ลูกพี่-ลูกน้องตั้งวงก๊งเหล้าขาวเที่ยงจรดค่ำพูดผิดหูคว้ามีดฟันคอดับคาที่

ลูกพี่-ลูกน้องตั้งวงก๊งเหล้าขาวเที่ยงจรดค่ำพูดผิดหูคว้ามีดฟันคอดับคาที่





ad1

ปราจีนบุรี–ลูกพี่ ลูกน้อง ตั้งวงก๊งเหล้าขาวกันยาว 5 -6 คน  พร้อมเพื่อนในหมู่บ้านตั้งแต่เที่ยงวัน จรดใกล้ค่ำเหลือลำพัง 3 คน  เคืองคนตายที่ขอตัวจะรีบกลับบ้าน และก่อนหน้าพูดขัดคอกัน เกี่ยวกับปัญหาชู้สาว ก่อนคว้ามีดจักตอกปลายแหลมฟันเข้าลำคอของอีกฝ่าย  ลึกฉกรรจ์จนหลอดลมหวิดคอขาด ตายอนาถคาที่!

เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ 8 พ.ค.65  ร.ต.อ.ธนยศ ธีรนิมมาน   รองสารวัตรเวร (สอบสวน) สภ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี   ได้รับแจ้งเหตุ  จากหน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญู มีเหตุทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีด จนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย  โดยผู้ลงมือก่อเหตุ  ใช้อาวุธเป็นมีดจักตอก  ยาวปลายแหลมยาวประมาณ 1 คืบ ฟันลำคอกัน ลึกจนหวิดคอขาด ผู้เสียชีวิตเป็นชาย อยู่ในจุดเกิดเหตุ จำนวน 1 ราย  สถานที่เกิดเหตุ  เป็นบริเวณเพิงพักอาศัยชั้นเดียว ยกสูงจากพื้นประมาณ 20 ซม.เศษ อยู่ท้ายหมู่บ้าน บ้านโคกบ้าน ติดกันกับด้านหลังวัดบ้านหนองชาติ เลขที่ 29 หมู่ 5 ต.บ้านหอย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี

 จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น  และ  พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชวาลย์ วงษ์รอด ผกก.สภ.ประจันตคาม พ.ต.ท.กานน มีสวัสดิ์ รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.ประจันตคาม  พ.ต.ต.สุทัศน์ ทองกล่อม สว.สส. สภ.ประจันตคาม  แพทย์เวรฯนิติเวช รพ.ประจันตคาม ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน,  สายตรวจรถยนต์ประจัน ๒๒๑  และ  ทีมชุดสืบสวนฯ  รีบมาตรวจสอบ ชันสูตรพลิกศพ

เป็นถนนคอนกรีตเข้าไป เป็นบริเวณเพิงพักอาศัยชั้นเดียว ยกสูงจากพื้นประมาณ 20 ซม.เศษ อยู่ท้ายหมู่บ้าน บ้านโคกบ้าน ติดกันกับด้านหลังวัดบ้านหนองชาติ พบผู้เสียชีวิต  ทราบชื่อต่อมาคือ นายชาญชัย   ศรีทอง อายุ 47 ปี เลขที่ 29 หมู่ 5 ต.บ้านหอย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี    เป็นเจ้าของบ้าน  ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านดังกล่าวเพียงลำพัง   สภาพศพ  นอนหงายหน้างอเข่า  สวมเสื้อแขนสั้นสีแดง กางเกงขาสั้นสีดำ   นอนหงายจมกองเลือด   อยู่ช่วงด้านหน้าห่างจากหน้าเพิงพัก ประมาณ 5 เมตร  พบที่บริเวณลำคอคนตาย  ถูกฟันด้วยของมีคม เป็นแผลลึกบาดแผลฉกรรจ์ เข้าไปกว่า 10 ซม.เกือบตัดหลอดลมหวิดขาด พบมีดที่ใช้  เป็น มีดแบบไว้จักตอกปลายแหลมคมกริบ ขนาดความกว้างของใบมีดกว่า 1 คืบ  ความยาวจรดด้าม 50 ซม. สภาพเปื้อนเลือด พบตกพื้นห่างจากปลายมือขวา ของคนตายห่าง 2 เมตรเศษ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ป้องกันตัวใด ๆ

ทราบต่อมา  คนร้ายที่ใช้อาวุธจักตอกปลายแหลม คนก่อเหตุใช้มีดฟันคอคนตายดังกล่าว  หรือ  ผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือนายสุเทศ  ศรีทอง (เนตร )  อายุ58 ปี   สวมใส่กางเกงขาสั้นสีเทา-เสื้อเชิ้ตสีเทา หลังก่อเหตุแล้ว  หลบหนีไปอยู่แถวป่า ม.5 บ้านหอย  หลังวัดหนองชาติ (เป็นโรคเก๊า)  ซึ่งทั้งคู่ทั้งคนตาย  และ ผู้ก่อเหตุ  ทั้งคู่นั้น ฐานะเป็นญาติสนิท คือ ลูกผู้พี่ – ลูกผู้น้องกัน

พ.ต.อ.ชวาลย์ วงษ์รอด ผกก.สภ.ประจันตคาม กล่าวว่า   สอบสวนจุดเกิดเหตุ  ในเบื้องต้นทราบว่า  ก่อนเกิดเหตุ ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ12.00 น.เป็นต้นมาทั้งผู้ตายและผู้ก่อเหตุ และเพื่อน ๆ รวม 5 -6 คนได้มาตั้งวงดื่มกินสุรา (เหล้าขาว)  ดื่มกินกันจนตกเย็น  เหลือคนในวงเหล้าเพียง 3 คน   คือ คนตาย คนก่อเหตุ และเพื่อนที่มาดื่มกินก่อนหน้าด้วยกัน   ส่วนคนอื่น ๆ ต่างพากันกลับก่อนไปหมดแล้ว

โดยทางคนตายได้พูด  ขอตัวกลับบ้านพัก เพราะเย็นมากใกล้ค่ำแล้ว สร้างความไม่พอใจให้  คนก่อเหตุ ได้ใช้มีดจักตอกฟันเหวี่ยงเข้าใส่ลำคอของคนตาย และหลังเกิดเหตุได้อาศัยความชุลมุน  หลบหนีไปจากบ้านที่เกิดเหตุ ดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามเพื่อจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายและ  นำมาสอบสวนต่อไป

ด้านนายณรงค์ อินทวงษ์  ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า   มีญาติผู้ชายคนหนึ่ง  มาบอกว่าผู้ตาย  ถูกนายสุเทพ ศรีกอง ใช้มีดปาดคอเสียชีวิตแล้วหนีไป ต่อมาชุดสืบสวนได้ติดตามตัวญาติที่นั่งกินเหล้าร่วมกันมาให้ปากคำ

นายปรีชา กงกรรม ลูกพี่ลูกน้องกันกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองกับเพื่อนหญิง   มากินเหล้าที่บ้านผู้ตาย และผู้ตายทะเลาะกับนายสุเทพ   เรื่องชอบพอกับเพื่อนหญิงคนหนึ่งที่มาร่วมกินเหล้าด้วยกันอยู่บ่อยๆ ตนกับเพื่อนได้ร้องห้าม   และจำอะไรไม้ได้   เห็นเพื่อนพากันออกจากบ้านผู้ตาย  จึงไปด้วย   แต่เห็นผู้ตายนอนอยู่หน้าบ้าน มารู้อีกทีเมื่อตำรวจไปตามตัวมาให้ปากคำ

ขณะที่ น.ส.สุวลี  สีทอง อายุ 46 ปี  เป็นน้องสาวของผู้ก่อเหตุ  กล่าวว่า  “ข้อสันนิษฐาน  คนตาย (เป็นลูกผู้น้อง)  มักจะพากันมากินเหล้า (ขาว) กันที่เพิงพักนี้ แทบในทุกๆวัน กับผู้ก่อเหตุ พอหลังจากเมามายกันได้ที่แล้ว  มักชวนทะเลาะ  หรือ  ด่า ท้าตี ท้าต่อย กับ  ลูกผู้พี่ทุก ๆ วัน   จนน่าจะเกิดบันดาลโทสะกันขึ้น    แต่ถ้าหากเรื่องชู้สาวแล้ว คนตาย  เขาชอบน้องเบญที่มากินด้วยในวันนี้  แต่  ไม่น่าเป็นไปได้เพราะผู้หญิงเขาไม่สนใจด้วย

มานิตย์   สนับบุญ/ปราจีนบุรี รายงาน