ทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้าลอตใหญ่ยึดของกลางกว่า 2,000 ชิ้น


กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางบุกค้นโกดังบุหรี่ไฟฟ้าลอตใหญ่ พบวัยรุ่นลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านสื่อออนไลน์ ยอดขายหลักล้านต่อเดือน ยึดของกลางกว่า 2,000 ชิ้น
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับ การคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.อนันต์ บัวแก้ว สว.กก.1 บก.ปคบ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคบ. ได้ทำการจับกุม นาย วีระภัทร์ ปันโย อายุ ๑๘ ปี สัญชาติไทย ที่อยู่ 1/89 ซ.สายไหม 23/1 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพฯ
โดยกล่าวหาว่า “ขายสินค้าที่คณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ มีคำสั่งห้ามผลิตเพื่อขาย ห้ามขายหรือให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า" (คำสั่งที่ 24/2567 เรื่อง ห้ามผลิตเพื่อขาย ห้ามขายหรือให้บริการสินค้า "บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า") ตาม ม.29/9 ประกอบอัตราโทษ ม.56/4 พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2562 (ฉบับแก้ไขที่ 4)”
พฤติการณ์ ตามนโยบายหลักของรัฐบาลสั่งการให้ทุกหน่วยงานภาครัฐบูรณาการความร่วมมือเดินหน้าปราบปราม หยุดยั้งการลักลอบผลิต นำเข้าหรือจำหน่าย เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดบุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิด
เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค นำโดย พ.ต.ท.อนันต์ บัวแก้ว สว.กก.1 บก.ปคบ. จับกุม นาย วีระภัทร์ อายุ 18 ปี พร้อมตรวจยึดของกลางกว่า 2,000 ชิ้น ได้ที่โกดังย่านลาดปลาเค้า 48 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ สืบเนื่องมาจาก กก.1 บก.ปคบ. ได้สืบสวนทราบว่าโกดังหรือบ้านในซอยลาดปลาเค้า 48 มีวัยรุ่นในพื้นที่ได้เข้ามาในซอยเพื่อมารับส่งมอบสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าสังเกตการณ์อยู่สักระยะ ต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 26 ก.พ.2568 ได้มีวัยรุ่นขี่จักรยานยนต์ เข้ามาและจอดรถบริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง และมีหญิงสาวเดินออกจากบ้านหลังดังกล่าวในมือถือกล่องลังพัสดุยืนให้พร้อมรับเงินจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัว
และทำการขออนุญาตเข้าตรวจค้น โดยหญิงสาวคนดังกล่าว ยินดีและเต็มใจให้ตรวจค้น ระหว่างการตรวจค้นพบว่า นาย วีระภัทร์ฯ กำลังแพ็คสินค้าบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อเตรียมส่งให้ลูกค้าและสินค้าที่หญิงสาวมามอบให้กับวัยรุ่นเป็นของนาย วีระภัทร์ฯ ทั้งหมด ผลการตรวค้นพบบุหรี่ไฟฟ้าชนิดสูบแล้วทิ้งกว่า 2,000 ชิ้น รวมมูลค่าของกลางประมาณ 600,000 บาท จึงได้แจ้งให้ นายวีระภัทร์ฯ ว่าจะต้องถูกจับและแจ้งสิทธิ์ตามกฎหมายให้ผู้ต้องหาทราบ เจ้าหน้าที่ตำรวจฯชุดจับกุมจึงควบคุมตัวผู้ถูกจับและของกลางตามรายการบันทึกจับกุม นำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป
ชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และให้การว่าบุหรี่ไฟฟ้าทั้งหมดนี้ เป็นสินค้าที่มาเก็บไว้ที่โกดังเพื่อรอการจัดส่งสินค้าให้กับประชาชนโดยทั่วไป และนำมาขายในสื่อสังคมออนไลน์อีกทอดหนึ่ง
เตือนภัย การขายหรือบริการสินค้า “บุหรี่ไฟฟ้าหรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า” ในพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งมีโทษจำคุก 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ