กรมศุลกากรสกัดตรวจยาเสพติดยึดเคตามีน 50 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท

กรมศุลกากรสกัดตรวจยาเสพติดยึดเคตามีน 50 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท





ad1

กรมศุลกากรร่วมกับหน่วยงานสกัดกั้นการลักลอบส่งออกและน้ำเข้ายายาเสพติด ล่าสุดยึดสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด"เคตามีน"จำนวน 50 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท

เมื่อวันที่ (5 กรกฎาคม 2565 นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วย นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ รองอธิบดีกรมศุลกากร นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการปราบปรามยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ท. พรชัย เจริญวงศ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ ปฏิบัติราชการ รอง ผบช.ปส. พล.ต. ธีรเดช กลัมพสุต ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการข่าว ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) นายโคดี้ ต่ง เลขานุการฝ่ายกฎหมาย จากสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย (MJIB) ร่วมแถลงข่าวตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 50 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 15 ล้านบาท ณ ศูนย์แถลงข่าว ชั้น 2 อาคาร 1 กรมศุลกากร

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า กรมศุลกากรในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าส่งออกยาเสพติด อีกทั้ง ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติที่ 11/2564 มีคำสั่งแต่งตั้งอธิบดีกรมศุลกากรเป็นประธานอนุกรรมการ สกัดกั้นการลักลอบส่งออกและนำเข้ายาเสพติดผ่านช่องทางศุลกากร เพื่อบูรณาการสกัดกั้นยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์จำเป็นในการผลิตยาเสพติดผ่านช่องทางศุลกากร

ดังนั้นกรมศุลกากรจึงเร่งรัดดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อสกัดกั้นการลักลอบเคลื่อนย้ายยาเสพติดข้ามชาติให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีผลการปราบปราม ดังนี้

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2565 กองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร ได้ตรวจสินค้าที่มีลักษณะตรงตามความเสี่ยงในการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบลำเลียงยาเสพติดไปยังต่างประเทศ สำแดงชนิดสินค้าเป็นเครื่องซีลสูญญากาศ โดยจะส่งออกทางท่าเรือกรุงเทพ ประเทศไทย ไปประเทศไต้หวัน จึงได้ประสานข้อมูลร่วมกับหน่วยร่วมตามโครงการสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าเรือ (Seaport Interdiction Task Force: SITF) ประกอบด้วยกรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) และศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) ร่วมกันตรวจสอบสินค้าดังกล่าว เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 จากภาพเอกซเรย์พบความผิดปกติอยู่ภายในเครื่องซีลสูญญากาศ จึงได้ตรวจสอบโดยละเอียด พบวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (เคตามีน) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 50 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 15 ล้านบาท หากส่งออกไปยังประเทศไต้หวันจะมีมูลค่าในราคาขายส่ง ประมาณ 87.5 ล้านบาท และมีมูลค่าในราคาขายปลีกประมาณ 175 ล้านบาท จึงได้ร่วมกันตรวจยึดพร้อมทั้งขยายผลหาผู้เกี่ยวข้อง

อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวต่ออีกว่า สำหรับสถิติการตรวจยึด - จับกุมคดียาเสพติดของกรมศุลกากร ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 จนถึงปัจจุบัน มีทั้งหมด 93 คดี รวมมูลค่ากว่า 2,312 ล้านบาท ซึ่งกรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมมือกันสกัดยาเสพติดไม่ให้เข้าหรือออกนอกราชอาณาจักรของไทยผ่านช่องทางศุลกากรอย่างเข้มงวดต่อไป