แจ้งชื่อลูกสาวของตนเองมานั้น เป็นความเข้าใจผิดของทางเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงมาว่า แจ้งชื่อผิด เป็นชื่อเดียวกัน แต่คนละนามสกุล จึงขอแก้ไขเข้ามาในไลน์กลุ่มอสม. ตำบลบ้านไร่อีกครั้ง ว่าขอแก้ข่าว เป็นเรื่องเข้าใจผิด พร้อมกับทางรพ.ดังกล่าวได้เรียกตัวแม่เองและเจ้าหน้าที่รพ.ดังกล่าวมาพูดคุย พร้อมชี้แจงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยทางแม่ของเด็กได้อ้างว่า ทางรพ.ดังกล่าว ได้เสนอค่าเยียวยามาให้กับทางตัวแม่เองด้วยเงินประมาณ 10,000 บาท ตัวแม่เองนั้นไม่พอใจอย่างมาก เห็นแม่เองเป็นแค่ชาวบ้าน จะมาให้เงิน 10,000 บาท แล้วก็จบ

ส่วนตัวแม่เองอยากจะได้รับความยุติธรรมให้มากที่สุด รวมทั้งกับความเสียหาย และความอับอาย และสุขภาพจิตของลูกสาวที่เกิดขึ้น ทุกวันนี้ลูกสาวไม่กล้าออกจากบ้าน แถมเพื่อนที่โรงเรียนก็ถามไถ่ จนลูกสาวไม่กล้าจะออกไปไหน คล้ายกับลูกสาวกลัวที่จะย่างก้าวออกไปข้างนอก จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ดังกล่าวออกมาแสดงความรับผิดชอบให้ถึงที่สุด กับตนเองและลูกสาวบ้าง ขณะนี้ลูกสาวยังอยู่ในวัยเรียนชั้น ม.4  ไหนจะชาวบ้านอีกที่ยังไม่เข้า มันตีตราบาปให้กับลูกสาวในครั้งนี้มาก ไม่ใช้ว่าเจ้าหน้าที่ทำผิดก็แค่ขอโทษ แต่ความเสียหายมันเอากลับคืนมาไม่ได้

ล่าสุดได้สอบถามไปทางน้าหมูของเด็กสาวดังกล่าว ได้ออกมาร้องเรียนถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่รพ.ดังกล่าว ว่าทุกคนนั้นย่อมมีการผิดพลาดกันทุกคน แต่ไม่ควรเพิกเฉย ควรออกมารับผิดชอบกับเรื่องที่เกิด ไม่ใช้เพิกเฉย ทำเป็นไม่รู้และไม่มีการติดต่อมา ทางญาติผู้เสียหายทำใจไม่ได้ ควรจะสละเวลามาคุยกับญาติผู้เสียหายบ้าง

พร้อมกับนักข่าวได้โทรไปที่รพ.แห่งหนึ่ง ในอำเภอบ้านไร่พร้อมกับขอสายเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวที่ชื่อนก พร้อมกับชี้แจงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ ที่รับสาย ได้แจ้งว่าทางเจ้าหน้าหน้าที่คนดังกล่าวไม่ได้เข้าเวร เดี๋ยวทางเจ้าหน้าที่จะประสานไปยังครูดังกล่าวให้พร้อมกับนักข่าวได้ทิ้งเบอร์โทรให้กับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ที่แจ้งรายชื่อคนตั้งครรภ์ผิดคน เพียงชื่อเหมือนกันแต่คนละนามสกุล แต่ทำให้ผู้เสียหายออกมาร้องเรียนกับเรื่องที่เกิด