ปี 2568 ผลผลิต “ทุเรียน”ภาคใต้ พุ่ง 14 % มากกว่า 600,000 ตัน


ผลผลิต “ทุเรียน” ใต้ พุ่ง 14 % กว่า 600,000 ตัน ลงทุนปลูกทดแทนกาแฟ ยาง มังคุด เงาะ และที่ว่าง “ติวเข้ม” ทุเรียนเปิดจุดตรวจทุเรียนแห้ง 13 จุด 13 จังหวัดทั่วใต้ ตลาดทุเรียนภายในประเทศกังวลนักท่องเที่ยว “จีน” ในไทยวูบ
รายงานข่าวจากสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 5 จ.สงขลา ดูแลพื้นที่ภาคใต้ เปิดเผยว่า สถานการณ์ผลไม้ภาคใต้ในปี 2568 จากผลที่จากการประชุมคณะทำงานย่อยเพื่อพัฒนาระบบข้อมูลและโลจิสติกส์ภาคใต้ครั้งที่ 2/2568 ระหว่างวันที่ 29-30 พฤษภาคม 2568
โดยในส่วนของผลไม้ทุเรียนในปี 2568 นั้นจะมีเนื้อที่ยืนต้นถึงจำนวน 870,593 ไร่ ซึ่งได้เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ถึงร้อยละ 6.88 และสำหรับทุเรียนที่ได้ให้ผลแล้ว จำนวน 622,111 ไร่ ซึ่งได้เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ถึงร้อยละ 7.54 ทุเรียนได้มีการปลูกเพิ่มขึ้น เช่นปลูกทดแทนกาแฟ ยางพารา มังคุด เงาะ ลองกอง และปลูกเพิ่มในพื้นที่ว่างด้วย จึงมีเนื้อที่ให้ผลเพิ่มขึ้น จากมูลเหตุจูงใจเพราะราคาทุเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีที่ต่อเนื่องมา ประกอบกับต้นทุเรียนที่ปลูกเมื่อปี 2562 ก็ได้เริ่มให้ผลผลิตได้แล้วด้วยในปี 2568 นี้
และผลผลิตคาดว่าปี 2568 จะมี 606,958 ตัน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 14.46 และจะมีผลผลิตประมาณ 976 กก. /ไร่ โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.43 ด้วยปัจจัยเอื้ออำนวยทางสภาพภูมิอากาศเอื้ออำนวย จึงได้ออกดอกติดผลมากกว่าปี 2567 ซึ่งที่เกิดสภาพอากาศร้อนมากและยังเกิดฝนทิ้งช่วงเวลานานด้วย อีกทั้งเจ้าของสวนทุเรียนเรื่องการดูแลจัดการสวนที่ดี และมีการจัดหาแหล่งน้ำเพิ่มขึ้น เป็นต้น
รายงงานยังเปิดต่อว่า สำหรับการออกดอกทุเรียนในปี 2568 ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 พบว่าออกดอกแล้วถึงร้อยละ 65.04 ของเนื้อที่ให้ผลทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในระยะติดผลเล็ก ทั้งนี้ทุเรียนภาคใต้คาดว่าจะมีผลผลิต 2 ช่วง คือตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนมีนาคม และเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนธันวาคม 2568 โดยผลผลิตออกมากที่สุดในเดือนกรกฎาคม 2568.
รายงานยังเปิดเผยต่อว่า สำหรับในการรักษมาตรฐานและคุณภาพของทุเรียนได้มีมาตรการการกำหนดวันที่เก็บเกี่ยวทุเรียนและจุดบริการตรวจเปอร์เซ็นต์น้ำหนักของเนื้อแห้งทุเรียนในพื้นที่ 13 จังหวัดภาคใต้ โดยเริ่มต้นวันเก็บเกี่ยวตั้งแต่ จ.ชุมพร จนไปถึงจังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.นราธิวาส โดยเริ่มตั้งวันที่ 5 มิย. จนถึงเดือนกค.68 มีทั้งพื้นที่จะเริ่มเก็บเกี่ยวที่พร้อมกันและไม่พื้นที่ไม่พร้อมกัน
และในส่วนจุดบริการตรวจเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อแห้งทุเรียน นั้นตั้งแต่ จ.ชุมพร โดย จ.ชุมพรมีจัดบก 9 จุด จ.กระบี่ 9 จุด ระนอง 6 จุด พังงา 8 จุด สุราษฎร์ธานี 10 จุดนครศรีธรรมราช 18 จุด ตรัง 7 จุด พัทลุง 5 จุด สงขลา 13 จุด สตูล 5 จุด ปัตตานี 4 จุด ยะลา 9 จุด และ จ. นราธิวาส มีจุดบริการตรวจเปอร์เซ็นต์น้ำหนักเนื้อแห้งทุเรียน จำนวน 5 จุด.ทุเรียนบางโซนโดนฝนหนักดอกร่วงหล่น ยังกังวลทำ “ทวาย”
นายสมควร อริยะ เจ้าของสวนทุเรียน หมู่ 3 บ้านด่านโลด ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เปิดเผยว่า ภาวะทุเรียนภาคใต้ฤดูปี 2568 ส่วนหนึ่งไม่เป็นตามเป้า จากผลกระทบกับสภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวยมีฝนตกมากในพื้นที่ ได้กระทบดอกทุเรียนที่กำลังบานได้ร่วงหล่น ประเมินแล้วหดหายไปในบางโซนบางพื้นที่บางสวนถึง 50-60 %ส่วนแนวทางที่จะทำทุเรียนทวายต่อ ก็ยังเป็นที่กังวลเพราะภาคใต้ตอนล่างบางโซนทุเรียนทวายจะชนกับฤดูฝน หากมีฝนตกมาเมื่อออกผลทุเรียนก็จะกระทบฝนได้ตลาดทุเรียนสด-สำเร็จรูปสำหรับนักท่องเที่ยวจีน“ไม่สดใส”
นายนัด ดวงใส ที่ปรึกษาชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด (ชสท.) และเจ้าของสวนทุเรียนรายใหญ่ เปิดเผยว่า สถานการณ์ทุเรียนทางภาคใต้ฤดูปี 2568 จะออกผลผลิตเริ่มต้นที่ จ.ชุมพร เกินกลางเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนราคายังไม่เปิดทั้งขนาดรวมไซซ์และเกรด A ทั้งเนื่องจากมีความไม่แน่นอนสูงหลายปัจจัย เช่น บางรายบางพื้นที่ทุเรียนขณะดอกบานร่วงปริมาณเต็มต้นสมบูรณ์เกิดสภาพภูมิอากาศแปรปรวนฝนตก โดยเฉพาะในส่วนทุเรียนรุ่นหนุ่มสาวจากอายุ 8 ปีลงมา โดยเฉพาะ 5-6 ปี จะร่วงแทบยกต้นบางสวนบางพื้นที่ แต่ทุเรียนที่อายุเกิน 10 ปียังไปได้และยังมีโซนไม่กระทบฝนจะได้ผลผลิตที่ดี
นายนัด กล่าวต่ออีกว่า ส่วนอีกประเด็นสำคัญที่ทุเรียนกำลังเผชิญที่จากที่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ลดลงมาก ได้ส่งผลต่อทุเรียนลดลงตาม เพราะนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาจะมีโปรแกรมที่จะต้องกินทุเรียน ซื้อทุเรียน ทั้งทุเรียนสำเร็จรูปและทุเรียนสด
“ทุเรียนสำหรับนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวเคยขายได้ 100 % ขณะนี้เหลือ 30 %” นายนัด กล่าว และว่า
ทุเรียนเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีการลงทุนสูง และการบริหารจัดการต้องเป็นมืออาชีพสำหรับกลุ่มทำเชิงพาณิชย์ เช่น จำนวน 10 ไร่ต้นทุน ประมาณ 500,000 บาทและกว่า 30 ไร่กว่า 1 ล้านบาท ทั้งค่าแรงงาน ยา น้ำ ค่าไฟ ยาฉีด ฯลฯ