ล่า"เปา กระนวน"พ่อค้ายายิง ตร.-โฆษกตำรวจภูธรภาค 4 หากต่อสู้จับตายสถานเดียว

ขอนแก่น-โฆษกตำรวจภูธรภาค 4 เผย คดีพ่อค้ายาเสพติด ยิงตำรวจ ปคม.เปิดทางหนี ล่าสุดอยู่ระหว่างการไล่ล่าตัว หากผู้ต้องหาต่อสู้ขัดขืนอาจถูกจับตายได้ พบประวัติ "อานนท์" จากเด็กเดินยาสู่เอเย่นต์ยาเสพติดรายใหญ่รวบรวมวัยรุ่นในพื้นที่เป็นบริวารและพกปืนติดตัวตลอด

พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.4และโฆษก ภ.4 เปิดเผยว่า การสืบสวนติดตามจับกุม นายอานนท์ อ่อนสาคร หรือ เปา กระนวน อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 ม.10 บ้านคำครึ่ง คำเจริญ ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ในข้อหา สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้นั้นสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งก่อเหตุยิงปืนใส่ตำรวจ ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน เหตุเกิดในโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ชุมชนกังสดาล ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ทั้งการสืบสวนหาตัวเพื่อนของอานนท์ทั้งหมด 5 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบชื่อที่อยู่หมดแล้ว  ซึ่งเชื่อว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องกับอานนท์นั้น บางคนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย   แต่ในวันเกิดเหตุนั้น ยังไม่มีความชัดเจนว่า ใคร ขับรถคันไหน และใครหนีไปกับรถคันใด  หรือหนีออกจากโรงแรมอย่างไร ส่วนนายอานท์นั้น จี้ชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน ใช้เป็นยานพาหนะในการหลบหนี  และเชื่อว่าน่าจะมีเพื่อนมารับไปต่อ  ซึ่งขณะนี้เพื่อนของนายอานนท์นั้น ยังคงหลบซ่อนในพื้นที่ของภาค 4

"การสืบสวนจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมมือกันหลายส่วน ทั้งภูมิภาคและจากส่วนกลาง เพื่อติดตามหาตัวนายอานนท์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์  ส่วนคดีที่นายอานนท์ถูกซัดทอดว่ามีส่วนสมคบคิดในการค้ายาเสพคิดนั้น เพราะผู้ต้องหาที่ถูกจับพร้อมยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ซัดทอดต่อ  ในขณะที่การสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทราบว่า นายอานนท์นั้น ผันตัวเองจากวัยรุ่นติดยาเสพติด มาเป็นเด็กเดินยา ต่อมาก็เป็นเอเย่นต์ขายยาเสพติด ส่งยาบ้าในพื้นที่ภาคอีสาน  โดยมีวัยรุ่นที่ติดยาเสพติดเป็นลูกน้อง รับทวงหน้าค่ายาบ้าให้กับเอเย่นต์รายใหญ่  โดยจะใช้อาวุธปืนข่มขู่เครือข่ายที่ติดค้างค่ายาเสพติด  ถือว่านายอานนท์เป็นบุคคลอันตราย ที่มีอาวุธปืนติดตัวตลอดเวลา  และจากพฤติกรรมการก่อเหตุล่าสุดที่โรงแรมและจี้ชิงทรัพย์แล้วนั้น ทำให้รู้ว่า นายอานนท์ไม่น่าจะยอมจำนน หรือยอมถูกจับง่ายๆ ซึ่งในกรณีการเข้าจับกุมเมื่อเจอตัวนายอานนท์ และถูกนายอานนท์ยิงปืนใส่ตำรวจต่อสู้ขัดขวางและพยายามหนีเอาตัวรอดนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องปฏิบัติการขั้นเด็ดขาดเช่นกัน อาจถึงขั้นจับตายก็เป็นได้"

พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวต่ออีกว่าการหลบหนีของนายอานนท์นั้น มีเพื่อนและเครือข่ายยาเสพติดพาหนีไป  ซึ่ง บช.ภ. 4 มีการกำชับ เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ตามแนวชายแดนแม่น้ำโขง เฝ้าติดตามจับกุมตัวนายอานนท์ และป้องกันไม่ให้ข้ามฝั่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านเช่นกัน ในส่วนของเพื่อนนายอานนท์นั้น อยากให้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่าหลบหนีอีกเลย เพราะบางคนก็ไม่มีความผิดใด จึงไม่ควรจะหลบหนี ควรมาพบตำรวจ และต้องยอมรับว่า ยังไม่พบตัวนายอานนท์  ส่วนเบาะแสทางการสืบสวนนั้น คืบหน้าไปมาก แต่ไม่อาจจะเปิดเผยข้อมูลได้ เพราะจะกระทบกับคดีและคนร้ายอาจจะหลบหนีไปไกลกว่านี้