ตรุษจีนโคราชเริ่มคึกคักแห่ทำบุญกราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (มีคลิป)

ตรุษจีนโคราชเริ่มคึกคักแห่ทำบุญกราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (มีคลิป)





ad1

นครราชสีมา- ตรุษจีนโคราชเริ่มคึกคัก  ปชช. คนไทยเชื้อสายจีน และ นทท. แห่ทำบุญกราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่จังหวัดฯ ขอความร่วมมืองดจุดธูปเทียน ลดกิจกรรมการเผา หวั่นค่าฝุ่น PM 2.5 เพิ่มสูง

นครราชสีมา-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันตรุษจีน ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีนและเป็นเทศกาลสำคัญของคนจีน ซึ่งปีนี้จะตรงกับวันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 และแม้ว่าสถานการณ์โรคโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด  แต่ทางจังหวัดฯ ยังให้ประชาชนทำบุญกราบไหว้เทพเจ้าตามศาลเจ้าต่างๆ แบบ New Normal ได้ตามปกติ โดยขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคระบาดอย่างเคร่งครัด รวมถึง รณรงค์ลดกิจกรรมการเผาทุกชนิดในช่วงหน้าแล้งและในช่วงตรุษจีนที่จะถึง เนื่องจากการเผาซากพืชผลทาการเกษตร เผาขยะ ฝุ่นควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ตลอดจน การจุดธูปเทียน จุดประทัด เผากระดาษเงินกระดาษทอง เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดฝุ่นควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพิ่มปริมาณสูงขึ้น ส่งผลกระทบทำให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศ

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา จึงออกประกาศจังหวัดฯ ควบคุม กำกับดูแล และเข้มงวดเรื่องกิจกรรมการเผา มีผลตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2565 เป็นต้นมา โดยขอความร่วมมือ ภาครัฐ ภาคเอกชน เกษตรกร และประชาชนในพื้นที่ ได้งดเผาซากพืช วัชพืช และเศษวัสดุทางการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง 2565 และให้ผู้นำชุมชนประชาสัมพันธ์เกษตรกรและประชาชน ได้รู้ถึงผลเสียและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการเผา และให้ทุกหมู่ล้านกำหนดกติกา ข้อบังคับ และบทลงโทษแก่ผู้ที่ฝ่าฝืนโดยอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2560 และผิดตามเทศบัญญัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่งที่กำหนดไว้

ซึ่งบรรยากาศการไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา  พบว่า ประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ความร่วมมืออย่างดี โดยเฉพาะที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง แลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัด พบว่า ประชาชน นักท่องเที่ยว และคนไทยเชื้อสายจีน มากราบสักการะขอพรท้าวสุรนารีหรือคุณย่าโม กันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่จุดนี้ ทางจังหวัดฯ จะเปิดให้เข้ามาสักการะ หรือนำเครื่องเซ่นไหว้มากราบขอพรได้ตามปกติ ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ขอให้งดจุดธูปเทียน ในขณะที่ศาลเจ้าต่างๆ

 อย่างเช่น ศาลเจ้าพ่อไฟ ที่ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ก็เปิดให้กราบขอพรเทพเจ้าเช่นกัน แต่งดจุดธูปเทียน เช่นเดียวกับศาลหลักเมือง จะเปิดให้เข้าสักการะแบบ New Normal ทุกคนที่เข้าพื้นที่จะต้องสวมหน้ากากอนามัย  ตรวจวัดอุณหภูมิ และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมืองดจุดธูปเทียนด้วย ซึ่งผู้ดูแลศาลหลักเมือง ได้เริ่มจัดเตรียมสถานที่ไว้รองรับคนไทยเชื้อสายจีน ที่จะมากราบไหว้สักการะขอพรศาลหลักเมืองในช่วงเทศกาลตรุษจีนแล้ว

ส่วนวัดศาลาลอย แลนด์มาร์คสำคัญอีกแห่งหนึ่งในเขตเมืองฯ ซึ่งมักจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นจำนวนมากตลอดทั้งปี  ก็เปิดให้เข้ามาทำบุญ กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และสักการะขอพรคุณย่าโมได้ตามปกติ โดยจะให้จุดธูปเทียนเฉพาะที่บริเวณลานหน้าเจดีย์บรรจุอัฐิย่าโมเท่านั้น ส่วนอุโบสถหลังเก่า ที่เจ้าพระยามหิศราธิบดี และท้าวสุรนารี  ได้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2370 ปัจจุบันมีอายุได้ 195 ปี และอุโบสถหลังใหม่ ทรงเรือสำเภาโต้คลื่น ที่สร้างเมื่อ พ.ศ.2510 อายุกว่า 55 ปีแล้ว จะงดจุดธูปเทียนภายในอุโบสถ  ซึ่งการรณรงค์ขอความร่วมมือในแต่ละจุด  ช่วยลดปริมาณฝุ่นควันลงได้อย่างมาก