ตชด.24 จับยาบ้า 6.3 แสนเม็ดซุกกระสอบ เตรียมส่งเมืองอุดรธานี


เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 22 เม.ย.2568 ที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ภายใต้การอำนวนการ ของ ว่าที่ พ.ต.อ.กรณ์ ไชยเสือ ผกก.ตชด.24 มอบหมายให้ พ.ต.ท.บุญเลิศ วิเศษชาติ รอง ผกก.ตชด.24 เจ้าหน้าที่ตชด.24ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา2รายพร้อม(ยาบ้า) 632,360 เม็ด
พ.ต.ท.บุญเลิศ วิเศษชาติ รองผกก.ตชด.24 เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี โดยที่กลุ่มขบวนการดังกล่าวจะใช้รถยนต์ยี่ห้อวีออส สีบร์อน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน และรถยนต์ ยี่ห้อนิสสัน อาเมล่า สีขาว หมายเลขทะเบียน นข 678 หนองคาย จำนวน 2 คัน ในการลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ โดยกลุ่มขบวนการดังกล่าวจะมีนายแฮกฯซึ่งเป็นหัวหน้า ซึ่งนายแฮกฯจะสั่งให้ผู้ร่วมขบวนที่อยู่พื้นที่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ให้นำรถยนต์อีกคันไปสับเปลี่ยนรถยนต์ที่ จว.หนองคาย แล้วใช้รถยนต์คันดังกล่าวในการลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ จ.อุดรธานี ไปจนถึงพื้นที่ใกล้เคียง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตชด.24 ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชปข.ร้อย ตชด.245 ให้เฝ้าระวังรถยนต์คันดังกล่าว ในพื้นที่ จ.หนองคาย ต่อมาสายลับได้แจ้งมาว่า นายปุ๊ฯซึ่งเป็นหนึ่งผู้ร่วมกลุ่มขบวนการให้ไปลำเลียงยาเสพติดจาก จ.หนองคาย เพื่อนำไปในพื้นที่ จ.หนองคาย และ จ.อุดรธานี จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ทำการงานสืบสวนและได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ผู้บังคับบัญชาจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.24 ดำเนินการสืบสวนติดตามกรณีดังกล่าว
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 เม.ย 2568 สายลับได้ติดต่อมาว่าหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการจะใช้รถยนต์ ยี่ห้อนิสสัน อาเมล่า สีขาว หมายเลขทะเบียน นข 678 หนองคาย เข้ามาพื้นที่ จ.หนองคาย เพื่อที่จะเข้ามาลำเลียงยาเสพติดไปส่งให้กับลูกค้าตามจุดต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ออกสืบสวนหาข่าวในพื้นที่ และเวลาประมาณ 23.30 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่วางกำลังซุ่มอยู่บริเวณข้างทาง ได้พบรถยนต์ลักษณะตรงตามที่สายลับได้แจ้งมาอยู่ที่บริเวณหน้าวัดโพธิ์ชัย ต.ในเมือง อ.เมือง จว.หนองคาย ขาเข้าเมืองหนองคาย
ในขณะที่รถยนต์คันดังกล่าวติดไฟสัญญาจราจร เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจค้นรถยนต์ต้องสงสัย จากนั้นเมื่อคนขับรถยนต์คันดังกล่าวเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งรถหลบหนีทำให้เกิดการเฉี่ยวชนรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นจึงได้ขับรถยนต์หลบหนี ไปยังทางเลี่ยงเมือง จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสกัดรถยนต์ของคันดังกล่าวไว้ได้ตามหลักยุทธวิธี เมื่อรถยนต์คันดังกล่าวได้หยุดเคลื่อนที่ได้มีชาย 2 คน ได้ลงจากรถยนต์คันดังกล่าว วิ่งหลบหนีไปยังบริเวณป่าข้างบริเวณบริษัทแลคตาซอยริมถนนทางเข้าสะพานยกระดับ อ.เมือง จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวทั้งสองคนไว้ได้ ทราบชื่อภายหลังการจับกุม คือ
1.นายยมนาหรือปุ๊ฯ บรรณารักษ์ อายุ 37 ปี และ2.นายภิญโญวิทย์หรือโก้ฯ วัตธัน อายุ 26 ปี หลังจากเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้น พบกระสอบสีขาวอยู่ภายในท้ายรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน อาเมล่า สีขาว หมายทะเบียน นข 678 หนองคาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ตรวจสอบพบว่าเป็นยาเสพติด(ยาบ้า)จริง จำนวน 3 กระสอบ พร้อมด้วยของกลาง ดังนี้
1.ยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) ห่อหุ้มด้วยกระดาษเทียนไขกันชื้นสีน้ำตาล มีอักษรY1สีเขียว จำนวน 100 มัด (ประมาณ 200,000 เม็ด) ทั้งหมดบรรจุอยู่ภายในกระสอบสีขาว กระสอบที่ 1
2.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ห่อหุ้มด้วยกระดาษเทียนไขกันชื้นสีน้ำตาล มีอักษรY1สีเขียว จำนวน 100 มัด (ประมาณ 200,000 เม็ด) ทั้งหมดบรรจุอยู่ภายในกระสอบสีขาว กระสอบที่ 2
3.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ห่อหุ้มด้วยกระดาษสาสีขาวและห่อหุ้มด้วยพลาสติกใส มีอักษรAสีเขียว จำนวน 30 มัด (ประมาณ 60,000 เม็ด) ทั้งหมดบรรจุอยู่ภายในกระสอบสีขาว กระสอบที่ 3
4.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ห่อด้วยแล็กซีนสีน้ำตาล จำนวน 32 มัด(ประมาณ 64,000 เม็ด) ทั้งหมดบรรจุอยู่ภายในกระสอบสีขาว กระสอบที่ 3
5.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกแบบกดปิดตึงเปิดสีชมพูและสีดำซึ่งทั้งหมดห่อหุ้มด้วยพลาสติกใส 54 มัด(ประมาณ 108,000 เม็ด) ทั้งหมดบรรจุอยู่ภายในกระสอบสีขาว กระสอบที่ 3
6.ยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) บรรจุภายในถุงพลาสติกแบบกดปิดตึงเปิดสีดำ จำนวน 2 ถุง ถุงที่ 1 จำนวน 172 เม็ด ถุงที่ 2 จำนวน 186 เม็ด ทั้งหมดบรรจุอยู่ภายในกระสอบสีขาว กระสอบที่ 3
รวมยาบ้าทั้งหมด 632,360 เม็ดโดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” และ “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย”และได้แจ้งผู้ต้องหาที่ 1 เพิ่มเติมว่า “ขับขี่ยานพาหนะในขณะมีสารเสพติดในร่างกาย”นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กองกำกับการ ตชด.24 ได้เน้นย้ำการปฎิบัติงานในการ สกัดกั้นยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย อย่างเข้มข้นในการใช้ยุทธวิธีด้านการข่าวและตั้ง จุดตรวจจุดสกัด ตามนโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ “ซีลชายแดน 2 ชั้น” Seal Stop Safe เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดและควบคุมการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศ พ.ต.ท.บุญเลิศ วิเศษชาติ รอง ผกก.ตชด.24 กล่าวทิ้งท้าย