คุก 6 เดือนสาวกุเรื่องดูดเลือดขายในกัมพูชากระทบสัมพันธ์2ชาติ

คุก 6 เดือนสาวกุเรื่องดูดเลือดขายในกัมพูชากระทบสัมพันธ์2ชาติ





ad1

คุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา! สาววัย 25 กุเรื่องถูกดูดเลือดขายในเขมร อ้างอยากกลับมาหาแฟนในไทย ตร.ชี้กระทบความสัมพันธ์ 2 ประเทศ

เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดสระแก้ว สั่งจำคุกสาววัย 25 ปี จำนวน 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา หลังสร้างเรื่องถูกดูดเลือดขายในฝั่งกัมพูชาขณะทำงานเป็นแอดมินออนไลน์ โดยสาววัย 25 ปี ยอมรับว่า ที่ต้องสร้างเรื่องว่าถูกดูดเลือดไปขาย เพราะต้องการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยช่วยเหลือเป็นกรณีเร่งด่วน

ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย แถลงด่วนร่วมกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่กัมพูชา กรณีมีคนไทยถูกเลือดไปขาย ขณะอาศัยทำงานอยู่ในฝั่งกัมพูชา สร้างความเสียหายและความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ หลังจากทีมงาน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะรอง ผอ.ศพดส.ตร.เร่งให้ความช่วยเหลือ 8 คนไทยถูกหลอกทำงานออนไลน์ในฝั่งกัมพูชา เมื่อช่วงเย็นวันที่ 9 มี.ค.

โดยหนึ่งในจำนวนนี้มีหญิงไทยคนหนึ่งอายุ 25 ปี ให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ว่า ในช่วงที่ถูกกักขังตัวอยู่ในฝั่งกัมพูชา ถูกกลุ่มนายทุนชาวจีนวางยาสลบ ก่อนจะนำไปดูดเลือด 3 ถุง ทีมงาน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จึงเร่งประสานเจ้าหน้าที่ในฝั่งกัมพูชา เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือ จนสามารถนำตัวกลับเข้ามาในฝั่งไทยอย่างรวดเร็ว

ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.วรรณวีระ สม ผบ.กองกำลัง ตร.สันติบาลกัมพูชา, พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร., นายมานะ สิมมา ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย แถลงข่าวถึงเรื่องราวของ น.ส.อารียา คมกระโทก หญิงไทยอายุ 25 ปี ว่า เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องที่โกหกขึ้นมา

โดย น.ส.อารียา สร้างเรื่องราวขึ้นมาเอง ทั้งตัวละครคนไทยที่อ้างว่าไปขอความช่วยเหลือ รวมถึงชื่อบัญชีเฟซบุ๊กที่ปลอมขึ้นมา ยอมรับว่าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างเร่งด่วน เพราะต้องการกลับมาหาแฟนในฝั่งไทยที่ได้รับการช่วยเหลือไปก่อนหน้านี้

พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง.ผบ.ตร. เปิดเผยว่า จากคำให้การของ น.ส.อารียาส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและกัมพูชา จากการสอบปากคำด้วยตัวเอง ยืนยันว่าหญิงไทยคนนี้ สร้างเรื่องทั้งหมดขึ้นมา เพียงเพราะต้องการให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือกลับประเทศ

ขณะที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ยืนยันว่าคำโกหกการของหญิงสาว มีความผิดร้ายแรงมากกว่าแจ้งความเท็จ ด้าน พล.ต.อ.วรรณวีระ สม ผู้บัญชาการกองกำลังตำรวจสันติบาลกัมพูชา ที่เดินทางไปร่วมแถลงข่าวกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย ยอมรับว่า กระทบไปถึงเกียรติยศศักดิ์ศรีของคนกัมพูชาอย่างยิ่ง รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยที่ทำงานร่วมกัน

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัว น.ส.อารียา คมกระโทก ให้กับพนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ส่งฟ้องศาลจังหวัดสระแก้วเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ก่อนที่ศาลจะตัดสินจำคุก น.ส.อารียา เป็นเวลา 6 เดือนไม่รอลงอาญา