ลุ้นระทึก!นาทีช่วยชีวิต"ช้างป่าแม่ลูกตกท่อ" ยิงยาซึม-ปั๊มหัวใจ จนปลอดภัยทั้งคู่

ลุ้นระทึก!นาทีช่วยชีวิต"ช้างป่าแม่ลูกตกท่อ" ยิงยาซึม-ปั๊มหัวใจ จนปลอดภัยทั้งคู่





ad1

นครนายก-เจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือ "ช้างป่าแม่ลูกพลัดตกท่อระบายน้ำ" ต้องยิงยาซึม ปั๊มหัวใจ จนสุดท้ายเสร็จสิ้นภารกิจ ช้างป่าแม่ปลอดภัยกลับคืนสู่ผืนป่า

จากภารกิจช่วยลูกช้างป่าพลัดตกท่อระบายน้ำในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ที่มีพื้นที่แนวเขตติดต่อกับเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในตำบลสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ท่ามกลางอุปสรรคแม่ช้างไม่ยอมห่างลูก จนเจ้าหน้าที่ต้องใช้แผนยิงยาสลบใส่แม่ช้างแต่ยังห่วงลูก

นายบดินทร์ จันทรศรีคำ หรือ ลุงหมู สาลิกา ผู้ก่อตั้งชมรมฅนรักสัตว์-ป่า และผู้ก่อตั้งทีมอาสาช่วยเหลือสัตว์ป่า อช.เขาใหญ่ เล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 13 ก.ค.2565  ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจากรีสอร์ต แจ้งมายังเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างป่าตำบลสาริกา ที่ขณะนั้นเฝ้าระวังอยู่ที่จุดเขาหล่น ว่าได้มีลูกช้างตกอยู่ในบ่อท่อพักในรีสอร์ต

จากนั้นได้รีบรวมพลและเข้ามายังจุดเกิดเหตุ เวลาประมาณ ตี 2 ตอนนั้นเจอช้างโขลงคาดว่าเป็นกลุ่มเดียวกับลูกช้างที่ตกลงในบ่อท่อพัก โดยสมาชิกในโขลงได้ยินกันรอบๆ จึงทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้ จึงต้องรอเวลาให้ฟ้าสว่าง ระหว่างนั้นได้เตรียมวางแผนการช่วยเหลือ และประสานไปยัง องค์การบริหารส่วนตำบลสาริกา ได้สนับสนุนรถน้ำ รถยก รวมถึงเจ้าหน้าที่มาสนับสนุนในการช่วยเหลือตั้งแต่เวลา 05.00 น. รวมไปถึงหมอโบว์ สัตวแพทย์หญิงชนัญญา กาญจนสาขา สัตวแพทย์ประจำอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และทีมได้เดินทางมาถึงในตอนเช้า จากนั้นได้มีการวางแผนเป็น 3 ขั้นตอน

ทีมแรกจะขึ้นไปกันช้างโขลงที่อยู่ด้านบนที่อยู่ห่างจากจุดนี้ประมาณ 400 เมตร ซึ่งมีช้างโขลงอยู่ประมาณ 15 ตัวโดยประมาณ ซึ่งเพื่อป้องกันที่ว่าขณะที่กำลังทำงานช่วยเหลือลูกช้างแล้วเกิดมีเสียงแม่ช้าง หรือลูกช้างร้อง จะทำให้ช้างโขลงได้ยินและลงมายังด้านล่าง อาจทำให้เจ้าหน้าที่เกิดอันตราย ทีมที่ 2 จะคอยช่วยบล็อกแม่ช้างหลังได้จากได้รับยาซึมจากสัตว์แพทย์ เนื่องจากตอนนี้ฝนตกและดินมีความลื่น และ ทีมที่ 3 ทีมที่จะเข้าไปช่วยเหลือตัวลูกช้างที่มีขนาดใหญ่น้ำหนักไม่เกิน 100 กิโลกรัม

ส่วนช้างแม่เท่าที่ประเมิน เป็นช้างวัยรุ่นอายุอยู่ประมาณ 17-18 ปี หลังจากที่ได้ยิงยาซึมแม่ช้างไปแล้ว ปรากฏว่าแม่ช้างไม่ยอมทิ้งหรือห่างจากลูก ตั้งแต่ลูกตกลงไปแม่ก็ไม่ได้ห่างมีลักษณะเดินวนเข้าออกอยู่ตลอดทั้งคืนจนกระทั่งถูกยิงยา ซึ่งตอนกลางคืนที่เฝ้ารอดูเมื่อเจ้าหน้าที่ส่องไฟ หรือเข้าใกล้แม่ช้างก็จะไล่เจ้าหน้าที่ให้ออกห่าง

ลุงหมู สาลิกา เล่าอีกว่า เหตุการณ์ก่อนที่ลูกช้างพลัดตกลงไปนั้น จากการที่ได้ฟังจากคำบอกเล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรีสอร์ตได้บอกว่า เมื่อช่วงหัวค่ำเห็นโขลงช้างลงมาหากินในพื้นที่สนามกอล์ฟในรีสอร์ต ซึ่งพื้นที่ตรงนี้จะปล่อยให้ช้างออกมาหากินได้อย่างปกติจนอิ่มและกลับเข้าป่าเอง จนกระทั่งเวลาประมาณเที่ยงคืนได้ยินเสียงช้างร้องดังขึ้นจึงพยายามตามที่จุดต่างๆ จนกระทั่งมาพบว่ามีช้างมาอยู่บริเวณปากบ่อท่อพักจึงเข้าใจว่าต้องมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นแน่ ซึ่งไม่มีใครเห็นตอนที่ลูกช้างตกไป

หลังจากแม่ช้างถูกยิงยาซึมแล้วเกิดพลัดตกลงไปในบ่อที่มีลูกช้างอยู่นั้น ลุงหมู บอกว่า เหตุการณ์แบบนี้ในหน้างานอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงได้ ซึ่งหน้างานในตอนนั้นมีฝนตกทำให้ดินโดยรอบชุ่มน้ำแล้วเกิดทรุดตัวลง ประกอบกับแม่ช้างได้รับยาและยืนอยู่กับที่ ทำให้น้ำหนักตัวช้างกดลงที่ผิวดินจนดินเกิดสไลด์ แม่ช้างยืนอยู่ใกล้ขอบบ่อมากและกำลังคลานเข้าไปหาลูกจึงทำให้ลื่นลงไปที่บ่อบริเวณช่วงท้องหน้าอก ทำให้ลูกช้างได้ดูดนมแม่ช้างในตอนนั้นได้ จากนั้นได้ช่วยนำแม่ช้างขึ้นมาจากบ่อ และใช้รถแบ็กโฮเปิดปากบ่อให้ลูกช้างสามารถเดินขึ้นมายังด้านบนได้

ส่วนเหตุการณ์ที่เห็น หมอโบว์ และเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือแม่ช้างโดยการปั๊มหัวใจ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่แม่ช้างจะถูกยิงยา แม่ช้างอยู่ในอาการเครียด และเมื่อยิงยาแล้วต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิดและเมื่อเห็นว่าท้องเกิดแข็งก็ต้องรีบทำการปั๊มหัวใจ 

สำหรับภารกิจครั้งนี้ต้องขอขอบคุณทุกฝ่าย องค์การบริหารส่วนตำบลสาริกา กำนันผู้ใหญ่บ้านตำบลสาริกา หมู่ 1-2-3 และ 9 และหลังจากนี้ทีมงานของผู้ใหญ่บ้านจะนำต้นกล้วยมากองให้ช้างได้กินในรัศมีห่างจากจุดนี้ประมาณ 1 กิโลเมตร เนื่องจากช้างไม่ได้กินอาหารตั้งแต่เที่ยงคืน และเชื่อว่าแม่ช้างและลูกช้างยังคงพักฟื้นอยู่บริเวณแถวๆ นี้ เนื่องจากยังซึมจากยา และแม่ช้างอยู่ในอาการปลอดภัย 100% โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด.