รุกทุกพื้นที่ทั่วไทย !!! “ปุ๋ยไทยกรีน” เจาะตลาดปลายด้ามขวาน “นราธิวาส”


หลังจากปุ๋ยอินทรีย์ ตราไทยกรีน เริ่มบุกตลาดภาคใต้ร่วม 2 เดือนกว่า โดยนำร่องส่งไปจำหน่ายให้เกษตรกรชาวสวนยางพารา สวยปาล์มน้ำมัน สวนผลไม้ และสวนมะพร้าว ปรากฏว่า กระแสตอบรับค่อนข้างดี โดยเฉพาะนำร่องจังหวัดตรังงแห่งแรก เนื่องจากขณะนี้ภาคใต้อยู่ในช่วงต้นฤดูฝน ชาวสวนเริ่มหาปุ๋ยที่ดีมาใช้ปรับปรุงดิน เพื่อช่วยให้ต้นไม้มีการเจริญเติบโตที่ดี
ขณะเดียวกัน แนวทางกระบวนการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ไทยกรีน ที่มีส่วนประกอบเปลือกไม้ยูคาลิปตัส ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้ ล้วนมาจากอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษในเครือ SCGP ที่ผ่านการวิจัย ทดสอบคุณภาพที่ได้มาตรฐาน น่าเชื่อถือได้ จึงสร้างความเชื่อมั่นให้เกษตรกรที่สามารถนำไปใช้กับพืชได้เกือบทุกชนิด
อีกทั้ง แนวทางบริษัท “โครงการต่อลมหายใจเกษตรไทย” เพื่อนำปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพดี “ไทยกรีน” สู่พี่น้องเกษตรกรไทย เพื่อลดต้นทุนในการเลือกใช้ปุ๋ยราคาแพง ส่งผลให้เกษตรกรต้องแบกภาระต้นทุนที่สูง โดยที่ให้เครดิตเกษตรกรผู้ซื้อปุ๋ยผ่อนชำระ 6 เดือน
ชัยธัช บัวบาน ผู้จัดจำหน่ายปุ๋ยอินทรีย์ ไทยกรีน โซนภาคใต้ กล่าวว่า ปัจจุบันเกษตรกรภาคใต้ส่วนหนึ่ง ช่วงที่ผ่านมา ค่อนข้างประสบปัญหาราคายางตกต่ำ ผลผลิตไม่ค่อยดี อีกทั้ง ยังเจอราคาผลไม้ตกต่ำ มีผลต่อสภาพคล่องทางการเงิน พอมาปีนี้เจอเรื่องภัยแล้ง และฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ดอกทุเรียน แห้งเฉาพอมาเจอลมกระโชกแรง ฝนตกหนัก ทำให้ดอกร่วง อาจมีผลต่อการเติบโตลูกทุเรียน และผลไม้อื่นๆ ทำให้เสี่ยงต่อผลผลิต
ดังนั้น ช่วงหน้าฝนเกษตรกรเริ่มหันมาใส่ปุ๋ยบำรุงดิน เพื่อให้ลำต้นมีการเจริญเติบโตที่ดี ยิ่งปุ๋ยอินทรีย์จะมีผลดีต่อ ผลไม้ที่ไม่มีสารเคมี และยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดีด้วย ยิ่งยุคนี้การทำเกษตรอินทรีย์เริ่มได้รับความสนใจจากเกษตรกรที่เพิ่มสูงขึ้น
“จะเห็นได้ว่าเมื่อนำปุ๋ยอินทรีย์ ไทยกรีนไปนำเสนอต่อเกษตรกรค่อนข้างที่ได้รับความสนใจไม่น้อย ยิ่งปุ๋ยมาจากโรงงานผลิตกระดาษของบริษัทชื่อดัง สร้างความน่าเชื่อถือลูกค้าไม่น้อย เกษตรกรอยากทดลองหันมาใช้ดูบ้าง บางคนเริ่มนำไปใส่ปุ๋ยบำรุงดินต้นยางพารา สามารถเพิ่มน้ำยางที่ดีขึ้น ใบเขียว มีความสมบูรณ์ เจริญเติบโตที่เห็นได้ชัดในระยะเวลาสั้นๆ” ชัยธัชกล่าวและว่า
ส่วนการทำการตลาดนั้น ล็อตแรกส่งไปจำหน่ายให้เกษตรกรจ.ตรัง ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดี ต่อจากนั้นเริ่มขยายตลาดไปยังสุราษฎร์ธานี ที่อำเภอพุนพินและอำเภอคีรีรัฐ อนาคตจะขยายไปยังจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งจังหวัดนี้มีเกษตรกรทำสวนยางพารา ทำสวนปาล์ม และสวนทุเรียน เงาะมากมาย และจ.สงขลาตามลำดับ
ด้าน 4 จังหวัดชายแดนใต้ ตอนนี้เริ่มเจาะตลาดที่อำเภอรีอเสาะ จ.นราธิวาส มีกลุ่มลูกค้าชาวสวนยางพาราและสวนผลไม้ สนใจในระดับหนึ่ง เชื่อว่าอนาคตน่าจะกระจายไปสู่ตลาดจังหวัดปัตตานี และยะลาได้ไม่ยาก เนื่องจากกลุ่มเกษตรกรเหล่านี้เมื่อได้เลือกใช้ปุ๋ยอินทรีย์ไปแล้ว มีผลดีต่อต้นไม้ จะบอกต่อกันไปแบบปากต่อปาก
ยิ่งในช่วงภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ เกษตรกรเองต้องหาทางเลือกที่ดี มีแรงจูงใจ เพื่อพยุงตัวกัน การซื้อปุ๋ยเป็นปัจจัยหนึ่งในเรื่องต้นทุนการผลิตทางการเกษตร ถ้าสินค้าดีใช้แล้วเห็นผลต่อการเจริญเติบโตต้นไม้ มีผลผลิตดี จะสร้างแรงจูงใจในการเลือกซื้อปุ๋ยเพิ่มขึ้น และย่อมมีอำนาจในการตัดสินใจง่ายขึ้น
“ปุ๋ยอินทรีย์ ไทยกรีน” น่าจะตอบโจทย์ให้กับเกษตรกรยุคนี้ได้ไม่ยาก หากสนใจติดต่อ คุณชัยธัช โทร...062-9399893