พนัสฯ ร่วมมือพันธมิตร วิจัย-ทดสอบ มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า พร้อมระบบสลับแบตเตอรี่ต้นแบบของไทย
071
พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด ร่วมกับหน่วยงานวิจัยพันธมิตร ภายใต้ทุนวิจัย บพข. ร่วมทดสอบรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าพร้อมระบบสลับแบตเตอรี่ต้นแบบที่พัฒนาขึ้น ก่อนเปิดตัวโครงการวิจัยอย่างเป็นทางการ
บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้ประเทศไทย สามารถต่อยอดการพัฒนาเทคโนโลยีให้เป็นของตัวเองเพื่อช่วยลดโลกร้อนและช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการเติมเชื้อเพลิงของผู้ใช้งาน และมุ่งที่จะพัฒนาธุรกิจไปสู่เชิงพาณิชย์ โดยการพัฒนาเทคโนโลยีและระบบด้านยานยนต์ไร้มลพิษ (Zero Emission Vehicle) ซึ่งได้พัฒนาธุกิจใหม่ด้าน Micromobility ที่ใช้ระบบสลับแบตเตอรี่ (Battery Swapping System) และพัฒนาแอปพลิเคชันแพลตฟอร์ม ร่วมกับมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยได้รับการร่วมสนับสนุนงบประมาณวิจัย จากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ภายใต้ กระทรวงกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ในระยะแรกเริ่ม จะเป็นการทดสอบการใช้งานจริงของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าร่วมกับระบบสลับแบตเตอรี่ที่พัฒนาขึ้นเอง ในพื้นที่ของ จังหวัดชลบุรี โดยได้รับความสนใจจากภาคส่วนต่างๆ ตัวอย่างเช่น หน่วยงานภาครัฐ เช่น เทศบาลเมืองแสนสุข กลุ่มบริษัทเอกชน เช่น บริษัท Grab Express Delivery บริษัท ดิ โอ้โห กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็น Local Food Delivery และกลุ่มสถาบันการศึกษา เช่น มหาวิทยาลัยบูรพา
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด นำโดย คุณพนัส วัฒนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คุณธันยพร อ้อพงษ์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดร.วิมล แสนอุ้ม ผู้อำนวยการหน่วยกลยุทธ์ธุรกิจนวัตกรรม นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญของบริษัทฯ โดยส่วนงาน Light Electric Vehicles เปิดการทดสอบแพลตฟอร์มสลับแบตเตอรี่ต้นแบบ เพื่อพัฒนาธุรกิจรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า สำหรับกลุ่ม Rider กลุ่มนักศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และผู้สนใจทั่วไป โดยมี รศ.ดร.วัชรินทร์ กาสลัก อธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา ดร.ณัฐพันธ์ ถนอมสัตย์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า ดร.อธิตา อ่อนเอื้อน รองคณบดีคณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยบูรพา รวมถึง ผศ.ดร.อนันต์ชัย อยู่แก้ว หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมเป็นเกียรติและทดสอบการใช้งานจริง ณ พื้นที่โรงงานใหม่ ก่อนการเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการ
คุณพนัส วัฒนชัย กล่าวว่า บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ ซึ่งเป็นบริษัทไทย 100% ได้วางยุทธศาสตร์ด้านยานยนต์ไฟฟ้าครอบคลุมทั้งห่วงโซ่คุณค่าและเห็นว่าจักรยานยนต์ไฟฟ้า เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) โดยเฉพาะด้าน Express Delivery ที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่ง Pain Point ที่สำคัญ คือระบบอัดประจุไฟฟ้าแบบธรรมดาที่ใช้เวลา 4 ชั่วโมงต่อการอัดประจุไฟฟ้าของแบตเตอรี่จากศูนย์จนเต็ม ซึ่งใช้ระยะเวลาหลายชั่วโมง ซึ่งในโลกของธุรกิจหากต้องการจะให้แข่งขันได้ จำเป็นต้องพัฒนาเทคโนโลยีที่มีความเหมาะสมกว่านี้ จึงเล็งเห็นว่า แพลตฟอร์มระบบสลับแบตเตอรี่ อาจจะสามารถเข้ามามีบทบาทในการแก้ปัญหานี้ได้ ทำให้ผู้ใช้งานในเชิงพาณิชย์สามารถทำรายได้อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งเห็นจากความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีระบบสลับแบตเตอรี่ในต่างประเทศ เช่น สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) อนึ่ง บริษัทฯ มียุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City Development) ในเขตพื้นที่ EEC ตัวอย่างเช่น 1. การร่วมพัฒนากำลังคน กับ มหาวิทยาลัยบูรพา เพื่อร่วมพัฒนาเทคโนโลยีไปสู่มหาวิทยาลัยสีเขียว เสริมสร้างและพัฒนาความรู้และประสบการณ์การใช้เทคโนโลยีไร้มลพิษ และ 2. การสนับสนุนการปฎิบัติงานขององค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น เทศบาลเมืองแสนสุข ต้องการพัฒนาไปสู่เมืองอัจฉริยะเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการสร้างคุณภาพชีวิตให้ประชาชนในพื้นที่ เป็นต้น
ดร. วิมล แสนอุ้ม กล่าวเสริมว่า บริษัท ฯ พนัส แอสเซมบลีย์ เป็นบริษัทไทย ที่ออกแบบและพัฒนาด้านเทคนิคร่วมกับมหาวิทยาลัยนเรศวร ภายใต้กระบวนการวางแผนคุณภาพผลิตภัณฑ์ล่วงหน้าและแผนควบคุม โดยแพลตฟอร์มประกอบด้วย รถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ระบบไฟฟ้าและเมคคาทรอนิกส์ของสถานีสลับแบตเตอรี่ รวมถึงแอปพลิเคชันและการประมวลผลแบบคลาวด์ โดยจะเปิดทดสอบในพื้นที่บางแสน เป็นระระเวลา 3 เดือน ในการเก็บข้อมูลขนาดใหญ่มาวิเคราะห์เชิงเทคนิคและพฤติกรรมการขับขี่ เพื่อพัฒนาต่อยอดให้ตรงกับความต้องการของคนไทย
ในส่วนของด้านธุรกิจนั้น บริษัท ฯ มองว่า ธุรกิจนี้สามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดเชิงพาณิชย์ในลักษณะ Startup เน้นเข้าตลาด Smart Cities สร้างความแตกต่างจากการให้เหมาจ่ายรายวัน ให้เป็นระบบจ่ายเมื่อใช้ (Pay-Per-Use) หรือ User-Based Rental (UBR) ขับเท่าไหร่จ่ายเท่านั้น ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจสมัยใหม่ ส่งมอบความคุ้มค่าให้กับผู้ใช้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมีแผนขยายธุรกิจแฟรนไชส์แบบ B2B โดยส่งมอบสถานีพร้อมจำนวนรถที่เป็น Fleet สำหรับการท่องเที่ยวในเมืองหรือเกาะต่าง ๆ มหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือผู้ประกอบการด้าน First-and-Last Mile Delivery มากไปกว่านี้ยังครอบคลุมถึง การบริการด้านประกันภัย ด้านลีสซิ่ง ด้านการอำนวยความสะดวกของการบริการหลังการขายและซ่อมบำรุงผ่านแอปพลิเคชัน และแบบ On-site และรวมถึงศูนย์ซ่อมบำรุงมาตรฐาน
การเปิดการทดสอบแพลตฟอร์มสลับแบตเตอรี่ต้นแบบสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าดังกล่าว ได้รับ การตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ทดสอบใช้งาน สามารถลดต้นทุนค่าน้ำมันได้เป็นอย่างดี รถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม มีความปลอดภัยสูงซึ่งสามารถควบคุมความเร็วด้วยระบบของตัวรถ มีระบบการสลับแบตเตอรี่ที่ใช้งานง่ายสะดวก มีบริการสนับสนุนผู้ใช้งานในระยะแรก และมีความพร้อมในการขยายผลเชิงพาณิชย์
ที่มา : www.BusAndTruckMedia.com