สลด!ปิกอัพหักหลบรถพวงวางกลวยเสียหลักตกคลองดับ3 เจ็บอีก 2 (มีคลิป)

นครราชสีมา -คืบหน้ากรณีรถปิกอัพพุ่งตกคลองน้ำเสียชีวิต 3 รายบาดเจ็บ 2 ราย สาเหตุคนขับหักพวงรถหลบกรวยยางที่วางอยู่บนถนน จนเป็นสาเหตุทำให้รถเกิดเสียหลักตกร่องกลางถนนก่อนจะพุ่งลงน้ำ

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2564  คืบหน้ากรณี  เมื่อช่วงเวลา 03.40 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนแดง จังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถปิกอัพพุ่งตกคลองน้ำ บริเวณถนนสาย ประทาย-โนนแดง บ้านซาด ตำบลสำพะเนียง อำเภอโนนแดง จังหวัดนครราชสีมา จึงได้ออกไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลโนนแดง หน่วยกู้ภัยฮุก 31 โนนแดง ในที่เกิดเหตุ พบรถปิกอัพยี่ฮ่ออีซูซุสีบรอนเงินหมายเลขทะเบียน บน-1954 จังหวัดยโสธร ตกอยู่ในคลองน้ำริมถนน  

ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจึงได้เข้าไปตรวจสอบภายในรถปิกอัพ พบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เป็นหญิง  ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจึงนำผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายส่งโรงพยาบาลโนนแดง และ ยังมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในรถอีกทั้งหมด 3 ราย ทราบชื่อต่อมาผู้เสียชีวิตรายแรกชื่อ นายนารา สีหาพรม อายุ 49 ปี เป็นคนขับ นางสาว หงส์ทอง นางาม อายุ 43 ปี และ เด็กชาย รชต แสนสุข อายุ 13 ปี ทั้งหมดอยู่บ้านเลขที่ 107 หมู่ที่ 5 ตำบลกำแมด อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร

ล่าสุด เวลา 14.00 น. ทางญาติของผู้เสียชีวิตทั้งหมดได้มาติดต่อขอรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีในพื้นที่จังหวัดยโสธรแล้ว

นางสาว นิตยา นภากาศ อายุ 43 ปี อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฮุก 31 จุดโนนแดง บอกว่า ตนเองได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถปิกอัพเสียหลักตกคลองน้ำ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจึงได้ออกไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลโนนแดง พอไปจุดเกิดเหตุพบว่า ได้มีพลเมืองดี ช่วยกัน นำผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตออกมาจากซากรถปิกอัพแล้ว โดยจากการสอบถามผู้รอดชีวิตทั้ง 2 รายบอกว่า คนเจ็บและผู้ตายทั้งหมดเดินทางออกมาจากจังหวัดสมุทรปราการ โดยจะไปช่วยงานศพญาติที่จังหวัดยโสธร แต่พอรถวิ่งมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นลักษณะทางสี่เลนและกลายมาเป็นทางสองเลน 

ทั้งนี้มีป้ายแจ้งเตือนและกรวยสะท้อนแสงวางอยู่ทำให้รถขับไม่ทันระวังเนื่องจากวิ่งมาเลนซ้ายพอคนขับรถวิ่งมาเจอกรวยสะท้องแสงซึ่งวางขวางเลนซ้ายไว้ จึงหักพวงมาลัยหลบเป็นเหตุทำให้รถเกิดเสียหลักตกลงไปบนร่องกลางถนน ก่อนที่จะเสียหลักพลิกคว่ำตกลงคลองน้ำดังกล่าวอย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในระหว่างสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่ชัดเจนต่อไป.