บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้ายกระดับผู้ประกอบการ SME ไทยในห่วงโซ่อุปทาน ผ่านโครงการ “SMEx ต้นทุนต่ำ นำรักษ์โลก” ตอกย้ำแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนให้คู่ค้าเข้าร่วมขอการรับรอง คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization: CFO) ตามมาตรฐานสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การแข่งขันในตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดต้นทุน เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และสร้างภาพลักษณ์องค์กรที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

นายพีรพงศ์ กรินชัย ผู้บริหารสูงสุด สายงานวิศวกรรมกลาง ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟให้ความสำคัญกับการมีส่
วนร่วมของพันธมิตรทางธุรกิจในห่
วงโซ่อุปทาน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่
อนสู่เป้าหมาย Net-Zero ภายในปี 2050 โครงการ SMEx ต้นทุนต่ำ นำรักษ์โลก ที่บริษัทดำเนินการต่อเนื่
องมาเป็นรุ่นที่ 4 จึงมีบทบาทช่วยให้ SME สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดด้านทรั
พยากร โดยเฉพาะบุคลากรที่เชี่
ยวชาญในการประเมินและวิเคราะห์
การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกิ
จกรรมต่าง ๆ จนถึงการวางแผนลดการปล่อยก๊
าซเรือนกระจกได้อย่างเป็นรู
ปธรรม ตั้งเป้ามีคู่ค้า SME 22 รายสามารถขอการรับรองเครื่
องหมาคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์
กรจากองค์การบริหารจัดการก๊
าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. ได้ภายในปีนี้

"SMEx เป็นโครงการที่ไม่ได้ถ่ายทอดองค์ความรู้แก่ SME อย่างเดียว แต่ยังส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SME สามารถลงมือดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพและบริหารจัดการทรัพยากรอย่างเป็นระบบ โดยมีที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และเครือข่ายพันธมิตรจากภาครัฐและสถาบันการศึกษาชั้นนำมาร่วมให้คำปรึกษาเชิงลึก ส่งผลให้ผู้ประกอบการ SME สามารถจัดทำข้อมูลปริมาณก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่างๆ ขององค์กรและขอขึ้นทะเบียนรับรองคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรได้สำเร็จ” นายพีรพงศ์กล่าว
ผู้ประกอบการ SME ที่เข้าร่วมโครงการ SMEx มีความรู้และสามารถลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดการสูญเสียและความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ รวมถึงนำผลประหยัดที่ได้มาลงทุนดำเนินโครงการด้านความยั่งยืน ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โครงการ SMEx เป็นส่วนหนึ่งในโครงการ “Partner to Grow – เติบโตเคียงข้างอย่างยั่งยืน” ที่ ซีพีเอฟ ริเริ่มและดำเนินการเพื่อยกระดับศักยภาพและความยั่งยืนของคู่ค้าธุรกิจในห่วงโซ่คุณค่า เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานและเติบโตอย่างยั่งยืนเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ตลอดจนมีขีดความสามารถในการปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

ในปีนี้ คู่ค้าผู้ประกอบการ SME จำนวน 22 ราย ที่เข้าร่วมโครงการ SMEx รุ่นที่ 4 เพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิ
ภาพการผลิต โดยมีผู้เชี่ยวชาญของซีพีเอฟเป็
นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำ รวมทั้งได้รับความรู้จากสถาบั
นการศึกษาและองค์กรชั้นนำ ได้แก่ หน่วยงานด้านความยั่งยื
นและการมีส่วนร่วมของสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ช่วยถ่ายทอดความรู้ทางวิ
ชาการให้ SME เพิ่มขีดความสามารถด้านความยั่
งยืน อบก. ให้คำปรึกษาการประเมินคาร์บอนฟุ
ตพริ้นท์ขององค์กร

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทั
ล หรือ ดีป้า ถ่ายความรู้แก่ SME เกี่ยวกับการประยุกต์ใช้ระบบดิ
จิทัลในกระบวนการทำงาน และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ที่ส่งเสริมผู้ประกอบการ SME สามารถเข้าถึงแหล่งทุ
นในการดำเนินโครงการด้านความยั่
งยืน เช่น การติดตั้งโซล่าร์เซลล์ เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุ
นเวียน เป็นต้น