เปิดตัวแล้ว "สันติภาพ" ผู้สมัคร ลงสนามชิงเก้าอี้ นายก อบจ.น่าน เชื่อมั่น อำนาจท้องถิ่นแก้ปัญหาได้จริง โชว์นโยบายแก้ปัญหา การศึกษา ป่าไม้ ที่ดินทำกินและสิ่งแวดล้อม

เปิดตัวแล้ว "สันติภาพ"  ผู้สมัคร ลงสนามชิงเก้าอี้ นายก อบจ.น่าน   เชื่อมั่น อำนาจท้องถิ่นแก้ปัญหาได้จริง โชว์นโยบายแก้ปัญหา  การศึกษา  ป่าไม้  ที่ดินทำกินและสิ่งแวดล้อม





Image
ad1

น่าน – เปิดตัวแล้ว "สันติภาพ"  ผู้สมัคร ลงสนามชิงเก้าอี้ นายก อบจ.น่าน   เชื่อมั่น อำนาจท้องถิ่นแก้ปัญหาได้จริง โชว์นโยบายแก้ปัญหา  การศึกษา  ป่าไม้  ที่ดินทำกินและสิ่งแวดล้อม

สนามการเมืองท้องถิ่น ระดับองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน ที่จะหมดวาระลง วันที่ 20 ธ.ค. 2567 และจะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ พร้อมกัน  76 จังหวัด ภายใน 45 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด    โดยนายสันติภาพ อินทรพัฒน์   อดีตสมาชิกวุฒิสภา จ.น่าน ปี 2543 - 2549   และประธานมูลนิธิสันติภาพ  และยังเป็นทนายความ  ได้เปิดตัวชัดเจนแล้วว่าเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน  โดยเชื่อมั่นการใช้อำนาจท้องถิ่น เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับคนน่านได้จริง  พร้อมใช้ประสบการณ์ทางการเมืองระดับประเทศ วางแผนนโยบายที่จะขับเคลื่อนทั้งด้าน การศึกษา ที่ดินทำกิน ป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม

นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ กล่าวว่า มีความตั้งใจในลงสนามสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยลงสมัครในสนามการเมืองระดับชาติเลย ทั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ สส  และ สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. ที่ผ่านมา เพราะเชื่อมั่นว่าการเมืองระดับท้องถิ่น จะแก้ปัญหาให้กับคนน่านได้อย่างแท้จริง   โดยเฉพาะการทำงานต้องรู้จริง เข้าใจ ทำได้ ทำเป็น  ในฐานะนักกฎหมาย มีมุมมองว่าอำนาจเต็มในการแก้ไขปัญหาท้องถิ่น คืออำนาจของท้องถิ่น ซึ่งสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น และการแก้ไขตามบริบทของจังหวัดน่าน จะสำเร็จได้นั้น ต้องใช้อำนาจของท้องถิ่นอย่างเดียวเท่านั้น โดยอาศัยบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น มาตรา 249 – 254

"เพื่อต้องการเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับคนน่าน ในทุกเรื่องที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของท้องถิ่น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา  กว่า 40 ปี ที่ได้รับเรื่องร้องเรียนและต้องช่วยชาวบ้านในคดีเกี่ยวกับการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแห่งชาติ ประชาชนที่อาศัยอยู่มาก่อน ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 รวมถึงปัญหาที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัยและแหล่งน้ำ ปัญหาด้านภัยพิบัติซ้ำซากต่างๆ  รวมถึงการพัฒนา ส่งเสริม สนับสนุนด้านการท่องเที่ยว  การศึกษา  และด้านอื่นๆ ทั้งหมดล้วนต้องใช้อำนาจหน้าที่ท้องถิ่น"

โดยเปิดเผยนโยบาย 4 ปี  6 ด้าน ได้แก่    ด้านการศึกษา  ตั้งโรงเรียนกีฬาและโรงเรียนหลักสูตรนานาชาติ   ด้านที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน     ประชาชนที่อาศัยอยู่ในผืนป่า หรืออุทยานแห่งชาติ ก่อนพ.ร.บ.ป่าสงวนใช้บังคับ ต้องอยู่โดยเฉพาะด้วยกฎหมาย   ประชาชนต้องมีที่ดินทำกิน  มีแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร  จัดตั้งตลาดองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่านเพื่อจำหน่ายและระบายสินค้า    ด้านการท่องเที่ยว   จัดทำกระเช้าขึ้นดอยภูคาหรือที่อื่นใดเมื่อประชาชนในพื้นที่ต้องการจะดำเนินการให้ตามความต้องการของประชาชนและศักยภาพของท้องถิ่นเท่าที่มี    น้ำพุร้อนที่ดีที่สุดสำหรับออนเซนที่บ้านน้ำกิ อำเภอท่าวังผา  น้ำแร่ที่ดีที่สุดของประเทศที่ตำบลยอด อำเภอสองแคว   เปิดจุดผ่อนปรนตามมติคณะรัฐมนตรี 4 ช่องทาง เพื่อการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน   ด้านสิ่งแวดล้อม  แก้ไขปัญหามลพิษตามที่เป็นข่าวโดยตั้งคณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อมและศึกษาว่ามีผลกระทบจริงหรือไม่ โดยใช้อำนาจของท้องถิ่นซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง   ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย   แก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากบ้านดอนตัน-สบหนอง และบริเวณใกล้เคียง อำเภอท่าวังผา รวมถึงปัญหาน้ำท่วมทุกพื้นที่จังหวัดน่าน    ด้านทรัพยากรธรรมชาติ   จังหวัดน่านต้องมีรายได้เกิดขึ้นที่จังหวัดน่าน   แหล่งเงินที่มาของจังหวัดน่าน  ภาษีจากการนำเข้าสินค้าต่างๆ อาทิเช่น กระแสไฟฟ้าเข้ามาในราชอาณาจักรไทย 10% จากเงินภาษีที่ชำระให้กับรัฐบาล จังหวัดน่านจะต้องได้เงินภาษีนั้นตามกฎหมาย และจะติดตามและประสานเงินที่ได้จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตที่ต้องเพื่อนำมาดูแลจังหวัดน่านเพราะปริมาณของแม่น้ำน่าน 40% ไปหล่อเลี้ยงแม่น้ำเจ้าพระยา  ซึ่ง นโยบายต่างๆเบื้องต้น ที่ต้องนำไปพัฒนาจังหวัดน่าน เพื่อคนน่านตามความสำคัญก่อน - หลัง รวมถึงปัญหาต่างๆที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยท้องถิ่น ภายใต้บทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยในหมวด 14 มาตรา 249-254 ซึ่งเป็นอำนาจตามกฎหมาย"

ระรินธร   เพ็ชรเจริญ รายงาน