บริษัทอาหารทะเลเกาหลีชั้นเลิศเข้าร่วม “งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติ 25 "


กระทรวงมหาสมุทรและประมงร่วมกับสหกรณ์การประมงแห่งชาติเกาหลีประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการส่งบริษัทอาหารทะเลเกาหลีชั้นเลิศเข้าร่วม “งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติ 25 (Thaifex 2025)”นำเสนอรสชาติและคุณภาพอาหารทะเลเกาหลีชั้นยอดผ่านกิจกรรม “ชิมสินค้าแบบไปหาถึงที่” ปิดฉาก “การจับคู่ปรึกษาการส่งออกแบบ 1:1” กับ 14 บริษัทฯ ส่งออกสินค้าชั้นนำด้วยความสำเร็จ
THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 (งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-31 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในงานนี้รัฐบาลเกาหลี (โดยกระทรวงมหาสมุทรและประมง) และสหกรณ์การประมงแห่งชาติเกาหลีประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการจัดบูธอาหารทะเลเกาหลี (Korean Pavilion) ซึ่งมุ่นเน้นการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ประมงของเกาหลี เพื่อกระตุ้นการค้าผลิตภัณฑ์ประมงระหว่างเกาหลีและไทย รวมทั้งสร้างโอกาสให้ผลิตภัณฑ์ประมงที่หลากหลายและมีคุณภาพของเกาหลีเข้าสู่ตลาดอาเซียน
บริษัทผู้ส่งออกทั้ง 14 แห่ง ที่เข้าร่วมบูทอาหารทะเลเกาหลีในครั้งนี้ ได้จัดแสดงผลิตภัณฑ์ประมงต่าง ๆ ของเกาหลี เช่น สาหร่ายอบแห้ง (kim), หอยนางรม, ปูดอง และออมุก (ลูกชิ้นปลาเกาหลี) ทั้งยังจัดประชุมหารือแบบตัวต่อตัวเกี่ยวกับการส่งออกกับผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่และผู้นำเข้าจากทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย
กิจกรรมที่จัดขึ้นในงาน THAIFEX ครั้งนี้ ได้เปิดโอกาสในการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ประมงของเกาหลีกับผู้ซื้อชาวไทยและต่างชาติ พร้อมทั้งสนับสนุนบริการประชาสัมพันธ์และการส่งเสริมการขายผ่านการจัดกิจกรรมชิมผลิตภัณฑ์โดยใช้สินค้าหลักของบริษัทที่เข้าร่วมงาน เพื่อเพิ่มความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ของผู้บริโภค และสร้างโอกาสสูงสุดในการวางแผนกลยุทธ์เพื่อเข้าสู่ตลาดประเทศไทย
เจ้าหน้าที่ฝ่ายการค้าจากสหกรณ์การประมงแห่งชาติเกาหลี ซึ่งรับผิดชอบดูแลบูธอาหารทะเลเกาหลี เปิดเผยว่า “ประเทศไทยเป็นประเทศผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ประมงรายใหญ่อันดับ 4 ของเกาหลี (รองจากญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และจีน) โดยมีมูลค่าส่งออกผลิตภัณฑ์มายังประเทศไทยกว่า 200 ล้านดอลลาร์ ต่อปี นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการแปรรูป เช่น ปลาทูน่าและสาหร่ายอบแห้งแล้ว การรายการสินค้าสำหรับอุปโภคบริโภค เช่น สาหร่ายปรุงรส ออมุก(ลูกชิ้นปลาเกาหลี) และหอยนางรม ก็มียอดนำเข้าเพิ่มขึ้นเช่นกัน ส่งผลให้ประเทศไทยมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นในฐานะตลาดส่งออกหลัก”
ทั้งยังแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า “กล่าวกันว่านับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ผู้บริโภคชาวไทยหันมาเลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น โดยมีการตรวจสอบส่วนผสมทางโภชนาการบนฉลากอาหารก่อนซื้อ ดังนั้นสหกรณ์ประมงแห่งชาติเกาหลี (Suhyup) ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มผู้ผลิตสินค้าประมงในเกาหลี จะเดินหน้าดำเนินโครงการริเริ่มเพื่อส่งเสริมสินค้าประมงเกาหลีที่ปลอดภัยและสะอาดในตลาดต่างประเทศ เพื่อให้การส่งออกสินค้าประมงเติบโตอย่างต่อเนื่องและสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภค นอกจากนี้ ในอนาคตก็ยังจะเข้าร่วมงาน THAIFEX Anuga Asia และงานมหกรรมแสดงสินค้าที่ประเทศอื่น ๆ เพื่อจัดตั้งบูธอาหารทะเลเกาหลี และสนับสนุนการบรรลุข้อตกลงการส่งออกของบริษัทเกาหลีอย่างแข็งขัน”
กิจกรรมในปีนี้ ได้มีการเตรียมกิจกรรมชิมอาหารและวางแผนสูตรอาหารหลากหลายเมนู โดยใช้วัตถุดิบจากผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทที่เข้าร่วม เช่น ปลาลิ้นหมา, ปลาไหล, หอยนางรม, กระดองปูยักษ์ และปูอัด ผ่านฝีมือการรังสรรค์โดย “เชฟคิมแจซิก” ผู้อำนวยการบริหารของสมาคมการทำอาหารเกาหลี นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรม “ชิมสินค้าแบบไปหาถึงที่” สำหรับผู้ซื้อจากหลากหลายประเทศที่เข้าร่วมงานครั้งนี้ และรับฟังข้อเสนอแนะเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์โดยตรง รวมถึงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของวัตถุดิบอาหารทะเลเกาหลี
จากการประชุมปรึกษาด้านการส่งออกในครั้งนี้ มีการเจรจาด้านการส่งออกรวม 203 รายการ คิดเป็นมูลค่า 89 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในจำนวนนี้ ผู้ส่งออก 6 ราย สามารถบรรลุผลสำเร็จในการลงนามร่วมกันรวม 8 ฉบับ แบ่งเป็นการลงนามในสัญญาส่งออก 3 ฉบับ มูลค่ารวม 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) จำนวน 5 ฉบับ คิดเป็นมูลค่า 3.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นางกึมจู แบค ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการค้าอาหารทะเลเกาหลี ประจำกรุงเทพ กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นประเทศที่เกาหลีส่งออกอาหารทะเลมามากเป็นอันดับ 4 และถือเป็นตลาดสำคัญที่มีการบริโภคอาหารทะเลต่อคนเกินค่าเฉลี่ยของโลก (ประมาณ 20 กิโลกรัม)
แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจของประเทศไทยเกิดภาวะถดถอยซึ่งส่งผลให้การบริโภคในตลาดชะลอตัว แต่จากงานนี้ ก็ได้มีการลงนามสัญญาซื้อขายและลงนาม MOU สำหรับสินค้าพิเศษในแต่ละภูมิภาค (สาหร่ายอบแห้ง หอยนางรม เกลือ ฯลฯ)สินค้าดังกล่าวจะจัดจำหน่ายให้ผู้บริโภคผ่านตลาด HoReCa และแพลตฟอร์มออนไลน์, ออฟไลน์ต่าง ๆ และเราวางแผนที่จะให้การสนับสนุนการส่งเสริมการขายอย่างแข็งขัน เพื่อเพิ่มการรับรู้ของผู้บริโภค เพื่อให้แบรนด์ K-Fish แบรนด์ที่รวมมการส่งออกและผลิตภัณฑ์อาหารทะเลเกาหลีชั้นเลิศต่าง ๆ สามารถขยายตัวและตั้งตัวในตลาดไทยได้อย่างมั่นคงในอนาคต”
ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประมงในประเทศไทย ที่สนใจนำเข้าผลิตภัณฑ์ประมงเกาหลี สามารถเข้าเยี่ยมชมศูนย์ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศประจำกรุงเทพ ฯ สหกรณ์ประมงแห่งชาติเกาหลี หรือติดต่อเพื่อเข้าร่วม หรือขอรับคำปรึกษาด้านการนำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์ประมงเกาหลีหลากหลายชนิด ได้ทั้งทางอีเมล (kfishbkk@gmail.com) และหมายเลขโทรศัพท์ (02-057-4030)