เกษตรกรชาวสุรินทร์ระทมทุกข์ฝนตกติดต่อกันยาวนาน ข้าวจมน้ำเน่าเสีย

เกษตรกรชาวสุรินทร์ระทมทุกข์ฝนตกติดต่อกันยาวนาน ข้าวจมน้ำเน่าเสีย





Image
ad1

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2568 ผู้สื่อข่าวลงตรวจสอบพื้นที่นาข้าวของพี่น้องเกษตรกรที่ปลูกข้าวนาปีหลังจากที่ฝนตกยาวมานานทำให้นาข้าวที่หว่านเอาไว้เสียหายจำนวนมากบางพื้นที่ไม่มีเงินจะไปซื้อเมล็ดพันธ์ข้าวมาหว่านและบางพื้นที่ต้องสูบน้ำเข้าออกจนเมื่อยหล้าเพราะสูบน้ำออกแล้วฝนกลับเทลงมาอย่างต่อเนื่องหมดความหวังไม่รู้จะไปหาทุนที่ไหนต่อ

ปัจจุบันชาวบ้านประสบปัญหาน้ำท่วมนาข้าวหลายพื้นที่ หลังจากที่ฝนลงมาติดต่อกีันหลายวันและได้สอบถามกับนายอ่อนสี สุภี อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 บ้านคำผง ม.5 ต.คำผง อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ บอกว่า ตนเองมีที่นาจำนวน 4 ไร่หลังจากที่ตนเองได้หว่านข้าวลงไปได้หลายวันพอข้าวจะงอกงอกออกมา ก็มาเจอฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้ข้าวที่หว่านต้องจมน้ำเสียหายไปหมดและเมล็ดพันธ์ข้าวเป็นเมล็ดพันธ์ข้าวของมูลนิธิชัยพัฒนา ที่ทางอำเภอรับมา ก็นำมาแจกจ่ายให้กับพี่น้องเกษตรกร หลังจากที่ฝนตกลงมาอย่างนี้แล้ว ข้าวกล้าก็เสียหายและหมดปัญญาไม่รู้จะหาเงินไปซื้อเมล็ดพันธ์ข้าวที่ไหนได้อีกถึงแม้ว่าตนเองจะสูบน้ำออกไปแล้วหลายครั้ง แต่ฝนก็ยังตกมาต่อเนื่อง

นางศิริรัตน์ สันทาลุนัย อายุ 50 ปี อยุ่บ้านเลขที่ 148  บ้านหนองแล้ง ตำบลหนองไผ่ล้อม อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ กล่าวว่าตนเองทำนาจำนวน  10 กว่าไร่ หลังจากที่ฝนตกลงมาติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำที่ไหลมาท่วมขังนาข้าวของตนเองและของพี่น้องของตนเองเสียหายหลายไร่ และในขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งไปยังเกษตรอำเภอเพื่อให้ได้รับทราบและจะมีวิธีการช่วยเหลืออย่างไรเพราะข้าวของตนเองถูกน้ำท่วมขังมาหลายวันแล้วถ้าหากภายในอีก 2 ถึง 3 วันนี้ ถ้าน้ำยังท่วมขังและยังไม่มีที่ระบายนาข้าวของชาวบ้านก็คงจะต้องเน่าเสียเต็มท้องนาเลย

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ออกตระเวนตรวจสอบในพื้นที่รอยต่อระหว่าง จ.สุรินทร์-ศรีสะเกษ และได้ไปสำรวจพื้นที่เขื่อนราษีไศลโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลล่างสำนักงานชลประทานที่8 กรมชลประทานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลล่าง ได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนราษีไศลเพื่อให้เกิดความสมดุลกับปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นและให้เป็นไปตามเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำของเขื่อนราษีไศล(Operation Curve)โดยได้ดำเนินการในวันเสาร์ที่ 31 พ.ค. 68 ที่ผ่านมา จากเดิมเปิด 1 บานระยะ 0.05 ม.คิดเป็นการระบายน้ำ 4.182 ลบ.ม./นาทีหรือ 0.361ล้าน ลบ.ม./วัน ปรับเพิ่มการระบายเป็นเปิดระยะยก 0.05 ม.คิดเป็นการระบายน้ำ 8.440 ลบ.ม./นาที หรือล้านลบ.ม./วัน