กำนันตำบลเหลืออดร้องอดีตผญบ.ส่อทุจริตเงินฝากชาวบ้านสูญหายนับล้าน


อุทัยธานี- วุ่นทั้งตำบล!!ตำรวจถึงขั้นย้ายโรงพักสอบปากคำชาวบ้านนับร้อยคน หลังกำนันตำบลเหลืออด ร้องอดีตผู้ใหญ่บ้านเก่าประธานเงินฝากหมู่บ้านไม่โปร่งใส เสียหายนับล้านบาท ชาวบ้านเดือดร้อน ลั่นวอนตำรวจเร่งตรวจสอบ ตำรวจชี้แจงพึ่งได้รับแจ้งความ กำลังลงพื้นที่ตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
ที่สถาบันการเงินบ้านคีรีวงศ์ หมู่ 15 บ้านคีรีวงศ์ ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี หลังจากได้รับการร้องเรียนจากนายอนุพันธ์ สารสุวรรณ์ กำนันต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ได้เปิดเผยว่า ตนเองนั้นได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในเขต ต.ระบำ มาอีกทีว่า ถูกนายถนอม อายุ 72 ปี ซึ่งเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านเก่า เป็นประธานสถาบันการเงินชุมชนบ้านคีรีวงศ์ ไม่โปร่งใสกับชาวบ้าน ว่าชาวบ้านได้นำเงินมาฝากในชุมชนแล้วไม่ได้เงินเบิกออกมา ตนเองจึงได้รับเรื่องไว้ตรวจสอบ พร้อมรายงานไปยังนายอำเภอลานสัก และเจ้าหน้าที่ ตำรวจสภ.ลานสัก ว่าให้เข้ามาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ตำบลระบำ ในเขตที่ตนเองนั้นรับผิดชอบ หมู่ 15 หมู่ 3 หมู่ 18 ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี
ที่ชาวบ้านนำเงินมาฝากกันกับชุมชนไว้ แต่ถึงเวลาเบิกถอน ถอนไม่ได้ โดยเฉพาะเงินฝากของเด็กนักเรียนทั้งหมด 84 คน ประมาณ 500,000 บาท รวมถึงผู้เสียหายพระ และแม่ชี พร้อมชาวบ้านนับร้อยคน รวมแล้วประมาณ ล้านกว่าบาท รวมกับเงินกองทุนหมู่บ้านที่หายไป รวมแล้วประมาณ 3,948,172 บาท ได้รับความเดือดร้อนจากเงินฝากของหมู่บ้าน และเงินกองทุนหมู่บ้านที่หายไป อยากจะให้ชาวบ้านได้รับเงินฝากคืน จึงได้ร้องเรียนผู้สื่อข่าวในครั้งนี้ เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมกับฝากเตือนชาวบ้านว่ามีอะไรให้มาปรึกษากำนันในพื้นที่ อย่ากลัวอิทธิพลในหมู่บ้าน
โดยนายถนอม อายุ 72 ปี ซึ่งเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านเก่า และเป็นประธานสถาบันการเงินชุมชนบ้านคีรีวงศ์ปัจจุบัน ที่ถูกชาวบ้านได้ร้องเรียนแจ้งความ ได้เปิดเผยว่า ตนเองยอมรับในหน้าที่การงาน เนื่องจากได้ทำงานบกพร่อง และยินดีเข้าสู่ขบวนการ และยอมรับในสิ่งที่ผิดพลาดไป ยินดีชดใช้เงินให้กับชาวบ้านทุกคน โดยในกระบวนการนี้ตนเองก็ได้เสียที และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยไม่ได้ตั้งใจยักยอกทรัพย์ แต่มีหนอนข้างใน ที่ทำหน้าที่ให้ไม่โปร่งใส ทั้งนี้ทั้งนั้นตนเองก็ยอมรับและยินดีที่ชดใช้ให้ เนื่องจากตนเองเป็นประธานสถาบันการเงินในชุมชน และยินดีให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบถามนายเชิด รองประธานสถาบันการเงินชุมชนบ้านคีรีวงศ์ ได้เปิดเผยว่าตนเองพร้อมชาวบ้านนับร้อยคนได้เข้าแจ้งความไว้ที่สภ.ลานสัก ในวันที่ 29 ส.ค 2567 ที่ผ่านมา ไว้เป็นที่เรียบร้อย อยากให้เจ้าหน้าที่ตร.สภ ลานสัก เร่งดำเนินการให้ไว และให้ถึงที่สุด เนื่องจากชาวบ้านนับร้อยคนได้รับความเดือดร้อน รวมถึงเด็กนักเรียน ที่ต้องใช้เงินในอนาคตเพื่อการศึกษา เนื่องจากเป็นตัวเงินฝากของชาวบ้านในชุมชน และรวมเงินกองทุนของหมู่บ้าน สูงมากถึงขั้นสามล้านกว่าบาทเกือบสี่ล้าน หวั่นจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้เงินคืนที่นำไปฝากไว้ก่อนหน้านี้
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถามกับ พ.ต.ท.สันติ ทองเชื้อ รองผู้กำกับสอบสวนสภ.ลานสัก ได้เปิดเผยว่าตนเอง ไม่ได้นิ่งนอนใจ เนื่องจากอยู่ระหว่างการสอบสวน พร้อมกับการรับเรื่องไว้และได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้าน เนื่องจากต้องเตรียมสอบปากคำและเอกสาร จากสมาชิกหมู่บ้าน หลายร้อยคน และค่อยๆรวบรวมเอกสารที่ชาวบ้านนำมาแจ้ง พร้อมกับวันนี้ตนเองพร้อมร้อยเวร สภ.ลานสัก สอบสวนคดีดังกล่าว ได้ลงพื้นที่มามายังหมู่บ้าน เพื่อสอบปากคำกับชาวบ้าน เพื่อจะได้เร่งดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป และให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านดังกล่าว