ฝนตกหนักท่วมด่านเกวียน ผู้ค้าเครื่องปั้นดินเผาโอดเสียหายยับ จมซ้ำซากไร้แก้ไขปัญหา


นครราชสีมา-ฝนตกหนักท่วมฉับพลันในพื้นที่ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เนื่องจากระบายไม่ทัน เอ่อท่วมผิวจราจร ถนนสาย 224 ราชสีมา-โชคชัย ช่วงผ่าน ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย ตั้งแต่หน้าโรงเรียนอนุบาลแสนสนุก , แหล่งจำหน่ายสินค้าเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน ไปจนถึงโรงเรียนบ้านด่านเกวียน และมีน้ำป่าไหลหลากจากพื้นที่สูงเข้ามาสมทบด้วย ทำให้ระดับน้ำท่วมสูงต่อเนื่อง รถสัญจรลำบากโดยเฉพาะรถขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ นอกจากนี้ ในช่วงที่มีรถเคลื่อนผ่าน ได้ทำให้มวลน้ำซัดไหลหลากเข้าบ้านเรือน ชุมชน และร้านค้าที่อยู่ริมทาง ทำให้ข้าวของได้รับความเสียหาย
ล่าสุด วันนี้(21 สิงหาคม 2567) ผู้สื่อข่าวได้ไปติดตามสถานการณ์อีกครั้ง ลงพื้นที่ไปยังบริเวณชุมชนเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน ซึ่งพบว่า สถานการณ์น้ำได้ลดลงแล้ว เหลือเพียงร่องรอยความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมไปถึงคราบดินโคลนที่ไหลมากับน้ำ บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่จำหน่ายเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน ต่างเร่งทำความสะอาดและเก็บเครื่องปั้นดินเผาที่เสียหายนำไปทิ้ง ซึ่งเป็นเครื่องปั้นดินเผาที่พร้อมจำหน่ายให้กับลูกค้า มีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันบาท ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่จำหน่ายเครื่องปั้นดินเผาอยู่ในชุมชนเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนเป็นอย่างมาก
นางสุก ชิดดีนอก อายุ 59 ปี ผู้ค้าร้านสุกสำเร็จ บอกว่า “ฝนตกตั้งแต่ช่วงบ่ายแก่ๆ วานนี้ ยาวจนถึงเย็นยิ่งตกหนักมากขึ้น นานเกือบ 2 ชั่วโมง จนท่อระบายน้ำรองรับน้ำฝนไม่ไหว เอ่อล้นท่อออกมา และยังมีน้ำที่ท่วมถนนไหลเข้ามาในร้านเรื่อยๆ จนตนต้องรีบกลับไปดูที่บ้าน เพราะกลัวน้ำจะท่วมบ้าน ส่วนที่ร้านก็มีข้าวของเสียหาย เช่น อ่างบัวใหญ่ที่วางโชว์อยู่หน้าร้าน ก็ลอยกลิ้งไปกับน้ำ จนถึงถนนใหญ่ บางส่วนก็แตกหัก ล้มกระจัดกระจาย ซึ่งปกติจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ทุกปี แต่ปีนี้หนักสุด ไม่ทราบว่ามาจากสาเหตุอะไร มีใครปล่อยระบายน้ำจากพื้นที่อื่นลงมาหรือไม่ ตนยังไม่แน่ใจ และสำหรับสินค้าที่เสียหายในครั้งนี้ ก็ราวๆ 1 หมื่น- 2 หมื่นบาท ซึ่งยังมีร้านใหญ่ๆ อีกหลายร้านที่ได้รับความเสียหายมากกว่าร้านของตน”
ด้านนางจิน แซ่จึง อายุ 75 ปี ผู้ค้าร้านต้นตระกูลดินเผา เล่าว่า “ฝนที่ตกลงมาเมื่อวาน ตกแรงมาก แต่ตนไม่คิดว่า น้ำจะท่วมเข้ามาในร้าน จึงไม่ได้เตรียมการป้องกันเอาไว้ แต่ผิดคาด คราวนี้น้ำท่วมรุนแรง และมาเร็วมาก ท่วมเข้ามาในร้าน สูงเรื่อยๆ จนเกือบถึงเอว ทำให้สินค้าในร้านพังยับเยิน เสียหายเกือบทั้งหมด จะมีทั้งแจกัน งานปั้น งานส่งออกเสียหายหมด ไม่รู้จะทำอย่างไร มูลค่าความเสียหายประมาณ 2-3 หมื่นบาท ตอนนี้ก็ต้องตรวจเช็คสินค้าดูว่า อันไหนพอจะเก็บหรือนำมาซ่อมแซมได้ ก็เก็บกองไว้ ส่วนที่แตกหักเสียหายก็ต้องโยนทิ้งขยะไป ซึ่ง เหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันแบบนี้ จะมาปีละ 1 ครั้ง เหนื่อยใจ ไม่อยากให้เกิดแบบนี้อีก เห็นข้าวของเสียหาย ทำได้แค่ยืนมอง ทำตาปริบๆ เท่านั้น ”
ผู้สื่อจึงสอบถามไปยัง นายธรรมธรรศ ทองสำโรง นายอำเภอโชคชัย ถึงแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้น ซึ่งนายธรรมธรรศ ฯ เปิดเผยว่า “ลักษณะทางกายภาพของ ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จะเป็นแอ่งกระทะ เมื่อมีฝนตกหนักแช่ติดต่อกันนานๆ จะเกิดน้ำท่วมขังทุกปี และปีนี้ก็เช่นกัน แต่ถ้าไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม ระดับน้ำจะลดลง จนเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1-2 วัน ส่วนบ้านเรือนที่น้ำไหลหลากเข้าท่วม จะมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ เข้ามาดูแลเพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้น และสำหรับการแก้ไขปัญหาระยะยาว ตนได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น แขวงทางหลวง และภาคส่วนต่างๆ รวมถึง ท้องถิ่น – ท้องที่ ร่วมกันแก้ไขปัญหาทำให้มวลน้ำที่ไหลมารวมในแอ่งกระทะ ผันออกไปลงลำน้ำมูลให้เร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นโครงการขนาดใหญ่ ใช้งบประมาณค่อนข้างสูง ต้องขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานขนาดใหญ่เข้ามาช่วยเหลือต่อไป ส่วนสถานการณ์ตอนนี้ ก็เกือบเข้าสู่ภาวะปกติ รถสัญจรไปมาได้ เหลือบ้านเรือนบางหลังที่ข้าวของเปียกเสียหาย ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจดูแลเพื่อให้การเยียวยาเบื้องต้นตามระเบียบราชการ
ด้านนายชรินทร์ เปลี่ยนกระโทก นายกเทศมนตรีตำบลด่านเกวียน กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย ทางเทศบาลตำบลด่านเกวียน ได้นำถุงยังชีพเข้าไปให้ให้กำลังใจและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว ส่วนความเสียหาย จะมีบ้านเรือนได้รับผลกระทบ น้ำหลากทะลักเข้าท่วม ทำให้อยู่อาศัยลำบาก และมีทรัพย์สิน เครื่องใช้ไฟฟ้าได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ร้านค้าเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน มีหลายร้านที่ได้รับผลกระทบ มวลน้ำพัดเครื่องปั้นดินเผาแตกเสียหาย บางชิ้นลอยไปกับน้ำ และถูกน้ำท่วมทำให้สีหลุดลอกเสียหาย ทำให้ขาดรายได้ และต้องเพิ่มการลงทุนมาซ่อมแซมสินค้าด้วย ซึ่งมวลน้ำจำนวนมากที่ไหลมาลงแอ่งกระทะจุดนี้ จะหลากลงมาจากเนินสูงฝั่งทิศตะวันตกที่มีไร่มันสำปะหลังและไร่ข้าวโพดรวมหลายพันไร่ ซึ่งบริเวณนั้น เป็นดินร่วนปนทราย ไม่อุ้มน้ำ เมื่อมีฝนตกหนัก
มวลน้ำขนาดใหญ่จะหลากลงมาพื้นที่ต่ำ เข้าสู่หมู่บ้าน/ชุมชนอย่างรวดเร็ว ก่อนไหลไปลงคลองชลประทานของเขื่อนลำพระเพลิง พอมวลน้ำเต็มคลองชลประทานที่บริเวณศาลเจ้าพ่อขุนด่าน ท่อระบายแถวนั้นจะมีขนาดเล็ก ทำให้มวลน้ำไหลลงท่อได้ช้า ระบายไม่ทัน น้ำจึงเอ่อล้นคลองส่งน้ำ แล้วทะลักเข้าสู่หมู่บ้าน/ชุมชน ซึ่งวิธีการแก้ไข ทางเทศบาลฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ประสานไปยังกรมชลประทาน ผ่านทางเขื่อนลำพระเพลิง ขอรับการจัดสรรงบประมาณเข้ามาสนับสนุนดูแลเรื่องการสร้างและขยายท่อระบายน้ำที่ลอดใต้ถนนสาย 224 ราชสีมา-โชคชัย เพื่อให้สามารถระบายน้ำไปลงท่อลอดใต้ถนนได้มากขึ้น จะได้แบ่งมวลน้ำให้ไหลไปลงน้ำมูลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ผลกระทบน้ำท่วมหมู่บ้าน/ชุมชนจะได้ลดลงไม่สาหัสแบบนี้ .