พื้นที่ปลูกถูกน้ำท่วมน้ำมันแพงดันผักภาคใต้พุ่ง ผักชีกก.ละ 400 บาท

พื้นที่ปลูกถูกน้ำท่วมน้ำมันแพงดันผักภาคใต้พุ่ง ผักชีกก.ละ 400 บาท





ad1

ยะลา –ราคาผักในพื้นที่ภาคใต้ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา ราคาผักปรับขึ้นโดยเฉพาะ ผักชี ราคาพุ่ง กิโลกรัมละ 400 บาท แม่ค้าผัก บอก ผักในพื้นที่ไม่มีปลูกต้องสั่งผักจากแหล่งปลูกผักในภาคกลาง ภายหลังหลายจังหวัดฝนตก น้ำท่วม ทำให้ราคาผักที่สั่งแพงขึ้นเหตุ ราคาน้ำมันแพงมีผลกับค่าขนส่งทำให้ต้องปรับราคา

เมื่อวันที่ 3 พ.ย.64 บรรยากาศที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ราคาผักหลายชนิดเริ่มปรับราคาสูงขึ้น เนื่องจากแหล่งปลูกผักในภาคกลาง หลายจังหวัดน้ำท่วมและเกิดฝนตกจากสภาพอากาศ ส่งผลให้ปริมาณผักที่ส่งให้ลูกค้าต่างจังหวัดทางภาคใต้เริ่มลดน้อยลง และยังมีแนวโน้มที่จะปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลัง มีการปรับราคาน้ำมันทำให้ราคาน้ำมันแพงซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งส่งผลกับค่าขนส่งที่ปรับราคาสูงเช่นเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผักที่ปรับราคาขึ้นมา 3 – 4 วัน ประเภท ผักชี ขายกิโลกรัมละ 400 บาท ขึ้นฉ่าย ก.ก.ละ 350 บาท และผักอีกหลายชนิดพาเหรดปรับราคาสูงขึ้น ต้นหอม 120 บาท ผักกาดหอม 130 บาท มะเขือเทศ ก.ก.ละ 50 บาท มะเขือเปราะ 50 บาท ผักกาดขาว ก.ก.ละ 70 บาท กะหล่ำปลี ก.ก.ละ 40 บาทผักกาดขาว 70 บาท ช่วงฤดูฝนผักจะมีราคาแพงขึ้นทุกปี เนื่องจากผักจะมีน้อยสาเหตุผักที่ปลูกไม่ชอบฝน ทำให้ผักปรับราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

แม่ค้าขายในตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง บอกว่า มีผักหลายชนิดที่ปรับราคาขึ้น สาเหตุเพราะแหล่งปลูกในภาคกลางมีฝนตกน้ำท่วม อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญคือค่าขนส่ง เพราะราคาน้ำมันแพง ทำให้พ่อค้าคนกลางต้องบวกค่าขนส่งขึ้นด้วยซึ่งขณะนี้ผักมีไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชน เราสั่งซื้อมาน้อยเพราะต้องขายน้อยเหมือนกัน แม้แต่ถั่วฝักยาวก็ยังปรับขึ้นราคาเช่นเดียวกันขายอยู่ ก.ก.ละ 40-50 บาท ใบโหระพา ก.ก.ละ 80-100 บาท ผักหลายอย่างขึ้นราคา

 ลูกค้าที่มาซื้อก็ไม่ว่าอะไร เพราะต่างคนต่างเข้าใจ ที่ไม่ปรับราคาเช่นไก่สดยังคงขายราคาเดิมแม้ราคาต้นทุนจะปรับขึ้น กิโลกรัมละ 12 บาทแล้วก็ตาม แต่ก็ยังขายราคาเดิมคือกิโลกรัมละ 70 บาท เพราะ สงสารคนซื้อเหมือนกันในช่วงโควิด-19 ระบาดแบบนี้

เจษฎา สิริโยทัย อ.เบตง จ.ยะลา  รายงาน