"อุตตม"เฮ !  กกต.ยกคำร้อง “อุตตม” หัวหน้าพรรค พปชร. ส่ง "สิระ เจนจาคะ" ที่ขาดคุณสมบัติ ลงสมัครรับเลือกตั้งปี 62  เหตุได้อานิสงส์คำสั่ง หัวหน้า คสช.งดทำไพรมารีโหวตในการเลือกตั้งครั้งแรก 

18 เม.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน กกต.มีมติยกคำร้องของนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นขอให้เอาผิด นายอุตตมะ สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ขณะดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ฐานเจตนารับรองการส่งนายสิระ เจนจาคะ ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อ 24 มี.ค.2562   โดย กกต.เห็นว่า ในการสมัครรับเลือกตั้งเมื่อปี 62 มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 13/2561 เรื่องการดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (เพิ่มเติม)  ซึ่งข้อ 4 ให้มีการยกเลิกข้อความในมาตรา 144 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 และใช้ข้อความใหม่ที่มีเนื้อหาไม่ให้นำมาตรา 47 ถึง มาตรา 56 ที่กำหนดเกี่ยวกับวิธีการทำไพรมารีโหวต การส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งของพรรคการเมือง การให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้ออกหนังสือรับรองการส่งผู้สมัคร มาบังคับใช้กับการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกหลังพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มีผลใช้บังคับ และได้กำหนดวิธีการสรรหา การส่งผู้สมัคร ของพรรคการเมืองไว้เป็นการเฉพาะ  ดังนั้นการที่นายอุตตมะในฐานะหัวหน้าพรรค  ลงนามรับรองการส่งนายสิระ   ซึ่งเป็นผู้ที่มีลักษณะต้องห้ามในการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (10)   เนื่องจากเคยต้องคำพิพากษาคดีฉ้อโกง  ลงสมัครรับเลือกตั้ง จึงไม่สามารถนำบทโทษ ตามมาตรา 117  ถึง มาตรา 120 พ.ร.ป.ว่าด้วยการพรรคการเมือง 2560 ที่กำหนดโทษสูงสุดของหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค หรือผู้เกี่ยวข้องกับกระบวนการสรรหาและการส่งผู้สมัคร ไม่ถูกต้องครบถ้วน ตามที่กฎหมายกำหนด ว่า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี มาเอาผิดได้
               
ทั้งนี้กรณีนายสิระก่อนหน้านี้  กกต.มีมติให้สำนักงานฯ กกต.แจ้งความดำเนินคดีฐานรู้อยู่แล้วว่าตนมีลักษณะต้องห้าม ไม่มีสิทธิสมัครแต่ยังลงสมัคร แต่การพิจารณากรณี นายอุตตม ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐขณะนั้น  ได้ลงนามหนังสือรับรองส่งนายสิระ ลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งมีรายงานว่าสำนักงาน กกต.ที่ผ่านมาได้ดำเนินคดีกับหัวหน้าพรรคในฐานผู้สนับสนุนผู้สมัครกระทำความผิด รวมทั้งแนวคำพิพากษาศาลฎีกาต่อที่ประชุม กกต.ให้พิจารณา แต่ กกต.ก็มีมติยกคำร้องด้วยเหตุผลดังกล่าว