ครูสาวร้องแก๊งมิจฉาชีพนำรูปภาพปลอมมเฟชบุ๊ค ไอจี อินสตราแกรมตุ๋นชายหนุ่มสูญกว่า 2 ล้าน

ครูสาวร้องแก๊งมิจฉาชีพนำรูปภาพปลอมมเฟชบุ๊ค ไอจี อินสตราแกรมตุ๋นชายหนุ่มสูญกว่า 2 ล้าน





ad1

ครูสาวเตือนภัย อย่าหลงเชื่อโปรไฟล์ในโซเชียล หลังถูกมิจฉาชีพ เอารูปภาพไปปลอมเฟชบุ๊ค ไอจี อินสตราแกรม และช่องทางอื่นๆกว่า 200 แอคเค้าท์ ทักยั่วหลอกผู้ชายวัยทำงานสุดท้ายเสียท่าสูญเงินกว่าร้อยคน รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท

น.ส.เอ(นามสมมุติ) ข้าราชการครู ที่ จ.มหาสารคาม อายุ 31 ปี (ชื่อจริง น.ส.สุพัตรา พิมยะวงค์  หรือครูแจ๋ว อายุ 31  ปี อยู่บ้านเลขที่ 244 หมู่ 11 ต.อากาศ อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร) ซึ่งเป็นผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ "Supattra Pimyawong" นำเอกสารที่เป็นหลักฐาน จากการถูกมิจฉาชีพใช้รูปภาพ ไปปลอมเฟชบุ๊ค ปลอมไอจี กว่า 200 ชื่อ  หลอกประชาชนให้หลงเชื่อ และปลอมบัตรประชาชน ทำให้ได้รับความเดือดร้อนและเสื่อมเสียชื่อเสียง เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อแจ้งเตือนประชาชนที่ใช้โซเชียล อย่าหลงเชื่อคำพูดของบุคคลที่ตัวเองไม่รู้จัก และมีการพูดคุยกันทางโซเชียลเด็ดขาด เพราะจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้

ครูเอ กล่าวว่า  ปัจจุบันสอนอยู่ในโรงเรียนที่ จ.มหาสารคาม  โดยประมาณ 1 ปีที่ผ่าามามีผู้ใช้งานเฟชบุ๊กชื่อ "รุ่งฤดี สอนเวช" ได้พิมพ์ข้อความมาทางกล่องข้อความเฟซบุ๊กของตนเองชื่อเฟซบุ๊ก "Supattra Pimyawong"ว่าได้มีบุคคลอื่นนำภาพของตนเอง ไปสร้างบัญชีเฟซบุ๊กขึ้นใหม่ชื่อ "น้ำทิพย์ นัฏฐธิดา"และได้นำภาพของตนเองไปเป็นตั้งค่าเป็นภาพโปรไฟล์ จากนั้นได้มีการคัดลอกภาพในเฟซบุ๊กของไปลงโพสต์ต่อเนื่อง ให้เสมือนว่าเป็นผู้ใช้งานจริง และนำเฟซบุ๊กชื่อ "น้ำทิพย์ นัฏฐธิดา" ที่สร้างขึ้นมาใหม่ ไปใช้หลอกลวงเอาทรัพย์สินของบุคคลอื่น โดยให้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของผู้ชายรายหนึ่ง ซึ่งมีชื่อสกุล อยู่ในพื้นที่อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี

"หลังจากผู้ใช้เฟชบุ๊กรายดังกล่าวแจ้งให้ทราบและเตือนว่าน่าจะถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง และเอารูปไปใช้เป็นโปรไฟล์ เพื่อหลอกลวงคนอื่นๆ ต่อมาก็มีผู้เสียหายจากการถูกมิจฉาชีพ ที่ปลอมเฟชบุ๊ก แอดเป็นเพื่อน เพื่อหลอกลวงให้คบหา หลอกลวงให้ลงทุนต่างๆ กว่า 160 ราย โดยขณะนี้มีผู้ใช้ไอจีอีกประมาณ 60 ราย ได้ติดต่อเข้ามาและแจ้งรายละเอียดต่างๆให้ทราบ จึงได้รู้ความจริงว่า มีคนเอารูปภาพตนเองไปปลอมแปลงเฟชบุ๊ก ปลอมไอจี หลอกผู้ชายวัยทำงาน อายุตั้งแต่ 40-60 ปี หลอกล่อคำหวาน จากนั้นก็ขอเงิน ขอสิ่งของมีค่า เมื่อฝ่ายชายตายใจก็โอนเงินให้ บางคนหลงคารม ก็ยอมร่วมลงทุนเทรดบิดคอย สูญเงินไปรายละ  150,000บาทร่วม 15 ราย รวมแล้ว 2,250,000 บาท"

ครูเอ กล่าวต่ออีกว่าผู้ชายส่วนใหญ่ที่ติดต่อมาแจ้งให้ทราบกว่า 50 ราย ที่เข้าแจ้งความในกรณีถูกหลอกลวงให้คบหา  แต่ผู้ชายที่ถูกหลอกเอาเงิน หลอกเอาของมีค่าจะไม่กล้าแจ้งความเพราะอับอายและกลัวครอบครัวรู้  และเมื่อทุกคนรู้ความจริงว่า ผู้ที่คุยด้วยนั้นเป็นตัวปลอม ที่ทำการปลอมเฟชบุ๊ก ปลอมไอจี ก็ยินดีให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ว่ามิจฉาชีพที่แอบอ้างนั้นมีพฤติกรรมอย่างไรบ้าง  จึงรวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนรนสภ.เมืองขอนแก่น ให้ทำการสืบสวนจับกุม มิจฉาชีพที่เอารูปภาพไปใช้ปลอมเฟชบุ๊ก ปลอมไอจี ปลอมบัตรประชาชน มาดำเนินการตามกฎหมาย

"นอกจากแจ้งความกับตำรวจสภ.เมืองขอนแก่นแล้ว ยังประสานไปยังตำรวจไซเบอร์ให้ทราบเรื่องด้วย ซึ่งในเบื้องต้นทราบจากตำรวจไซเบอร์ว่า รูปของตนเองนั้น ถูกกลุ่มมิจฉาชีพที่อยู่ต่างประเทศ นำไปใช้เป็นโปรไฟล์เพื่อหลอกลวงคนอีกจำนวนมาก ทั้งในประเทศจีน มาเก๊า กัมพูชา ลาว รวมถึงในประเทศไทยด้วย  จึงฝากเตือนไปยังผู้ใช้โซชียลว่า อย่าหลงเชื่อคนที่พูดคุยกันทางโซเชียลที่ไม่เห็นรูปร่างหน้าตา เพราะคนที่คุยด้วยอาจจะเป็นกลุ่มมิจฉาชีพได้  ส่วนคนที่กำลังใช้รูปภาพของตนเองเป็นโปลไฟล์ ก็ขอให้เลิกทำ เพราะสร้างความเดือดร้อนลำคานให้กับชีวิตของคนที่เป็นตัวจริงเป็นอย่างมาก แม้จะยังไม่สูญเสียทรัพย์สิน แต่การที่ถูกคนอื่นเอารูปภาพไปใช้ จนสูญเสียการใช้ชีวิตแบบปกติไป เพราะผู้ชายบางคนไปตามถึงโรงเรียน เพื่อสอบถาม ในเรื่องที่ตัวปลอมสัญญาจะคบหาเป็นแฟน   เพราะทุกคนเชื่อจากรูปโปรไฟล์ เชื่อจากคำพูดที่คุยกันในโซเชียลทั้งที่ยังไม่เห็นตัวจริง จึงอยากให้เลิกทำ"