กองกำลังสุรสีห์ยกระดับความมั่นคงชายแดนรับมือเมียนมาสู้รบหนัก

กองกำลังสุรสีห์ยกระดับความมั่นคงชายแดนรับมือเมียนมาสู้รบหนัก





Image
ad1

จากเหตุการณ์ การปะทะกันดุเดือด ระหว่าง ทหารเมียนมา และกองกำลังกลุ่มต่อต้าน นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา  บริเวณ ช่องทางบ้องตี้ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ยังไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยและไม่มีผู้หนีภัยความไม่สงบ ชาวเมียนมา หลบหนีเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทยแต่อย่างใด

สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจาก ทหารเมียนมา กองพันทหารราบที่ 25 คอลัมน์ 2 ได้รับการเพิ่มเติมกำลังพลและยุทโธปกรณ์โดยอากาศยาน MI 17 ส่งผลให้ กองกำลังกลุ่มต่อต้านที่เคลื่อนไหว อยู่ในประเทศเมียนมาฝั่งตรงข้ามช่องทางบ้องตี้ อำเภอไทรโยค ทำการโจมตีฐานปฏิบัติการ ทหารเมียนมา เพื่อไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายกำลังออกมาลาดตระเวนในพื้นที่อิทธิพลของ กองกำลังกลุ่มต่อต้าน หรือไม่ให้ทหารเมียนมา มีกำลังพลเพียงพอสำหรับปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่

ขณะเดียวกันกองกำลังสุรสีห์ ได้จัดตั้ง กองบัญชาการติดตามสถานการณ์ เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ยกระดับการปฏิบัติงาน การเตรียมความพร้อมของกำลังที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนให้มีความเข้มข้นมากขึ้น และเตรียมความพร้อมกำลัง

สำหรับปฏิบัติการในกรณีสถานการณ์มีความรุนแรงมากขึ้น นอกจากนั้นแล้ว ยังได้มีการบูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครอง, อปท.,รพ.สต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จัดเตรียมพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว กรณีที่มี ผู้ประสบภัยสงคราม หนีภัยการสู้รบเข้ามายังฝั่งไทย รวมทั้งพื้นที่อพยพพลเรือน พื้นที่ควบคุมตัวกองกำลังติดอาวุธที่อาจถอนตัวเข้ามาในฝั่งประเทศไทย รวมทั้งได้ประชาสัมพันธ์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ให้กับส่วนราชการ ประชาชน และสื่อมวลชนในพื้นที่ได้รับทราบ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน

นอกจากนี้ ทาง กกล.สุรสีห์ ได้ยืนยันว่า สถานการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดนยังไม่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนตามแนวชายแดน และกองกำลังสุรสีห์ มีความพร้อมสูงสุดในการปฏิบัติงานในด้านความมั่นคงตามแนวชายแดนในพื้นที่รับผิดชอบ โดยจะไม่ยอมให้เกิดการรุกล้ำอธิปไตยของชาติอย่างเด็ดขาด