รวบ 2 หนุ่ม ขายยา-วิ่งราวคนแก่ คนหนึ่งบอกหาเงินค่าผ้าอ้อมให้ลูก อีกคนบอกหาเงินค่านมให้หลาน สุดท้ายไม่รอดมือสืบพระประแดง

วันที่ 25 ส.ค. 65 เจ้าหน้าที่สืบสวนพระประแดงเร่งตามหาตัว 2 คนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์หญิงชราวัย 74 ปี ที่ปากซอยสุขสวัสดิ์ 37/7 ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ โดยเหตุเกิดเมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่เป็นหลักฐานพบวัยรุ่นชายสองคน ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง หลังจากเห็นเหยื่อเดินมายังบริเวณดังกล่าว คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว อาศัยจังหวะที่ผู้เสียหายเผลอ แล้วลงจากท้ายรถปรี่เข้าหาผู้เสียหายก่อนจะกระชากทรัพย์สิน ซึ่งเป็นลอตเตอร์รี่ที่ถืออยู่ในมือโดยนึกว่าเป็นเงิน เมื่อคนร้ายรู้ตัวจึงย้อนกลับมาชิงเงินสดในกระเป๋าเสื้อของผู้เสียหาย จำนวน 3,700 บาท ก่อนจะพากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี
.
หลังจากออกไล่ล่าหาเบาะแสและแกะรอยเส้นทางคนร้าย เจ้าหน้าที่ก็ทราบข้อมูลว่าคนร้ายทั้งสองมีแหล่งกบดานอยู่ในชุมชนบัวหลวง แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา  กทม. จึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งช่วงกลางดึกของวันที่ 25 ที่ผ่านมาพบชายวัยรุ่นต้องสงสัยที่ปรากฎตามภาพวงจรปิด นั่งอยู่เพิงไม้ริมทาง  เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าควบคุมตัว ทราบชื่อคือ นาย สมพร อายุ 27 ปี ซึ่งตอนแรกให้การปฎิเสธเสียงแข็งบอกว่าไม่ได้ก่อเหตุกระทำความผิดอะไรมา จนเจ้านำหลักฐานจากวงจรปิดและเส้นทางการหลบหนีมาให้ดู เจ้าตัวจึงยอมรับสารภาพเพราะจำนนด้วยหลักฐาน 
.
จากนั้นนายสมพรให้การซัดทอดว่าก่อเหตุร่วมกับนายสมชาย อายุ 24 ปี ฝ่ายสืบสวนจึงขยายผลไปจับกุมตัวนายสมชาย เอาไว้ได้ขณะขับรถอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 35 แยก 16 กทม. พร้อมกับนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปค้นห้องพักเพื่อตรวจยึดของกลาง
.
นายสมพรให้การรับสารภาพอีกว่าตนเองเพิ่งไปก่อเหตุชิงทรัพย์กับหญิงสูงอายุอีกรายหนึ่งในพื้นที่ของ สน.บางขุนนนท์ เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่ผ่านมา ก่อนจะนำเงินที่ได้ไปไถ่สร้อยคอมาใส่ นอกจากนั้นยังพบยาเสพติด ยาเค และพบการพัวพันเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกจำนวนมาก ซึ่งนายสมพร ยอมรับว่าตนเองเป็นผู้สั่งยาเสพติดเข้ามาแล้วจะให้นายสมชายเป็นผู้เดินยา จนมาถูกจับกุม 
.
ขณะที่จากการตรวนสอบประวัติย้อนหลัง พบว่านายสมพร มีประวัติเคยถูกจับกุมมาแล้วนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นคดียาเสพติด ลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ตำรวจจึงคุมตัวผู้ต้องหา ทั้งสอง มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งพบว่าผู้ต้องหาที่ลงมือก่อเหตุ คือนายสมชายนั้นพิการที่ข้อมือข้างขวาอีกด้วย โดยขณะทำแผนนายสมชายผู้ต้องหาที่พิการมือขวาให้การยอมรับว่าที่ทำลงไปนั้น เพราะต้องการหาเงินไปซื้อแพมเพิสและนมให้ลูก ส่วนนายสมพรให้การอ้างว่าทำลงไปเพราะหาเงินค่านมให้หลาน 
.
ด้านคุณยายวัย 74 ปีซึ่งเป็นผู้เสียหายบอกว่าคดีนี้ตนไม่สงสารแต่สมเพชคนร้ายทั้งสองมากกว่า หลังจากนี้ก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
.
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา  “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำความผิด หรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม”  และประชาสัมพันธ์ผู้เสียหายรายใดที่เคยถูกคนร้าย 2 รายนี้ก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้ สามารถมาชี้ตัวยืนยันและสั่งอายัดตัวดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป คาดยังมีผู้เสียหายอีกหลายราย