พาณิชย์จับมือผู้ผลิตตรึงราคาสินค้าแก้ปัญหาค่าครองชีพพุ่ง!!

ตรึงราคาสินค้า

พาณิชย์จับมือผู้ผลิตตรึงราคาสินค้าแก้ปัญหาค่าครองชีพพุ่ง!!





ad1

กรมการค้าภายในขอความร่วมมือผู้ผลิตตรึงราคาต่อ เพื่อช่วยดูแลค่าครองชีพให้ผู้บริโภค ย้ำหากจำเป็นต้องขึ้น จะใช้วินวิน โมเดล ให้ 3 ฝ่าย เกษตรกร ผู้ผลิต ผู้บริโภค อยู่ร่วมกันให้ได้ รับสถานการณ์สินค้าปีนี้ ยังไม่ปกติ ยังเจอผลกระทบจากต้นทุน ทั้งราคาวัตถุดิบ น้ำมัน ค่าไฟ แต่จะบริหารจัดการให้ดีที่สุด
         
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงแนวทางในการดูแลราคาสินค้าปี 2566 ว่า กรมฯ จะยังขอความร่วมมือผู้ผลิตให้ตรึงราคาสินค้าต่อไป เพื่อช่วยกันดูแลผู้บริโภค และไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพ แต่หากจำเป็นต้องปรับขึ้นราคา ก็จะใช้หลักการ “วินวิน โมเดล” ในการดูแลราคาสินค้า ที่จะต้องดูแล 3 ฝ่าย ทั้งเกษตรกร ผู้ผลิต และผู้บริโภค ให้อยู่ร่วมกันได้ ไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องแบกรับภาระมากเกินไป เหมือนกับที่ดำเนินการมาในปี 2565 และประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ
         
สำหรับสถานการณ์สินค้าในปี 2566 ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ เพราะยังมีหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า ทั้งราคาวัตถุดิบที่หลายตัวยังคงอยู่ในระดับสูง เช่น วัตถุดิบอาหารสัตว์ ต้นทุนน้ำมัน แม้ปรับตัวลดลงมาแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในระดับสูง การปรับขึ้นค่ากระแสไฟฟ้า ที่มีผลกระทบต่อต้นทุน ซึ่งกรมฯ จะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป และหากจะมีการขอปรับขึ้นราคาสินค้า ก็จะตรวจสอบต้นทุนอย่างละเอียดต่อไป
         
ส่วนสถานการณ์เนื้อสัตว์ กรมฯ ยังคงติดตามใกล้ชิดเหมือนเดิม เพราะต้นทุนอาหารสัตว์ยังสูงอยู่ จากการที่ราคาวัตถุดิบ เช่น ข้าวโพด ยังทรงตัวสูง รวมถึงมันสำปะหลัง ที่ราคาสูง แต่กรมฯ ได้มีการเชื่อมโยงและจับคู่ให้ผู้ผลิตใช้วัตถุดิบอื่น ๆ มาผลิตอาหารสัตว์เพิ่มขึ้น เช่น ใช้ข้าวที่ตกคุณภาพ หรือปลายข้าว มาผลิตอาหารสัตว์ เพื่อลดผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้น

นายวัฒนศักย์กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ผลิตขอปรับราคาสินค้าเข้ามาต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น กลุ่มซักล้าง เพราะมีการปรับผลิตภัณฑ์ หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งกรมฯ พิจารณาแล้ว ยังให้จำหน่ายราคาเดิม เพราะไม่ได้ปรับเพิ่มอะไรมาก เช่น เปลี่ยนกลิ่น แต่หากมีต้นทุนสูงขึ้นจริง ก็จะพิจารณาตามต้นทุน ส่วนค่ารักษาพยาบาล ที่โรงพยาบาลเอกชนออกมาระบุว่าต้นทุนสูงขึ้นจากค่าไฟฟ้า กรมฯ ได้หารือกับสมาคมและผู้ประกอบการแล้ว ขอความร่วมมือให้ตรึงราคาไปก่อน ถ้าจะปรับราคา ก็ต้องแจ้ง โดยประชาชนสามารถตรวจสอบค่ารักษาพยาบาลได้ที่เว็บไซต์ของกรมฯ ที่ www.dit.go.th
         
นอกจากนี้ กรมฯ จะบูรณาการการทำงานของอาสา 1569 และอาสาชั่งตวงวัด ที่ปัจจุบันมีเครือข่ายประมาณ 5,000 คน รวมเป็นสายตรวจอาสา DIT เพื่อออกตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายสินค้า การปิดป้ายแสดงราคา ความเที่ยงตรงของเครื่องชั่ง เพื่อให้กรมฯ ได้มีข้อมูล และจะได้บริหารจัดการสถานการณ์สินค้าได้เหมาะสม และแก้ปัญหาได้ทันท่วงทีมากขึ้น
         
ทางด้านสถานการณ์ราคาสินค้าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า สินค้ากลุ่มอาหารสด ทั้งเนื้อหมู ไก่ ผักสด น้ำมันปาล์มขวด ราคาปรับตัวลดลง มีเพียงไข่ไก่ที่ปรับขึ้นเล็กน้อย ซึ่งได้ประสานให้ผู้เลี้ยงขายตามราคาที่กำกับดูแล ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ปลากระป๋อง ซีอิ๊ว น้ำปลา ราคาทรงตัว และเครื่องใช้ไฟฟ้า ราคาลดลงต่อเนื่อง จากการที่ผู้ผลิต และห้าง ได้จัดโปรโมชันลดราคา
         
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ยังได้หารือผู้ผลิต ในการเพิ่มการผลิตหน้ากากอนามัย เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยว ที่เข้ามามากขึ้น ซึ่งผู้ผลิตยืนยันมีกำลังการผลิตเพียงพอ และผลิตเพิ่มได้ รวมทั้งได้กำชับไปยังผู้ประกอบการ ร้านค้า ผู้จำหน่ายสินค้า ให้กับนักท่องเที่ยว ให้ปิดป้ายแสดงราคา ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคา เพราะหากตรวจสอบพบ หรือได้รับการร้องเรียน จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

ที่มา : กระทรวงพาณิชย์                                              วิชชุดา ดวงพรหม/รายงาน