หนุ่มสุดเหี้ยม!ฆ่าโหดเครือญาติ ซัลโวตกนั่งร้าน รัวยิงซ้ำเมินขอชีวิต

หนุ่มสุดเหี้ยม!ฆ่าโหดเครือญาติ ซัลโวตกนั่งร้าน รัวยิงซ้ำเมินขอชีวิต





ad1

ราชบุรี-หนุ่มปืนดุควง .38 บุกยิงเครือญาติ ขณะซ่อมไฟจนตกนั่งร้าน ก่อนจ่อยิงซ้ำ-แถมกระทืบใบหน้า สุดท้ายยอมมอบตัว สารภาพ อ้างมีปัญหากับผู้ตาย-ถูกด่าบุพการี

เมื่อวันที่ 12 ส.ค.65 ร.ต.อ.ธนวัฒน์ สุดแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.ดำเนินสะดวก ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต ที่บ้านหลังหนึ่ง ใน ต.บ้านไร่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ราชบุรี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ดำเนินสะดวก แพทย์เวร รพ.ดำเนินสะดวก และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างราชบุรี

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ซึ่งเป็นโรงเก็บหอมและกระเทียม บริเวณภายในบ้านพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย นอนหงายเสียชีวิตอยู่ข้างนั่งร้านสูง สภาพเลือดเต็มใบหน้า สวมเสื้อสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา ทราบชื่อต่อมาคือ นายธีรยุทธ ใจดี อายุ 39 ปี ชาว กทม. จากการตรวจสอบพบถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่บริเวณใต้คาง 1 นัด โหนกแก้ม 1 นัด ใต้รักแร้ขวา 1 นัด และใต้รักแร้ซ้ายอีก 1 นัด รวม 4 นัด ห่างออกไปประมาณ 5 เมตร พบซองปืน 1 ซอง จานข้าว และเศษอาหารตกอยู่ ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายสมควร เสาร์ต้น อายุ 45 ปี

จากการสอบปากคำคนงานที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 16.30 น. ผู้ก่อเหตุได้เดินเข้ามาดูผู้ตาย ที่กำลังซ่อมไฟอยู่บนนั่งร้าน แต่ไม่ได้มีการโต้เถียงหรือพูดคุยอะไรกัน หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้เดินกลับไปที่บ้าน และกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมถือจานข้าวมาด้วย เมื่อมาถึงผู้ก่อเหตุได้โยนจานข้าวทิ้งลงกับพื้น แล้วจ่อยิงผู้ตายทันทีจนตกนั่งร้าน จากนั้นจ่อยิงซ้ำอีกหลายนัด ทั้งที่ผู้ตายพยายามร้องขอชีวิต และใช้เท้ากระทืบไปที่ใบหน้าผู้ตายอีกหลายครั้งจนแน่นนิ่งไป ก่อนเดินออกจากบ้าน และยิงปืนขึ้นฟ้าอีก 2 นัด พร้อมกับตะโกนว่า "นามสกุล เสาร์ต้น ไม่เคยกลัวใคร"

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมผู้ใหญ่บ้าน และผู้ใหญ่ที่ผู้ก่อเหตุนับถือ ได้ทำการเกลี่ยกล่อมจนผู้ก่อเหตุยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 และกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวนที่ สภ.ดำเนินสะดวก

จากการสอบสวน ผู้ก่อเหตุ ให้การว่า มีปัญหากับผู้ตายและถูกผู้ตายด่าบุพการี จนก่อนเหตุดังกล่าวขึ้น โดยใช้ปืนลูกโม่ขนาด .38 ยิงผู้ตาย 1 นัด จนตกนั้งร้าน แล้วยิงซ้ำอีก 3 นัดจนผู้ตายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

จากการถาม ลูกชายเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ ให้การว่า ผู้ตายเป็นหลานชายของพ่อ ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นน้องชายของแม่ ซึ่งก่อนหน้านี้เกือบ 4 ปีก่อน ผู้ก่อเหตุกับผู้ตายเคยมีปากเสียงกันเกี่ยวกับเรื่องที่จอดรถ แต่ก็เคลียร์กันไปแล้ว หลังจากนั้นมาทั้งคู่ก็ไม่เคยพูดคุยหรือมีเรื่องกันอีกเลย แต่ผู้ก่อเหตุกับแม่และพ่อตน มีปัญหาเรื่องที่ดินมรกดกเกือบ 1 ไร่ ที่ผู้ก่อเหตุปลูกบ้านอยู่ ซึ่งกำลังจะมีการฟ้องร้องเพื่อของแบ่งที่กันอยู่

ลูกชายเจ้าของบ้าน ให้การต่อว่า ญาติๆตนกลัวผู้ตายจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะตนมั่นใจว่าผู้ตายไม่เคยไปทะเลาะกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งตอนนี้ทางญาติเป็นห่วงลูกชาย อายุ 3 และ 5 ขวบของผู้ตาย ที่ต้องมากำพร้าพ่อโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ซึ่งผู้ตายเป็นคนดีและเป็นเสาหลักของครอบครัว หลังจากนี้ครอบครัวผู้ตายจะอยู่อย่างไร ซึ่งก็มีฐานะไม่ค่อยจะดีด้วย

ด้าน ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุเดินมาดูลาดเลาก่อนแล้ว 1 รอบ โดยผู้ตายกับผู้ก่อเหตุก็เป็นเหมือนเครือญาติกัน ซึ่งผู้ตายจะอยู่ที่ กทม.นานๆถึงจะมาบ้านที่เกิดเหตุ โดยเจ้าของบ้านจะเรียกให้มาช่วยทำงานแค่นั้น ซึ่งที่ผ่านมาผู้ตายกับผู้ก่อเหตุเคยมีปากเสียงกันเรื่องที่จอดรถแค่ครั้งเดียวซึ่งนานมาหลายปีแล้ว แต่บ้านผู้ก่อเหตุกับเจ้าของบ้านเกิดเหตุมีปัญหาสะสมกันมาตลอดทั้งเรื่องถังขยะ เรื่องบ้านที่ดิน ซึ่งกำลังจะมีการฟ้องร้องกันอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นชนวนในการก่อเหตุครั้งนี้มากกว่า

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำภาพจากการกล้องวงจรปิดไปตรวจสอบ พร้อมเรียกสอบปากคำคนงานที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด เพื่อรวบรวมสรุปสำนวนคดี เบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนม และเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือทางสาธารณะ และยิงปืนโดยไม่มีเหตุอันควรโดยไม่รับอนุญาต กับนายสมควรไว้ก่อน ส่วนร่างของนายธีรยุทธ ได้ส่งไปผ่าชันสูตรที่นิติเวชของ รพ.ราชบุรี และจะมอบร่างให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป