แฉหมดเปลือก!แก๊งอ้างชื่อหลานรองนายกฯขึ้นป้ายราชการหากิน

แฉหมดเปลือก!แก๊งอ้างชื่อหลานรองนายกฯขึ้นป้ายราชการหากิน





ad1

“พันธ์ยศ” ออกโรงแจง โดนขบวนการแก๊งต้มตุ๋นแอบอ้างเป็นหลานชายรองนายกฯ  หลอกติดป้ายสำนักนายกฯหาประโยชน์ แจ้งปลดป้ายแล้ว เตรียมยื่นจม.แฉหมดเปลือกที่ทำเนียบฯพรุ่งนี้ 

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 65  นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ อดีตเลขาธิการพรรคภราดรภาพ กล่าวในกรณีที่กอ.รมน.ลงพื้นที่ตรวจอาคารไทยเฮลท์ ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ แขวงและเขตหนองแขม กทม. โดยพบว่า อาคารนี้เป็นของนายพันธ์ยศที่ได้ติดตั้งป้ายข้อความและตราสัญลักษณ์กอ.รมน.รวมทั้งตราสัญลักษณ์สำนักนายกรัฐมนตรี  ใจความในป้ายระบุว่า "ศูนย์อำนวยการยุทธศาสตร์ภาคกลางร่วมกับกอ.รมน." เเละที่ลานบริเวณอาคารยังมีป้ายข้อความระบุว่า “สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการแห่งชาติศึกษาความเป็นไปได้ในการขุดคลองกระ” โดยมีตราสัญลักษณ์สำนักนายกรัฐมนตรีประกอบในป้าย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกอ.รมน.และทำเนียบรัฐบาล  โดยกอ.รมน.และนายพันธ์ยศได้ลงบันทึกประจำวันในเรื่องนี้ไว้ที่สน.หนองแขมเมื่อหลายวันที่ผ่านมา

นายพันธ์ยศ   กล่าวว่า    ขอเรียนทุกฝ่ายว่า ต้องขออภัยที่ดำเนินการไปด้วยความสำคัญผิดเพราะหลงเชื่อคำชักชวนของบุคคลสองราย  ที่เคยมีพฤติกรรมหลอกลวง โกงเงิน และแอบอ้างว่ารู้จักกับนักการเมืองชื่อดังเมื่อหลายปีก่อน   โดยช่วงต้นเดือนต.ค.2564 ทั้งสองคนอ้างว่าเป็นคณะทำงานของ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี   ได้มาทาบทามตนเอง ให้ไปทำหน้าที่ข้าราชการฝ่ายการเมือง  ในตำแหน่งรองประธานคณะทำงานภาคกลาง  คณะทำงานประจำกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี และใช้อาคารดังกล่าวเป็นศูนย์อำนวยการยุทธศาสตร์ภาคกลาง  แม้ราชกิจจานุเบกษาจะประกาศว่า  นายกรัฐมนตรีลงนามให้นายทหารระดับนายพลพ้นหน้าที่กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีไปเมื่อวันที่ 3  ก.ย.2564     แต่ทั้งสองคนอ้างว่าบุคคลที่มาเป็นรองประธานคณะทำงานภาคกลาง คณะทำงานประจำกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี จะมารับหน้าที่กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีแทนในเร็วๆนี้ 

นายพันธ์ยศ  กล่าวว่า    ทั้งสองคนจึงชักชวนตนโดยแอบอ้างนำเอกสารทางราชการมาโน้มน้าวให้ตนกรอกเอกสารเพื่อเสนอชื่อให้ไปทำหน้าที่รองประธานคณะทำงานภาคกลาง ศูนย์ยุทธศาสตร์ภาคกลาง และขอให้ตกแต่งอาคารเพื่อใช้เป็นศูนย์อำนวยการยุทธศาสตร์ภาคกลาง   ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาได้รับการชักชวนจากบุคคลทั้งสองให้ไปร่วมกิจกรรมทางสังคมและการประชุมโดยอ้างสถานะคณะทำงานของอดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีท่านนี้ หลายครั้ง   หลงเชื่อจึงดำเนินการตามคำชักชวนของทั้งสองคนโดยไม่ได้ตรวจสอบรายละเอียดที่ชัดเจน  และทั้งสองคนยังหลอกลวงตนให้สนับสนุนการใช้งบประมาณปรับปรุงอาคารรวมทั้งงบประมาณการลงพื้นที่ของคณะทำงานภาคกลาง  คณะทำงานประจำกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีไปหลายเเสนบาท โดยทั้งสองคนอ้างว่าหลังเปิดศูนย์อำนวยการยุทธศาสตร์ภาคกลางเรียบร้อยแล้วจะให้เบิกจ่ายงบประมาณต่างๆที่สำรองจ่ายย้อนหลังได้ แต่เมื่อดำเนินการไปแล้วกลับไม่มีการใดๆ

นายพันธ์ยศ    กล่าวว่า   พยายามติดตามทวงถามความคืบหน้าจากทั้งสองคน เป็นระยะ แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงไปมา และเมื่อปรากฏข่าวเกี่ยวกับอาคารของตนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา   เจ้าหน้าที่กอ.รมน.มาเชิญไปให้ข้อมูลที่สภ.หนองแขมเพื่อชี้แจง    ได้ไปพบและชี้แจงข้อมูลเบื้องต้น โดยลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน   เหตุที่ชี้แจงเรื่องนี้ล่าช้าหลังปรากฏเป็นข่าวเมื่อหลายวันที่ผ่านมา 

“ผมยอมรับว่า ผมมีความผิด เพราะดำเนินการด้วยความสำคัญผิดด้วยการหลงเชื่อบุคคลทั้งสอง  จึงได้ไปรวบรวมเอกสารหลักฐานเพื่อมาแจ้งความเอาผิดทั้งสองคน รวมทั้งบุคคลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ต่อสภ.หนองแขม ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน/ปลอมและใช้เอกสารทางราชการ/แต่งกายเลียนแบบข้าราชการ  

“นอกจากนี้ บุคคลดังกล่าวอ้างกับผมว่าเป็นหลานชายของรองนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งในครม.ชุดนี้  และยังพบว่านายอภิชาติไปใช้วิธีนี้กับประชาชนในภาคอีสานเมื่อหลายเดือนก่อนโดยมีการแจ้งความไว้แล้ว รวมทั้งยังพบว่ามีการหลอกลวงประชาชนให้ตั้งศูนย์ฯดังกล่าวในหลายจังหวัด เช่นประจวบคีรีขันธ์,ชุมพร   กรณีนี้ผมขออภัยสังคมและส่วนราชการด้วยเพราะไม่ได้มีเจตนาใช้ตราราชการโดยทุจริต    ผมหลงเชื่อเพราะอยากทำงานทางการเมืองช่วยสังคม   ยอมรับว่า ผมสำคัญผิดและไม่รอบคอบ และขอให้ข้อมูลทั้งหมดต่อสภ.หนองแขมเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ผมได้ปลดป้ายดังกล่าวออกจากพื้นที่แล้ว"

นายพันธ์ยศ   กล่าวว่า   ส่วนป้ายข้อความ“สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการแห่งชาติศึกษาความเป็นไปได้ในการขุดคลองกระ”นั้น ได้เตรียมดำเนินการถอดป้ายดังกล่าวแล้ว 

ทั้งนี้  นายพันธ์ยศ ได้ทำหนังสือชี้แจงไปยังผบ.ตร./เลขาธิการกอ.รมน./เลขาธิการนายกรัฐมนตรี/ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและขออภัยในสิ่งที่ดำเนินการไปด้วยความสำคัญผิดในการติดตั้งป้ายทั้งสองแบบในพื้นที่อาคารของตน โดยจะยื่นหนังสื่อชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดที่ทำเนียบฯและกอ.รมน.ในวันพรุ่งนี้ ( 22 ก.พ. 65 )