เอกชนขอนแก่นชี้ปลดล็อกโควิดทั่วไทยช่วยเศรษฐกิจกระเตื้องมากขึ้น


นครราชสีมา-เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคอีสาน ระบุ ศบค.ปรับมาตรการ ช่วยเศรษฐกิจกระเตื้อง ปชช.ผ่อนคลายมากขึ้น ขณะที่มาตรการควบคุมโรคยังจำเป็น เรียกร้องรัฐเติมเม็ดเงินกระตุ้นให้เพียงพอ พร้อมแจ้งมาตรการผ่อนคลายให้ต่างชาติรับทราบ ดึงนักลงทุน-นักธุรกิจเข้าประเทศ
นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์เรื่องการปรับมาตรการเพิ่มเติม ของ ศบค. ในวันนี้ ว่า “การที่ ศบค.มีมติเห็นชอบปรับมาตรการเพิ่มเติม ทั้งเรื่องการปรับพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) 14 จังหวัด เพิ่มเป็น 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยให้มีผลนับตั้งแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา รวมทั้ง เห็นชอบให้ขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน จากเดิมไม่เกิน 24.00 น. เป็นไม่เกิน 02.00 น. และให้สามารถถอดหน้ากากอนามัยได้ด้วยความสมัครใจในพื้นที่ความเสี่ยงต่ำ ไม่แออัด และในสถานที่เปิดทั่วประเทศ
รวมทั้ง ยกเลิกไทยแลนด์พาส นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ต้องกรอกไทยแลนด์พาสก่อนเข้าประเทศนั้น ถือเป็นข่าวดีของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ เพราะเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศหยุดชะงักมานานจากสถานการณ์โควิด 19 แพร่ระบาด แล้วยังมาเจอวิกฤติสงครามรัสเซีย ยูเครน กับผลกระทบด้านอื่นๆอีก ทำให้ราคาน้ำพุ่งพรวด สินค้า ค่าครองชีพเพิ่มขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ ดังนั้น การปรับมาตรการ ทำให้ประชาชนผ่อนคลายมากขึ้น และมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นบ้าง ซึ่งผู้ประกอบการต่างคาดหวังว่า จะช่วยกระตุ้นให้คนที่มีกำลังซื้อ กล้าออกมาจับจ่ายใช้สอยกันมากขึ้น ส่วนการยกเลิกสวมหน้ากากอนามัย ก็เป็นความสมัครใจและเป็นวิจารณญาณเฉพาะบุคคล ซึ่งตอนนี้เชื่อว่าคนไทยรู้จักวิธีป้องกันตนเองมากขึ้น ส่วนมาตรการควบคุมป้องกันด้านอื่นๆ ก็ให้คงเอาไว้ เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของประชาชนผู้มาใช้บริการ
ซึ่งในส่วนของภาคอุตสาหกรรม ได้พยายามเรียกร้องรัฐบาลไปหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการผ่อนคลายให้นักลงทุน นักธุรกิจ เดินทางเข้ามาดูสินค้า ดูงาน ลงทุน หรือมาใช้บริการในประเทศได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น เนื่องจากการค้าการลงทุนในประเทศหยุดชะงักมานาน จึงอยากให้รัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องการค้า การลงทุนได้แอ็คชั่น ตีฆ้องร้องป่าวให้มากกว่านี้ เพื่อที่นักลงทุน นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะได้รับรู้รับทราบเรื่องการผ่อนคลายมาตรการของไทย ส่วนมาตรการเรื่องความปลอดภัยเกี่ยวกับการควบคุมโรค ยังมีความสำคัญอย่างมาก ศบค.ต้องประเมินสถานการณ์ทุกด้าน เพื่อปรับมาตรการให้สอดคล้องเหมาะสม
ขณะที่รัฐบาลก็ควรเร่งคลอดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาให้เร็วกว่านี้ และเติมเม็ดเงินเข้าไปช่วยให้เพียงพอ เพราะวิกฤติเศรษฐกิจส่งผลกระทบทางจิตวิทยาอย่างมาก สินค้าทุกอย่างปรับขึ้นราคา และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูขึ้นอีก จึงจำเป็นต้องหาเม็ดเงินมากระตุ้นให้มากพอ จะได้รองรับการแก้ไขปัญหาที่เป็นอยู่ขณะนี้ เพื่อที่สถานการณ์วิกฤติต่างๆ จะได้ดีขึ้นจริงๆ” นายหัสดินฯ กล่าว.
ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ / นครราชสีมา รายงาน