เร่งรวบรวมหลักฐานเอาผิดนายทุนล้างถังเคมีทิ้งลงแม่น้ำสาธารณะ(มีคลิป)

เร่งรวบรวมหลักฐานเอาผิดนายทุนล้างถังเคมีทิ้งลงแม่น้ำสาธารณะ(มีคลิป)





ad1

นครราชสีมา –เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมลงพื้นที่เก็บตัวอย่างดินตะกอน และน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะหมู่บ้านซับชุมพล ม.9 ต.หนองหญ้าขาว อ.สีคิ้ว เพื่อส่งกรมควบคุมมลพิษตรวจหาสารปนเปื้อนในเชิงลึก คาด 1-2 สัปดาห์รู้ผล หลังชาวบ้านร้องเรียนผู้ประกอบการนำถังเคมีล้างทิ้งลงแหล่งน้ำ ขณะที่ชาวบ้านเผยมีอาการข้างเคียงจากสารพิษแล้ว

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 นายธนัญชัย วรรณสุข ผอ.สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 11 (นครราชสีมา) ได้นำเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมเครื่องมือ ลงพื้นที่หมู่บ้านซับชุมพล ม.9 ต.หนองหญ้าขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เพื่อตรวจวัดสิ่งปนเปื้อนในตะกอนดินและน้ำ ภายหลังจากเกิดกรณีร้องเรียนผู้ประกอบการล้างถังบรรจุสารเคมีอันตราย ปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ จนทางนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ต้องสั่งปิดสถานประกอบการล้างถังบรรจุสารเคมี 12 แห่ง พร้อมกับให้สำนักงานสิ่งแวดล้อมที่ 11 (นครราชสีมา) ทำการเก็บตัวอย่างตะกอนดิน และน้ำ เพื่อหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป

โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างตะกอนดิน ทั้งในคลองอีสานเขียว และผิวดินริมตลิ่ง ระดับความลึกจากพื้น 30 ซม. กับ 60 ซม. ตั้งแต่บริเวณต้นน้ำเหนือหมู่บ้านซับชุมพล บริเวณกลางหมู่บ้านที่อยู่ติดกับสถานประกอบการล้างถังบรรจุสารเคมี และท้ายหมู่บ้านบริเวณอ่างเก็บน้ำซับกะบุตร ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสาธารณะมีพื้นที่กว่า 97 ไร่ ที่ใช้ในการทำน้ำประปาสำหรับอุปโภคบริโภคในหมู่บ้าน

นายธนัญชัย วรรณสุข ผอ.สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 11 (นครราชสีมา) เปิดเผยว่า จากการที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 11 (นครราชสีมา) ได้มาสุ่มเก็บตัวอย่างน้ำในคลองอีสานเขียว และอ่างเก็บน้ำซับกะบุตร เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ก็พบว่าบริเวณต้นน้ำ และปลายน้ำ มีค่าการปนเปื้อนวัตถุหนักปกติ จะมีเฉพาะบริเวณกลางน้ำที่มีสถานประกอบการตั้งอยู่ติดกับคลองอีสานเขียวเท่านั้น ที่มีค่าสารปนเปื้อนมากกว่าจุดอื่น เช่น สารหนู นิกเกิล และแคสเมี่ยม แต่อยู่ในระดับไม่เกินมาตรฐานนัก ซึ่งสารปนเปื้อนเหล่านี้ไม่สามารถพบได้ในธรรมชาติทั่วไป จะพบได้ก็มาจากโรงงานอุตสาหกรรมเท่านั้น 

ดังนั้นในวันนี้จึงได้ลงพื้นที่เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำและดินตะกอนเพื่อตรวจหาสิ่งปนเปื้อนในเชิงลึก โดยตัวอย่างน้ำและดินตะกอนเหล่านี้จะส่งไปตรวจสอบในห้องแลปที่กรมควบคุมมลพิษ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์จึงจะทราบผล ขณะเดียวกันในส่วนของสถานประกอบการทั้ง 12 ราย ขณะนี้ก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี โดยได้ทำการหยุดกิจการทุกรายแล้ว และได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส.เพื่อที่จะสืบไปถึงต้นตอของการนำถังบรรจุสารเคมีออกมาจากโรงงานอุตสาหกรรม แล้วมาขายต่อให้กับชาวบ้าน

ซึ่งเบื้องต้นทราบว่า มีแหล่งที่มา 3 แห่ง ได้แก่ 1.ติดต่อซื้อขายผ่านทางโซเชี่ยล 2.รับซื้อมาจากร้านขายของเก่ง ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดที่มีโรงงานอุตสาหกรรม 3.ซื้อขายผ่านการโทรศัพท์โดยตรง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส.อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อสืบไปถึงต้นตอการนำออกมาจำหน่าย ว่ามีการเล็ดลอดมาสู่ประชาชนได้อย่างไร ตั้งแต่การนำออกจากโรงงาน การขนส่ง การกำจัด หรือโรงงานประเภท 105 และ 106 นำมากระจายสู่ร้านขายของเก่าหรือไม่ ส่วนการดำเนินคดีนั้นคาดว่าทาง บก.ปทส.จะกันผู้ประกอบการทั้ง 12 รายเป็นพยาน เพราะไม่ต้องการที่จะมาไล่เอาผิดที่ปลายเหตุ โดยต้องการที่จะไปแก้ปัญหาที่ปลายเหตุด้วยการดำเนินคดีกับนายทุนที่ลักลอบนำถังออกมากระจายสู่ประชาชนทั่วไป

ขณะเดียวกันที่บ้านเลขที่ 228/1 บ้านซับชุมพล ม.9 ซึ่งเป็นบ้านของผู้ร้องเรียนกรณีนี้ และเพิ่งจะถูกมือดีคุกคามด้วยการนำขี้ไก่มาราดหน้าบ้าน นางจารุรัศมี ชยาบูรณ์พิภพ อายุ 54 ปี เจ้าของบ้านได้นำผู้สื่อข่าวตรวจสอบสภาพน้ำประปาที่ใช้ในครัวเรือน โดยเปิดน้ำจากก๊อกให้ดูก็พบว่ามีกลิ่นเหม็นคล้ายสารเคมีบางอย่างเจือปน แม้ว่าจะมีการซื้อเครื่องกรองน้ำมาติดตั้งแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถกำจัดกลิ่นเหม็นเหล่านี้ได้ ซึ่งนางจารุรัศมีฯ เชื่อว่าเป็นสาเหตุมาจากน้ำที่เจือปนสารเคมีที่รั่วไหลออกมาจากสถานประกอบการล้างถังบรรจุสารเคมีแน่นอน 

นางจารุรัศมีฯ เปิดเผยว่า ตนเองนั้นก็เป็นคนที่เคยประกอบกิจการล้างถังบรรจุสารเคมี ซึ่งยอมรับว่าธุรกิจนี้รายได้ดีมาก โดยรับซื้อถังมาจากร้านขายของเก่าแถว จ.นนทบุรี ปทุมธานี สระบุรี และชลบุรี โดยเฉพาะถังบรรจุน้ำกระเทียมเจียวที่ใช้ประกอบในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งทำอยู่กว่า 2 ปีระหว่างปี 2543-2544 ตนเองและสามีก็เริ่มมีอาการหายใจไม่สะดวก คันตามผิวหนัง และแขน ขา อ่อนแรง ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร ต่อมาก็ได้มีชาวบ้านร้องเรียนว่าสถานประกอบการของตนเองส่งกลิ่นเหม็นรบกวน และมีชาวบ้านเริ่มมีอาการคันตามผิวหนัง แล้วตนเองไปตรวจในโรงพยาบาล หมอก็บอกว่าเลือดในร่างกายมีสารเคมีปนเปื้อนมากผิดปกติ ซึ่งคาดว่าจะเกิดจากการล้างถังบรรจุสารเคมี จึงทำให้ตนเองต้องหยุดกิจการล้างถังบรรจุสารเคมีไปในที่สุด หลังจากนั้นก็ได้เปลี่ยนมาทำธุรกิจทำฟอร์นิเจอร์ขาย และรับจ้างทำบายศรีตามพิธีมงคลต่างๆ แทน

แต่ต่อมาพบว่าในหมู่บ้านซับชุมพล มีชาวบ้านพากันเปิดสถานประกอบการล้างถังบรรจุสารเคมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งมีการปล่อยน้ำเสียลงสู่ลำน้ำธรรมชาติ และส่งกลิ่นเหม็น ทำให้ตนเองรู้สึกเป็นห่วงคุณภาพชีวิตของชาวบ้าน จึงได้ร้องเรียนไปยัง อบต.หนองหญ้าขาวหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะหมู่บ้านแห่งนี้มีอ่างเก็บน้ำซับกะบุตร ที่เป็นแหล่งน้ำสำหรับใช้อุปโภคบริโภคอยู่แห่งเดียว เกรงว่าหากยังปล่อยให้มีการปล่อยน้ำเสียจากสถานประกอบการล้างถังสารเคมีลงสู่ลำน้ำสาธารณะต่อเนื่อง ในอนาคตลูกหลานคงจะไม่มีแหล่งน้ำสะอาดใช้อุปโภคบริโภคแน่นอน จึงทำให้ตนเองต้องไปร้องเรียนต่อสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 11 (นครราชสีมา) จนเป็นที่มาของการลงพื้นที่แก้ไขปัญหาอย่างจริงจังอยู่ในขณะนี้

ส่วนเรื่องที่ถูกมือดีคุกคามด้วยการนำขี้ไก่มาราดหน้าบ้านของตนเองนั้น ขณะนี้ก็ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.สีคิ้วแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนหาคนกระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอยู่.

ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ // นครราชสีมา รายงาน