‘ช่อ พรรณิการ์’ เตรียมร้องศาลปกครองหากกรมการกงสุลไม่ยอมให้ทำพาสปอร์ตใหม่ ลั่น รัฐต้องคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพประชาชน ด้าน ผกก.สน.พญาไท แจงเป็นมาตรฐานปกติคดีความมั่นคง
‘ช่อ พรรณิการ์’ เตรียมร้องศาลปกครองหากกรมการกงสุลไม่ยอมให้ทำพาสปอร์ตใหม่


วันนี้ (20 เม.ย. 65) ที่ สน.พญาไท พรรณิการ์ วานิช หรือ ช่อ โฆษกคณะก้าวหน้า เดินทางมาที่ สน. พญาไท เพื่อมาติดตามและสอบถามจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พญาไท หลังถูกกรมการกงสุลเพิกถอนหนังสือเดินทาง หรือ Passport ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และตนเอง โดยระบุว่าทั้ง 3 เป็นผู้ต้องหาคดีอาญามาตรา 116 โดยเจ้าหน้าที่กรมการกงสุลแจ้งว่าให้สอบถามไปที่ สน.พญาไทถึงความจำเป็นของคำร้องในการเพิกถอนพาสปอร์ต
พรรณิการ์ กล่าวว่าวันนี้ตนต้องการมาสอบถาม สน. พญาไท ด้วยตัวเองว่าเหตุใดจึงมีคำสั่งเช่นนี้ ทั้งที่คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ ยังไม่มีคำสั่งศาลห้ามเดินทางออกนอกประเทศ และขอตั้งคำถามว่าการออกคำสั่งของ สน.พญาไท ถือเป็นการเลือกปฏิบัติกับคดีการเมืองที่มีต่อฝ่ายที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลหรือไม่ เนื่องจากนอกจากตน นายธนาธร และนายปิยบุตร และนักเคลื่อนไหว นักกิจกรรมเยาวชน อีกจำนวนมากกว่า 300 คน ที่ถูกเพิกถอนพาสปอร์ตในลักษณะเดียวกันนี้ หากคนที่ ถูกแจ้งความในคดีลักษณะนี้ถูกเพิกถอน สิทธิเสรีภาพในการเดินทางจะยังมีอยู่หรือไม่ เพราะตนไม่ใช่กลุ่มแรกที่โดน วันนี้จึงขอมาพูดคุยทำความเข้าใจในแนวทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ภายหลังจากการเข้าพบผู้กำกับการ สน.พญาไท พรรณิการ์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยระบุว่าได้รับการชี้แจงจากผู้กำกับการ สน.พญาไท ว่ากรณีดังกล่าวเป็นมาตรฐานการทำงานตามปกติในคดีความมั่นคง เพื่อป้องกันผู้ต้องหาหลบหนีในชั้นตำรวจ จึงส่งหนังสือขอความร่วมมือไปยังกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นดุลยพินิจของอธิบดีที่จะเพิกถอนหนังสือหรือไม่ ในกรณีนี้ทางผู้กำกับรับปากว่าจะรับคำร้องของ พรรณิการ์ ประกอบหนังสือขอความร่วมมือ ไปยื่นต่อกรมการกงสุลภายในเที่ยงวันนี้ เพื่อให้มีการพิจารณาให้ทั้งสามรายสามารถต่ออายุหนังสือเดินทางได้ คาดว่าจะต่ออายุหนังสือเดินทางได้ปกติในวันพรุ่งนี้
พรรณิการ์กล่าวว่า แม้การตอบสนองของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่จำเป็นต้องยืนยันว่าทุกวันนี้คดีความมั่นคงกลายเป็นคดีทางการเมืองไปแล้ว ผู้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลต้องถูกตั้งข้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคง จึงเกิดการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามรัฐบาลอย่างเกินขอบเขต มาตรฐานการปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวเป็นเรื่องน่ากังวล จึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนมากกว่านี้
พรรณิการ์ เชื่อว่า อธิบดีกรมการกงสุลจะเข้าใจและตระหนักในสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยเฉพาะกับผู้ที่ยังไม่ถูกพิพากษาว่ามีความผิด และจะพิจารณาให้สามารถต่ออายุหนังสือเดินทางได้ตามปกติ แต่หากว่าไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง พรรณิการ์ระบุว่า เตรียมใช้ช่องทางฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ซึ่งเคยมีกรณีของคุณจาตุรนต์ ฉายแสง เคยฟ้องชนะในกรณีใกล้เคียงกันมาแล้ว